แนะนำการเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก ที่รับน้ำหนักได้ดี ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

SA Game

ข้อแนะนำดีๆ ก่อนการเลือกซื้อ “เป้อุ้มเด็ก” สำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกท่าน!!

ในยุคสมัยนี้ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้เริ่มหันมาใช้เป้อุ้มเด็กกันมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้งานที่สะดวกสบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว ไม่ต้องแบกรถเข็นให้เป็นภาระ เพราะฟุตบาธส่วนใหญ่ในเมืองไทยยังไม่ซัพพอร์ตต่อการใช้รถเข็นเด็ก จึงทำให้เป้อุ้มเด็กเป็นไอเทมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวด้วยรถสาธารณะอย่างรถแท็กซี่หรือรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบันเป้อุ้มเด็กที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย

เป้อุ้มเด็กก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ เช่น Ergobaby, Aprica, BABYBJORN, Punnita เป็นต้น แถมแต่ละแบรนด์นั้นก็ยังดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความถนัดของเหล่าคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะอุ้มด้านหน้าหรือจะสะพายหลัง ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อนั้นยากขึ้นไปอีกระดับ วันนี้ เราจึงจะมาให้ข้อมูลวิธีการเลือก อีกทั้งแนะนำเป้อุ้มเด็ก (แบบอุ้มด้านหน้าได้เป็นหลัก) เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อให้ผู้ปกครองทั้งหลาย โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรกค่ะ

ลองมาดูวิธีการเลือกเป้อุ้มเด็กกันคะ??

SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/marjonbesteman-3698690/

1. เลือกตามความถนัดในการอุ้ม
เป้อุ้มเด็กแบบอุ้มด้านหน้ายังสามาถแบ่งตามลักษณะการใช้งานใหญ่ ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบสะพายและแบบเปล ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะแตกต่างกันอย่างไร

  • แบบสะพาย:เปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้หลากหลาย เหมาะกับหลายสถานการณ์ เป้อุ้มเด็กแบบสะพายมีจุดเด่นอยู่ที่ความคงทนแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้หลายท่าในชิ้นเดียว โดยมีทั้งการอุ้มแบบหันหน้าเข้าหาตัวผู้อุ้ม, อุ้มในท่านอน, อุ้มหันออกด้านหน้า, อุ้มเข้าสะโพก และสะพายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เป้อุ้มเด็กแบบสะพายที่วางขายอยู่จะเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้ 3 ถึง 5 ท่า เรียกได้ว่า รองรับการใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้คนอุ้มมากเลยทีเดียวค่ะ
SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/marjonbesteman-3698690/

นอกจากนี้ บางรุ่นบางยี่ห้อยังมีสายรองตรงบริเวณสะโพก จึงช่วยถ่ายเทน้ำหนักของทารกจากบริเวณบ่าไปยังสะโพกของผู้อุ้มได้ ทำให้อุ้มด้นานขึ้นโดยที่ร่างกายไม่รู้สึกเมื่อยล้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีปัญหาปวดแขน หรือปวดไหล่เวลาต้องอุ้มลูกน้อยเป็นเวลานานๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ต้องปรับท่าทางการอุ้มได้หลากหลาย จึงทำให้เป้มีขนาดใหญ่ พับเก็บได้ยาก และพกพาไม่ค่อยสะดวก เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้วิธีการเดินบ่อยๆ เวลาออกนอกบ้านหรือตอนไปเที่ยวต่างประเทศ

SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/neslinglibrary-1694198/
  • แบบเปล (Sling):ถอดง่าย เหมาะแก่การพกพา สะดวกในการให้นม เป้อุ้มเด็กแบบเปล (Sling) เป็นเป้ที่มีลักษณะเป็นผ้าห่อหุ้มตัวทารกเอาไว้ ไม่มีฟองน้ำนิ่ม ๆ ซัพพอร์ตเหมือนเป้อุ้มเด็กแบบสะพาย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้มือของผู้อุ้มเป็นตัวซัพพอร์ต ส่วนในด้านดีไซน์นั้น หากเทียบกับเป้อุ้มเด็กแบบสะพายแล้ว มักดูสวยงามเรียบง่ายกว่า จุดเด่นของเป้ชนิดนี้ คือ สะดวกต่อการให้นมลูก จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่อยู่ในระยะให้นมบุตรค่ะ
    นอกจากจุดเด่นที่กล่าวไปแล้ว เป้แบบสลิงยังสามารถพับให้มีขนาดเล็กได้ คุณจึงพกไว้ในถุงย่ามหรือพกติดไปในเบบี้คาร์ได้อย่างสะดวก

อย่างไรก็ตาม หากใช้เป้อุ้มเด็กชนิดนี้ไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ เช่น เกิดการเคลื่อนที่ของกระดูกสะโพกของทารก ทารกหายใจไม่ออก หรือทำทารกลื่นตกได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีการใช้งานอย่างระมัดระวัง รวมทั้งศึกษาคู่มือการใช้ให้ละเอียดรอบคอบด้วยค่ะ

SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://shopee.co.th

2. ตรวจสอบว่ารุ่นนั้นเหมาะกับเด็กอายุเท่าไหร่
เป้อุ้มเด็กจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นต้องพิจารณาจากอายุของเด็ก สำหรับทารกแรกเกิด ให้เลือกเป้อุ้มเด็กประเภทนอนราบเนื่องจากคอของทารกวัยนี้ยังไม่แข็งแรงพอ หากคุณแม่ไม่ได้มีโอกาสที่ต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอกบ่อย แนะนำว่าให้รอจนลูกชันคอได้ก่อน ซึ่งจะมีช่วงอายุราวๆ 3 เดือน แล้วค่อยซื้อเป้ที่ใช้กับเด็กอายุ 3 เดือนจึงจะคุ้มค่ากว่า

มาถึงตรงนี้ ผู้ปกครองหลายๆ คนคงจะคิดว่า ทำไมไม่ซื้อแบบที่ใช้งานได้จนถึงตอนลูกอายุ 3 ขวบ ไปเลยล่ะ จะได้ประหยัดเงินตั้งแต่ครั้งแรก แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมนะคะว่า ในขณะเดียวกันทารกก็มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา ส่งผลให้ท่าทางในการอุ้มต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป้ที่คิดว่าใช้งานได้นานอาจไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของลูกเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวเด็ก เราขอแนะนำให้ซื้อเป้อุ้มเด็กตามอายุและขนาดของเด็กจะเหมาะสมที่สุด ตรวจสอบว่ารองรับการปรับเปลี่ยนท่าในการอุ้มหรือไม่ ลักษณะท่าทางในการอุ้มของเป้อุ้มเด็กแบ่งได้ออกเป็น 5 ท่าทางด้วยกัน

  • อุ้มแนวนอน (แบบนอนราบ)
  • อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกเข้าหาผู้อุ้ม
  • อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกออกทางด้านหน้า
  • อุ้มเข้าสะโพก
  • สะพายหลัง
SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://shopee.co.th

3. เลือกวัสดุที่เป็นตาข่ายเพื่อช่วยระบายอากาศได้ดี
เด็กทารกจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าผู้ใหญ่และมีเหงื่อออกง่ายกว่า ยิ่งเมืองร้อนแบบบ้านเราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนและเหงื่อออกง่ายเข้าไปใหญ่ เพื่อปกป้องลูกน้อยจากการเกิดผดผื่นจากความอับชื้น จึงขอแนะนำว่า หากเป็นไปได้ให้เลือกเป้ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นตาข่ายเพราะช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังลดปัญหาอบอ้าวและกลิ่นอับชื้นได้อีกด้วย

SA Game
ขอบคุณภาพจาก: https://shopee.co.th

4. เลือกเป้อุ้มเด็กที่อุ้มได้ถูกสรีระร่างกาย
พูดได้โดยรวมว่าท่าทางที่เหมาะสมในการใช้เป้อุ้มเด็กแบบสะพายหน้าอุ้มลูกน้อยก็คือ ต้องอยู่ในท่าที่เหมือนกับการอุ้มด้วยมือเปล่านั่นเอง เพราะหากอุ้มไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แนะนำให้ลองตรวจสอบดูว่า คุณอุ้มลูกในท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า โดยทำการสังเกตว่าขาของเด็กกางเป็นรูปตัว M หรือไม่ ตัวเด็กอยู่ในระดับที่ผู้อุ้มสามารถก้มหอมตรงหน้าผากเด็กได้หรือไม่ ก้นของเด็กอยู่ในระดับที่เหนือกว่าสะดือของผู้อุ้มหรือไม่

สำหรับเป้อุ้มเด็ก คืออุปกรณ์กระชับสายสัมพันธ์กับเจ้าตัวน้อย DooDiDo คิดว่าการมีเป้อุ้มเด็กก็จะช่วยให้อุ้มเจ้าตัวน้อยได้นานขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องระวังท่าที่ใช้อุ้มด้วย บางผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดจะมีท่าทางการอุ้มที่แตกต่างกันหรือสามารถใช้อุ้มได้หลายแบบในตัวเดียว คุณพ่อคุณต้องศึกษารายละเอียดของสินค้าให้ดีและใช้งานด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับลูกน้อยของคุณด้วยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://my-best.in.th/8643