เลือกมอยเจอร์ไรส์เซอร์แบบไหนให้เหมาะกับผิวหน้าของเรา?

WM

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ “ตัวช่วย” เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวมากขึ้น

สำหรับปัญหาโลกแตกของสาวๆหลายๆ คนที่ไม่ว่าจะผิวหน้ามัน ผิวหน้าแห้งขาดความชุ่มชื้น นั้นล้วนแต่เป็นปัญหาผิวที่เกิดได้จากการขาดน้ำ ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำนั้นวิธีการแก้ปัญหาก็บอกไว้อยู่ในชื่อแล้วล่ะค่ะว่า ขาดน้ำ เพราะฉะนั้นแล้วการเติมเต็มน้ำให้กับผิวก็เป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุดเลย และแน่นอนว่าการเติมเต็มน้ำให้กับผิวนั้นไม่ได้จะช่วยเพื่อให้ผิวหน้าของเราหายแห้ง และหายมันเพียงเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้ผิวเรามีความนุ่ม ยืดหยุ่นของผิวไว้ หรือก็คือเป็นการชะลอความแก่ของผิวเราเอาไว้นั่นเอง

หลายๆ คนก็พอจะรู้กันบ้างแล้วว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) “ตัวช่วย” เพิ่มความชุ่มชื้นผิว เป็นสารทาภายนอกที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้ อาจมีอยู่หลายรูป เช่น ครีม เจล โลชั่น ขี้ผึ้ง เป็นต้น การทำงาน คือ การเคลือบผิวเอาไว้เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว เพราะเมื่อมีการสูญเสียน้ำของผิวที่น้อยลง ผิวก็จะมีความชุ่มชื้นมากขึ้นทำให้ผิวดูแข็งแรง เต่งตึง ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ดูสุขภาพดี เป็นต้น ซึ่งมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติ ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว และอยู่บนผิวหนังได้นานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ ดังนั้นเพื่อผิวผิวที่ดีของเรา วันนี้เราจึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ประเภทมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกสรรมาใช้ให้เหมาะกับตัวเองและมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@pokoskincare

ประเภทของมอยส์เจอร์ไรเซอร์

การหาสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเป็นการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสารเพิ่มความชุ่มชื้นนี้ สามารถให้ความชุ่มชื้นได้นาน 2-6 ชม. ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Occlusives ช่วยเคลือบผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดนี้จะช่วยเคลือบผิว โดยการสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบที่ชั้นบนสุดของผิวและกันน้ำได้ ชะลอการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มที่มีคุณสมบัตินี้ ได้แก่ ไขคาร์นอบา เป็นไขที่ได้จากใบของปาล์มคาร์นอบา น้ำมันมะกอก Petrolatum ซิลิโคน ลาโนลิน และกลุ่มIntercellular lipid bilayers (เลียนแบบโครงสร้างระหว่างเซลล์ผิวหนัง) เช่น ซาราไมค์ กรดไขมัน

2. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Emoillients ทำให้ผิวนุ่ม

เป็นสารไขมันที่ดูดซึมได้ ช่วยให้ผิวนุ่มและประสานผิวตกสะเก็ด หรือเซลล์ผิวที่ตาย ลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มสารนี้ประกอบด้วย เชียบัตเตอร์ สควาเรน คอลลาเจน ไอโซโพรพิล และปามิเตท

3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Humectants ช่วยผิวฉ่ำน้ำ

เป็นสารที่ดูดซับน้ำจากชั้นลึกของหนังกำพร้าให้ขึ้นถึงชั้นบน ให้ความชุ่มชื้นที่พบได้ในผิวหนังชั้นนอกสุดหรือที่เรียกว่าชั้นผิวหนังกำพร้าให้ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากเชื้อโรค การขาดน้ำ หรือสารเคมี โดยกลุ่มสารที่มีคุณสมบัตินี้ เช่น กลีเซอรีน กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไฮยาลูรอนิก ซอร์บิทอล และยูเรีย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@olly

เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไร

การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำผิวหน้าจะนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ทั้งผิวแห้งและผิวมัน จำเป็นต้องบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ทั้งสิ้น นอกจากจะมอบความชุ่มชื้นให้ผิวแล้วยังช่วยชะลอริ้วรอยได้อีกด้วย

1. ผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย อาจเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความมันน้อย เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทที่แห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย แนะนำให้ใช้จะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ที่อาจอยู่ในรูปแบบโลชั่นเหลว

2. ผิวหน้าแห้ง ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมที่อาจจะมีความเข้มข้นมากกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ของผิวประเภทอื่นเล็กน้อยในการคงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยในการกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) ที่ประกอบไปด้วยน้ำมันสำหรับบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป

3. ผิวหน้าปกติธรรมดา สามารถเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทั้งฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ในรูปแบบโลชั่น เพื่อที่จะได้รู้สึกแห้งเร็ว เบาสบายผิว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะจนเกินไป หรือหากต้องการความชุ่มชื้นมากๆ ก็สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เป็นฐานน้ำมันได้ (Oil-based moisturizer) แต่เวลาที่ใช้อาจปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@sora-shimazaki

4. ผิวหน้าผสม เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันในอัตราส่วนเท่ากัน ทำให้ผิวรับส่วนผสมทั้งสองอย่างอย่างเท่ากัน จึงช่วยให้ผิวคงสมดุลของน้ำไว้ในผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป

สิ่งที่ DooDiDo อยากแนะนำทุกคนก่อนไปก็คือ ถ้าหากเราทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังทำความสะอาดผิวแล้วมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เราทาไปนั้นจะทำหน้าที่ได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าตอนที่เราทาระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเจ้ามอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้นจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับสาวๆที่อยากจะดูแลผิวของตัวเองแต่ว่าถ้าหากสาวๆมีโรคประจำตัวอื่นๆ หรือกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับผิวแล้วล่ะก็ไม่ควรที่จะหาซื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์มาใช้เองโดยพลการ หรือก็คือควรที่จะพบแพทย์เพื่อที่จะได้เข้ารับการรักษาและคำแนะนำที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.nakornthon.com