เชื่อหรือไม่!! แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียด หายกังวลได้
แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียดได้ด้วย 9 วิธีนี้
คำว่า “ช่างมัน” บางทีมันก็จำเป็นจะต้องเอามาใช้ในชีวิตคุณบ้างนะค่ะ ทำใจและรู้จักปล่อยวาง มองดูความจริงหรือปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้า อย่างมีสติ จะช่วยให้คุณไม่หมกมุ่นกับปัญหานั้น ลดระดับความเครียดลงและเห็นทางออกได้มากกว่าการที่คุณเอาแต่ยึดติด และไม่ยอมปล่อยวางอะไรเลยทุกวันในโลกนี้มีคนเป็นโรคซีมเศร้าเพิ่มกันมากขึ้น คนที่ต้องไปพบจิตแพทย์มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าโลกของเราในปัจจุบันมีเรื่องให้คิดให้เครียดมากมาย บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากที่เราจะเลิกเครียด เลิกวิตกกังวล เลิกคิด
แต่ลองมาดูวิธีที่จะแนะนำกัน เป็นวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ใครอยากรู้ว่าจะช่วยได้จริงมั้ย ก็ลองจำแล้วนำไปใช้กันดูได้เลยนะคะแค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียด หายกังวลได้คะ
1. เก็บเตียงให้เนี้ยบ
“ไม่มีวันไหนที่ฉันลุกออกจากเตียง แล้วปล่อยให้ผ้าห่มกอง หรือหมอนอยู่ตรงปลายเตียง ฉันจะเก็บเตียงให้เรียบร้อยทุกครั้ง ไม่ว่าจะตื่นสายขนาดไหน มันทำให้ฉันรู้สึกว่า วันนั้นฉันได้ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน และไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่แย่ขนาดไหน ฉันก็มีสิ่งดี ๆ รออยู่ที่บ้าน
2. ปฏิเสธซะบ้าง
“อย่ากลัวที่จะปฏิเสธคนอื่น ฝึกพูดคำว่า “ไม่” ให้ชินปาก อย่าเกรงใจคนอื่นให้มากนัก เพราะมีแต่เราเองที่จะเป็นทุกข์ และฉันเชื่อว่าการที่เราปฏิเสธไป มันต้องมีเหตุผลรับรองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคนฟังก็ควรจะเคารพคำพูด อย่ามาเซ้าซี้
3. ฝึกคิดบวก
“ก่อนนอนทุกคืน ฉันจะลิสท์ 3 สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกดีในแต่ละวัน แต่ละวันต้องห้ามซ้ำกันนะ
มื่อไหร่ที่ฉันเผลอคิดลบขึ้นมา ฉันจะหยุดคิด แล้วเปลี่ยนไปนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่ทำให้ฉันแฮปปี้แทน อย่างตอนที่ฉันได้เกรดห่วย ๆ ก็จะนึกไปถึงตอนที่ฉันได้ A ทุกวิชามา สี่เทอมรวด อาจจะฟังดูแปลกนะ แต่มันเป็นวิธีที่เวิร์กจริง ๆ
4. ปิดเสียงโทรศัพท์
“ฉันไม่เปิดเสียงโทรศัพท์เลย ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรเข้า หรือเสียงเตือนแอปต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความเครียด ความกังวล จะมาจากโทรศัพท์ที่คนโทรเข้า และข้อความที่เด้งขึ้นมาจนะกระทั่งวันนี้ ไม่ใช้เวลากับหน้าจอเยอะเกินไป
5. เตรียมตัวให้พร้อมกับวันใหม่
“ฉันจะตื่นเร็วหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาอยู่คนเดียว ได้อยู่กับตัวเอง ก่อนที่ทุกคนในบ้านจะตื่น
“ทุกเช้าฉันจะมีเวลาให้ตัวเองได้เตรียมตัวให้พร้อมกับวันใหม่ เชื่อมั้ยว่าชีวิตฉันเปลี่ยนไปเยอะเลย หลังจากที่ฉันได้ลองวิธีนี้ เพราะการที่เราออกจากบ้านพร้อมกับมายด์เซ็ทดี ๆ จะทำให้วันนั้นกลายเป็นวันที่ดีของเราเลยล่ะ.
6. เลิกคาเฟอีน
“ฉันเลิกคาเฟอีนมาสักพักแล้ว แถมยังกินน้ำมากขึ้นด้วยนะ นักบำบัดบอกว่ามันช่วยได้ และมันก็ช่วยได้จริง ๆ ฉันสังเกตตัวเองมาสักพักหลังจากเลิกคาเฟอีน ฉันไม่ค่อยมีอาการวิตกกังวลแล้ว
“ช่วงนี้ฉันไม่แตะกาแฟเลย แล้วรู้อะไรมั้ย อาการแพนิคของฉันมันหายไปแล้ว! อาจจะยากหน่อยนะ โดยเฉพาะคนที่ติดกาแฟ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มแน่นอน
7. สิ่งที่ทำก่อนนอนก็สำคัญ
“ก่อนจะโดดขึ้นเตียง ฉันจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เลือกชุดที่จะใส่ เตรียมของ เตรียมกระเป๋า เพราะตอนเช้าจะได้ไม่ต้องหัวปั่นก่อนนอนทุกคืน ฉันจะนั่งลิสต์สิ่งที่ต้องทำในวันถัดไป เชื่อมั้ยว่าวิธีมันช่วยให้อาการนอนไม่หลับของฉันมันดีขึ้นได้จริง ๆ เพราะฉันไม่ต้องนอนกังวลว่าฉันจะพลาดอะไรหรือเปล่า
8. ฝึกสมาธิ
“โยคะ กับฝึกสมาธิสิ! การที่เรามีสมาธิมันช่วยได้เยอะเลยนะ ทำให้เราอยุ่กับปัจจุบัน ไม่ต้องนึกถึงอดีต ไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง”
“ฉันฝึกสมาธิมาสักพักแล้ว ในโทรศัพท์ก็โหลดแอปที่ช่วยฝึกสมาธิเอาไว้เลย ทุกวันนี้ฉันทำวันละ 2 ครั้ง เช้ากับก่อนนอน มันช่วยได้เยอะเลยล่ะ”
ศึกษาข้อมูลกันแล้ว DooDiDo อยากให้เพื่อนๆ ลองนำไปฝึกและปฏิบัติกันดูนะคะ อาจจะช่วยเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อย ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยบรรเทาความกดดันลงไปได้ เช่น ไม่คาดหวังในสิ่งต่างๆ มากจนเกินไป ชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวพักผ่อนใจ ดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้เพื่อผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพกายใจที่ดีขึ้นได้ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิด กันดูนะคะ อาจะทำให้กังวลและหายเครียดได้ อย่างน้อยก็อาจจะลดการที่ต้องไปพบจิตแพทย์ได้นะคะ ควรเปลี่ยนที่ตัวเราเริ่มจากตัวเราอย่าให้ยาหรือหมอมารักษาตัวเรานะคะ
ขอบคุณที่มาจาก: https://lifestyle.campus-star.com
