แนะนำ 15 วิธีดีๆ ที่จะช่วยดับปัญหากลิ่นปากของทุกคนได้

WM

หมดปัญหา ปากเหม็นด้วย 15 วิธีดับกลิ่นปาก ใครกลิ่นปากแรงต้องดู!

เรื่องของกลิ่นปากนั้นไม่ว่าจะกับใครก็ไม่อยากมีหรอกใช่มั้ยล่ะคะ แต่แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้มันสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และนั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของทุกคนได้ อีกทั้งยังสามารถทำเอาใครๆต่างก็หมดความมั่นใจได้ แน่นอนว่าทางแก้ไขก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะค่ะ และก็มีมากมายเลยด้วย ถ้าหากวิธีเดิมๆที่เคยทำมาก่อนนั้นยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร ในวันนี้เราจึงมา แนะนำ 15 วิธีดีๆที่จะช่วยดับปัญหากลิ่นปากของทุกคนได้ค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วอย่าช้า แล้วก็ตามมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

กลิ่นปากนอกจากจะเป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นแล้ว กลิ่นปากยังทำให้คุณบุคลิกภาพไม่ดีอีกด้วย ทำให้สูญเสียความมั่นใจ และบางคนอาจอยู่ในสภาวะเครียดได้ และบางทีปัญหานี้ก็อาจส่งผลกระทบถึงหน้าที่การงานและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนใกล้ตัว บางคนอาจมองว่ากลิ่นปากเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่ต้องรีบรักษา แต่สำหรับคนที่มีปัญหานี้เราเชื่อว่ากลิ่นปากไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแน่นอน

วิธีดับกลิ่นปาก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@diana_pole

 

1. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่ต้องแปรงให้ถูกวิธี แล้วอย่าลืมแปรงตามซอกเหงือกและกระพุ้งแก้มด้วย (การแปรงฟันไม่ถูกวิธีก็นำมาซึ่งกลิ่นปากแบบไม่น่าเชื่อได้นะเออ)

2. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อช่วยขจัดเศษอาหารและกำจัดเชื้อโรคออกให้หมด

3. เลือกใช้น้ำยาบ้วนปาก เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ดีที่สุด ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็สามารถช่วยซอกซอนเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียได้ทั่วทั้งปาก แม้ในบริเวณที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง

4. ทำความสะอาดลิ้น โดยธรรมชาติแล้วลิ้นของเราผิวจะขรุขระ ไม่เรียบ จึงเป็นที่กักของเศษอาหารต่าง ๆ จากการศึกษาพบว่าแบคทีเรียที่มีผลต่อกลิ่นปากมักอยู่ตามโคนลิ้นมากกว่าที่เหงือกและฟัน ดังนั้นการทำความสะอาดลิ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปากและลดกลิ่นปาก วิธีการทำความสะอาดลิ้นทำได้ง่าย ๆ โดยใช้แปรงสีฟันแปรงลิ้นให้ลึกถึงโคนลิ้นในขณะแปรงฟัน หรือใช้ไม้ขูดลิ้นขูดฝ้าบนลิ้นออก โดยขูดจากโคนลิ้นมาด้านหน้า ทำประมาณ 3-4 ครั้ง ก็จะเห็นคราบอาหารติดออกมา โดยควรทำวันละ 2 ครั้งต่อวัน ตอนตื่นนอนและก่อนนอน นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีกากก็ช่วยถูลิ้นได้เช่นกัน เช่น สับปะรด อ้อย เป็นต้น

5. ฝึกใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) หลังการแปรงฟันให้เป็นนิสัย อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันได้ เมื่อใช้ Dental Floss เสร็จแล้วก็ให้เอาขึ้นมาดม ถ้าดมแล้วยังมีกลิ่นเหม็นก็ให้เปลี่ยนไหมใหม่ หรือจะใช้อันเดิมนำมาล้างน้ำเอาก็ได้ ใช้จนกว่าไหมจะแตก (ถ้าใช้ไหมแบบแผ่นฟิล์มมันจะไม่แยก) ให้ขัดไหมไปทุก ๆ ซี่

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/bru-no-1161770/

6. บ้วนปากน้ำเปล่า หากไม่สะดวกที่จะแปรงฟัน ก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าแทน วิธีนี้ถึงแม้จะไม่ช่วยแก้ปัญหากลิ่นปากได้มากนัก แต่มันก็ช่วยได้บ้าง

6. สเปรย์ระงับกลิ่นปาก อีกทางเลือกหนึ่งของความสะดวกสบาย แนะนำให้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น ถ้าเลือกได้ก็แปรงฟันเอาดีกว่าครับ

7. เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ถ้าเลือกขจัดกลิ่นปากด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็ควรเลือกหมากฝรั่งชนิดที่ไม่มีน้ำตาล แต่วิธีนี้ก็ช่วยดับกลิ่นปากได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

8. ยาสีฟันผสมเกลือ ลองใช้ยาสีฟันผสมเกลือดู หรือจะใช้เกลือเพียงอย่างเดียวนำมาแปรงฟันก็ได้ (ถ้าทนไหว) เพราะเกลือจะช่วยระงับกลิ่นปากได้ ถ้าแปรงได้ไม่ลึกก็ให้ใช้น้ำเกลือกลั้วคอแทน

9. อมน้ำเกลือช่วยได้นะ หลังแปรงฟันเสร็จให้คุณผสมน้ำครึ่งแก้วกับเกลือ (ใช้ประมาณครึ่งช้อนชา เอาให้เค็ม ๆ หน่อย) ใช้บ้วนแทนน้ำ แล้วอมไว้ประมาณ 3-5 นาที จากนั้นจึงบ้วนด้วยน้ำเปล่าตามอีกครั้ง วิธีนี้คนจัดฟันที่กังวลเรื่องกลิ่นปากก็ใช้ได้นะ ลองทำดูได้เลย

10. เปลี่ยนแปรงสีฟัน หากแปรงเสียก็เปลี่ยนแปรงซะ เพราะประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของแปรงใหม่ย่อมดีกว่าเก่า และให้เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มปลายขนแปรงเรียว

11. หมั่นตรวจสุขภาพฟันและช่องปากกับทันตแพทย์อยู่เสมอ ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาในปากและฟันแล้วค่อยไปหาหมอ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/rgerber-2912728/

12.ขูดหินปูน เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง หินปูนเป็นอีกสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นปากที่คุณไม่ควรมองข้าม สำหรับใครที่ลองมาหลายวิธีแล้วแต่ลืมไปขูดหินปูนก็รีบไปจัดการด่วนเลย

13. รักษานิ่วในต่อมทอนซิล หากคุณเป็นนิ่วในต่อมทอนซิล ในอดีตหากจะกำจัดปัญหานี้ให้หายขาดก็คงต้องทำการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นมากจึงไม่จำเป็นต้องตัดทิ้งแล้ว วิธีที่ดีและทันสมัยกว่าก็คือ “การรักษาด้วยเลเซอร์” ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องตัดทั้งต่อมทอนซิลทิ้งไป แถมยังเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็วกว่า นอนค้างที่โรงพยาบาลคืนเดียวก็กลับบ้านได้

14. รักษาแผลในช่องปาก ในขณะเกิดแผลในช่องปากไม่ควรละเลยการทำความสะอาดช่องปากหลังการรับประทานอาหาร ควรแปรงฟันในทันที โดยใช้แปรงปัดเบา ๆ เพื่อไม่ให้คราบอาหารเกาะฟันนานและแปรงออกได้ง่าย แต่ถ้าแปรงฟันหรืออ้าปากไม่ได้ก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ ทุกครั้งหลังการรับประทาน และใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นพันนิ้วเช็ดฟัน เมื่อแผลหายกลิ่นปากก็จะหายไป

15. รักษานิ่วในต่อมทอนซิล หากคุณเป็นนิ่วในต่อมทอนซิล ในอดีตหากจะกำจัดปัญหานี้ให้หายขาดก็คงต้องทำการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นมากจึงไม่จำเป็นต้องตัดทิ้งแล้ว วิธีที่ดีและทันสมัยกว่าก็คือ “การรักษาด้วยเลเซอร์” ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องตัดทั้งต่อมทอนซิลทิ้งไป แถมยังเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็วกว่า นอนค้างที่โรงพยาบาลคืนเดียวก็กลับบ้านได้

ยับยั้งฟันผุ โดยการอุดฟันซี่ที่มีการผุ ถ้าผุจนทะลุโพรงประสาทก็ต้องรักษารากฟัน ถ้าผุมากจนไม่สามารถเก็บฟันไว้หรือรักษาให้ดีเหมือนเดิมได้ ก็ต้องถอนออกแล้วใส่ฟันปลอม

เป็นอย่างไรบ้างล่ะคะ สำหรับวิธีดับกลิ่นปาก ทั้ง 15 วิธีที่เรา DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ แน่นอนว่าถ้าหากทุกคนทำตามแล้วปัญหากลิ่นปากของทุกคนก็จะหมดไป แล้วก็มาพร้อมกับความมั่นใจอีกด้วยค่ะ หรือถ้าหากว่าใครที่ไม่มั่นใจในกลิ่นปากของตัวเองแล้วนั้น ยังไงก็มีวิธีที่จะเช็คได้โดยไม่ต้องรบกวนคนรอบข้างอยู่นะคะ อย่างการใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้ แล้วหายใจออกจากปาก จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าทางจมูกเพื่อดมกลิ่นหรือจะใช้วิธีเลียข้อมือและดมดู หรือในบางคนอาจจะใช้นิ้วมือถูที่บริเวณเหงือกแล้วนำมาดมกลิ่น ก็ได้ เมื่อรู้แล้วก็อย่าลืมนำวิธีที่เราแนะนำในวันนี้ไปลองทำตามดูนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://medthai.com