เสริมสร้างนิสัยดีๆ ที่ลูกควรทำ เพื่อลูกจะได้เติบโตเป็นวัยรุ่นที่ดี
10 นิสัยดีๆ ที่แม่ควรปลูกฝัง ก่อนลูกโตเป็นวัยรุ่น
ไม่ว่าคุณแม่ท่านไหนก็คงอยากให้รู้ตัวเองดูสุภาพและน่ารัก ทั้งสำหรับครอบครัวของตัวเองและสำหรับผู้อื่นด้วยเช่นกัน เพราะแบบนี้จึงควรปลูกฝังนิสัยเหล่านี้ให้แก่ลูกน้อยในช่วงเวลาที่พวกเขาเริ่มจดจำและยังเชื่อฟังคุณอยู่นั่นเอง
ลูกยิ่งโตยิ่งห่างจากอกแม่ พอลูกเติบโตจนกลายเป็นวัยรุ่นแล้ว จากที่เคยเชื่อฟัง ทำตามที่พ่อแม่บอก ก็จะค่อยๆ ดื้อมากขึ้น จะสอนสั่งลูกตอนโตก็ทำได้ยาก ในช่วงเวลาที่ลูกยังเชื่อฟังและพ่อแม่ยังใกล้ชิดลูก ก็ควรจะสอนนิสัยดีๆ บอกพฤติกรรมที่ลูกควรทำ เพื่อลูกจะได้เติบโตเป็นวัยรุ่นที่ดีที่ใครๆ ก็รัก มาดูกันค่ะ ว่านิสัยที่คุณแม่ควรปลูกฝังให้ลูกนั้นมีอะไรบ้าง ตามมาทางนี้ค่ะ
1.ระวังคำพูด เลือกเอ่ยเฉพาะประโยคไพเราะ
ตั้งแต่ลูกยังเป็นเบบี๋ พ่อแม่ก็ต้องระมัดระวังคำพูดให้ดี เพราะลูกจะเริ่มจดจำและพูดตาม คำศัพท์หยาบคายหรือคำเรียกด้วยภาษาที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ลูกรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่พูดได้ในบ้าน พ่อแม่จึงต้องไม่พูดคำหยาบต่อหน้าลูก หรือแม้แต่คำที่ไม่สุภาพก็ไม่ควรให้ลูกได้ยิน
2.รัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อนั่งในรถ
พ่อแม่ควรจะฝึกนิสัยรัดเข็มขัดนิรภัยให้กับลูก โดยทุกๆ ครั้งที่นั่งในรถยนต์ พ่อแม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งให้ลูกเห็น พร้อมทั้งคาดเข็มขัดให้ลูกด้วย แล้วค่อยสตาร์ตเครื่อง พอลูกโตขึ้นและขับรถเองได้ จะติดนิสัยการคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถออกไป แค่นี้ก็ช่วยลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้แล้ว
3.โทรไม่ขับ อย่าเล่นโทรศัพท์ในรถ
เมื่อก้าวขาขึ้นรถ พ่อแม่ต้องเก็บมือถือให้ห่างจากตัวเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก พอลูกเริ่มเห็นจนเป็นความเคยชิน ตอนที่ลูกโตขึ้นก็จะไม่ใช้มือถือขณะขับรถ ลดอันตรายได้ทั้งตัวลูกและคนอื่นๆ
4.ถามลูกด้วยคำถามปลายเปิด ช่วยให้ลูกเปิดใจ
พ่อแม่จึงควรปรับเปลี่ยนคำถาม วิธีการถาม ที่ส่งเสริมให้ลูกอยากตอบ อย่างโรงเรียนสนุกไหม เรียนเรื่องอะไรบ้าง เพื่อนที่โรงเรียนน่ารักหรือเปล่า เลือกใช้คำถามที่ให้ลูกเปิดใจ แล้วลูกจะเล่าปัญหาต่างๆ จะได้แก้ไขปัญหาให้ลูกได้อย่างถูกจุด
5.กินข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว
เวลาแห่งความสุขที่จะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้กับทุกครอบครัว คือการนั่งกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดี ที่จะให้ทุกคนในครอบครัวได้แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวัน การได้นั่งล้อมวงกินข้าวกันทั้งครอบครัว จึงถือเป็นสิ่งที่ดีที่ให้ลูกใกล้ชิดกับพ่อแม่ เก็บมือถือทุกเครื่องก่อนดินเนอร์ ทุกคนจะได้พูดคุยและมองหน้ากัน ไม่ใช่มองจอ
6.พยายามจะรู้จักเพื่อนของลูก
พ่อแม่จึงควรจะรู้จักเพื่อนของลูกไว้บ้าง อย่างน้อยๆ จะได้รู้ว่าลูกใช้เวลาอยู่กับเพื่อนคนไหน ท่าทางเป็นอย่างไร ดูน่าไว้ใจหรือเปล่า ลองดูว่าเพื่อนคนไหนจะพาลูกทำสิ่งดีๆ หรือชักนำไปทำกิจกรรมที่เหมาะสม
7.ดูสิ่งที่ลูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
เด็กรุ่นใหม่เริ่มติดเทคโนโลยี และมักจะใช้โซเชียลมีเดียบ่อยๆ พ่อแม่จึงควรสอดส่องว่าลูกโพสต์หรือพูดคุยกับใครบ้างในโซเชียลมีเดียสำรวจดูว่าลูกไลค์ คอมเมนต์ หรือโพสต์ ในสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อตัวลูกเองหรือเปล่า ที่สำคัญต้องคอยสอนเรื่องความปลอดภัยในการเล่นโซเชียลมีเดีย และเตือนภัยถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ลูกได้ระวังตัว
8.ใส่ใจทุกสิ่งที่ลูกสนใจและเรื่องที่ลูกหลงใหล
พ่อแม่ควรส่ใจในทุกเรื่องที่ลูกให้ความสำคัญ และแสดงออกว่าเข้าอกเข้าใจในเรื่องที่ลูกแคร์ นอกจากนี้ ถ้าลูกเริ่มอยากทำกิจกรรม เล่นดนตรีหรือเล่นกีฬา ก็ควรสนับสนุน ไม่ก็ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ไปด้วยเลย เพื่อแสดงออกว่าใส่ใจในทุกเรื่องที่ลูกสนใจ
9.วางแผนทำกิจกรรมร่วมกับลูก
ก่อนลูกจะโตเป็นวัยรุ่นที่มีทางเดินชีวิตของตัวเอง ระหว่างนี้พ่อแม่ต้องหากิจกรรมทำร่วมไปกับลูก เป็นกิจกรรมสนุกๆ หรือกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัว
10.สอนลูกให้เข้าใจคุณค่าของความล้มเหลวและความพยายาม
ในวันที่ลูกเติบโตเป็นวัยรุ่น ลูกอาจจะพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง บางครั้งก็ยากที่จะรับมือไหว พ่อแม่จึงต้องอบรมและสั่งสอนลูกเรื่องความผิดพลาดว่าสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ลูกก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ แล้วลูกจะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่พ่ายแพ้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าสิ่งที่ DooDiDo นำมาแนะนำในวันนี้คุณแม่หลายท่านสามารถนำไปปรับปรุงและเตรียมตัวลูกให้พร้อมก่อนลูกเติบโตเป็นวัยรุ่น ลูกจะได้แข็งแรงทั้่งร่างกาย และแข็งแกร่งในจิตใจ ด้วยภูมิคุ้มกันที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ เพื่ออนาคตที่สดใสของลูกที่รักนั่นเองค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thairath.co.th