แนะนำ 11 อาหารช่วยกระตุ้นเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่มือใหม่!!

WM

การทานอาหารที่มีส่วนผสมของพืชผักสมุนไพรจะช่วยบำรุงน้ำนมแม่

“น้ำนมแม่” คือสุดยอดอาหารที่ดีที่สุดกับร่างกาย และสมองของลูกน้อยเลยนะคะ ประโยชน์มากมายแบบนี้คุณหมอเลยให้เด็กแรกเกิดถึง 6 เดือนทานนมแม่อย่างเดียว เพราะนมแมคืออาหารที่มีสารอาหารคบทุกอย่างเลยไม่จำเป็นต้องเสริมอาหารอย่างอื่นให้กับลูกน้อยในวัยนี้

ผักสมุนไพรเพิ่มน้ำนม อาหารที่เชื่อว่ามีสรรพคุณในการเพิ่มน้ำนมนั้นเป็นอาหารที่มีรสร้อน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้น้ำนมมากขึ้น ฉะนั้นเรามาบำรุงน้ำนมแม่ให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เลี้ยงลูกได้นานๆ ด้วยการทานอาหารที่มีส่วนผสมของพืชผักสมุนไพรทั้ง 11 ชนิดนี้กันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@vdphotography

1.อินทผลัม

อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, แมกนีเซียม และไฟเบอร์ สำหรับคุณแม่ท้องใกล้คลอดหากจะทานอินทผลัมควรทานในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่สาม เพราะจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมดลูก ช่วยให้การบีบตัวของมดลูกในช่วงการคลอดได้ดี ในคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ อินทผลัมช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง

2.กะเพรา

มีคุณค่าทางสารอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีเส้นใยอาหารสูง ความร้อนจากใบกะเพราจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยกระตุ้นให้มีน้ำนมมากขึ้น และยังแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน เด็กที่ได้ทานนมแม่ก็จะได้รับสารอาหารเหล่านี้พร้อมกันไปด้วย

3.ใบแมงลัก

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี รวมทั้งยังมีวิตามินซีสูง ในใบแมงลักจะมีรสหอมร้อน หากนำมาปรุงอาหาร เช่น แกงเลียง จะช่วยเพิ่มน้ำนม และยังช่วยขับลมแน่นอึดอัดในท้องได้ด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/maky_orel-436253/

4.ใบกุยช่าย

มีคุณค่าทางสารอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต แบต้าแคโรทีน และวิตามินซี สรรพคุณของใบกุยช่าย คือจะช่วยเพิ่มน้ำนม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม

5.ใบตำลึง

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1, 2, 3 แคลเซียม ไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก สรรพคุณของตำลึงช่วยในกระบวนการบำรุงน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท อาหารแนะนำ เช่น แกงจืดหมูบะช่อใบตำลึง แกงเลียง หรือนำมาผัดกับไข่ก็ได้ ฯลฯ

6.กานพลู

มีรสร้อนเพิ่มการไหลเวียน และช่วยย่อย ที่สำคัญในดอกกานพลูจะมีน้ำมันยูจีนอล(Eugenol) ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนม บรรเทาอาการแน่น จุกเสียด ซึ่งคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถใช้ดอกกานพลูแห้งมาชงในน้ำเดือด แล้วกรองดื่มแต่น้ำก็จะช่วยในกระบวนการผลิตน้ำนมแม่ได้ดี

7.พริกไทย

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต พริกไทยจะมีรสร้อน ทำในการช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ดี และยังช่วยขับลม พริกไทยไม่ว่าจะใส่ในแกงเลียง หรือจะเป็นปลาผัดพริกไทยดำ, พริกไทยสด ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกมาใหม่ ๆ ชอบรับประทานกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/elosoblues-5811711/

8.หัวปลี

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แบต้าแคโรทีน และวิตามินซี ที่สำคัญในหัวปลียังมีแคลเซียมมากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ซึ่งหัวปลีจะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือด แก้โรคกระอาหาร และยังช่วยบำรุงน้ำนมแม่ได้ดีมากด้วยเช่นกัน อาหารแนะนำ เช่น ทอดมันหัวปลี แกงเลียง ยำหัวปลี หรือจะทานแกล้มเป็นผักสดคู่กับผัดไทย ฯลฯ

9.มะละกอ

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย ไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีแคลเซียมสูง รวมทั้งยังมีในเรื่องของเอนไซม์ที่จะช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย มะละกอจะช่วยเพิ่มน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา อาหารแนะนำ เช่น น้ำมะละกอปั่น แกงส้มมะละกอสด หรือจะทานสุกก็ได้

10.ฟักทอง

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย แบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี และฟอสฟอรัส ฟักทองมีสรรพคุณในเรื่องของการช่วยบำรุงน้ำนม ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง อาหารที่แนะนำ ฟักทองผัดไข่ ฟักทองนึ่ง ฯลฯ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/dezalb-1045091/

11.เมล็ดขนุน

มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน ไขมัน ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 1 มีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นน้ำนม ทำให้น้ำนมมีมาก รวมทั้งยังช่วยบำรุงประสาท อาหารแนะนำ เช่น เมล็ดขนุนต้ม

คุณแม่อย่าลืม ลองไปหาพืชผักสมุนไพรทั้ง 11 ชนิดมาทานนะคะ DooDiDo ขอแนะนำเลยว่าคุณแม่จะได้มีนมให้ลูกน้อยดื่มเยอะๆ ทานได้นานๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขอลเจ้าตัวเล็กด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: www.njcloset.com