เปิดตำนานโบราณเขาสามมุข ศาลเจ้าแม่สามมุข ของจังหวัด ชลบุรี

เรื่องลึกลับ

สำหรับเขาสามมุข ศาลเจ้าแม่สามมุข สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่โบราณซึ่งมีอายุมาแล้วกว่า 103 ปี

ซึ่งผู้ที่มาสักการะส่วนใหญ่ที่เป็นแม่ค้าและชาวประมง สำหรับศาลเจ้าแม่สามมุข โดยจะต้องมากราบไหว้และถวายของเซ่นเป็นมะพร้าวอ่อน หรือผลไม้ก่อนจะออกทะเล นอกจากนี้ในบริเวณศาลเจ้ายังมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเชื่อกันว่าลิงเหล่านั้นอาจจะเป็นบริวารของเจ้าแม่สามมุก

ดังนั้นจึ่งห้ามใครจับ หรือทำร้ายลิงเหล่านี้โดยเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป ซึ่งอาจจะล้มป่วย หรือเดือดร้อนไปถึงญาติพี่น้อง และคนในครอบครัวตำนานเขาสามมุข สำหรับตำนานเรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยว่ากันว่ามีหญิงสาวกำพร้าคนหนึ่งอาศัยอยู่ในบางปลาสร้อยชื่อ “สามมุก” เธออาศัยอยู่กับยายที่กล่อมเชิงเขา ซึ่งภายหลังเธอได้ไปตกหลุมรักกับลูกชายของกำนันบ่ายซึ่งเป็นถึงเศรษฐีแห่งบ้านหิน หรืออ่างศิลา ชายหนุ่มคนนั้นก็มีชื่อว่าแสนและเขาเองก็มีใจให้เธอเช่นกัน

WM
ภาพจาก www.google.com

ทั้งสองได้สาบานต่อขุนเขาว่าจะรักกันไปตราบชั่วนิรันดร์ หากใครผิดคำสาบานก็จะต้องมากระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกันไปซึ่งหลังจากนั้นแสนก็ได้ให้แหวนกับสามมุขเพื่อเป็นเครื่องยืนยันแห่งความรัก ทว่าเมื่อกำนันบ่ายรู้เรื่องนี้เข้าก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะสามมุขนั้นเป็นเพียงหญิงยากจน

ไม่มีทั้งทรัพย์สินและอำนาจวาสนา ทางกำนันบ่ายจึงกีดกันไม่ให้ทั้งสองได้เจอกันโดยการกักขังแสน ลูกชายของตนเองเอาไว้ และได้บังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นลูกสาวของคนทำโป๊ะ ซึ่งข่าวการแต่งงานนี้เลื่องลือไปถึงหูของสามมุก เธอจึงเดินทางมายังงานและได้รดน้ำสังข์ให้กับแสนด้วย

ในระหว่างที่รดน้ำอยู่นั้น แหวนวงหนึ่งก็ตกลงมาในมือของแสน มันเป็นแหวนที่แสนนั้นเคยให้สามมุกไว้เพื่อเป็นหลักฐานแห่งความรัก เมื่อได้คืนแหวนเสร็จ สามมุกก็วิ่งหนีออกไปจากที่จัดงานในทันที เธอได้วิ่งไปยังหน้าผาและปลิดชีพตนเองด้วยการกระโดดลงมาเพื่อการบูชาความรักในครั้งนี้

ตำนาน
ภาพจาก www.google.com

แสนที่รู้สึกเสียใจอย่างมาก เขาจึงตามไปกระโดดหน้าผา ฆ่าตัวตายตาม ชาวบ้านที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็โกรธแค้นกำนันบ่ายเป็นมากที่ทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาเช่นนี้ กำนันบ่าย DooDiDo จึงได้นำถ้วยชาม สิ่งของต่างๆ มาไว้ที่ถ้ำตรงหน้าผาเพื่อขอขมาในสิ่งที่ทำลงไป โดยภายหลังจึงได้ตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า “เขาสามมุก” และชายหาดที่ติดกันว่า “หาดบางแสน” เพื่อให้ทั้งสองคนนั้นได้อยู่คู่กัน และครองรักกันตลอดไปชั่วนิรันดร์

แหล่งที่มา : Blog Eduhub