เจาะลึกปฐมบทแห่ง “ภัยพิบัติสิบประการ” (Plagues of Egypt)

เรื่องลึกลับ

ท่านจงเอาไม้เท้าของท่านนั้นยื่นไปเหนือน้ำของชาวอียิปต์ บึงและสระทั้งหมดของพวกเขา น้ำจะกลายเป็นทะเลเลือด

เรื่องราวส่วนหนึ่งที่เป็นของข้อความจากพระคัมภีร์บทอพยพ(Exodus 7:19) ที่ได้เขียนถึงภัยพิบัติลำดับแรกสุดที่พระเจ้าทรงบัญชาให้เกิดกับชาวอียิปต์ ด้วยว่าฟาโรห์แห่งไอยคุปต์นั้นไม่ยอมปลดปล่อยทาสชาวอิสราเอลออกไปจากดินแดนของพระองค์โดยเราทราบกันดีว่านี่คือปฐมบทแห่ง “ภัยพิบัติสิบประการ” (Plagues of Egypt) ที่กำลังจะตามมาด้วยเหตุการณ์ที่ชวนพิศวงอีกมากมาย

ซึ่งบางเหตุการณ์นั้นก็อาจจะเป็นเรื่องราวปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ในบางเหตุการณ์ก็ชวนให้ปวดหัว เมื่อพยายามอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้ด้วยหลักของเหตุและผลเท้าความได้คร่าวๆกันสักหน่อยว่าภัยพิบัติทั้งสิบประการนั้นประกอบไปด้วยเหตุการณ์ใดบ้างเมื่อฟาโรห์แห่งอียิปต์ที่ยืนกรานที่จะยังรั้งทาสชาวอิสราเอลเอาไว้ในแผ่นดินของพระองค์ พระเจ้าจึงมีบัญชาผ่านทาง โมเสส (Moses) เพื่อที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระองค์ให้ฟาโรห์ได้ประจักษ์ เริ่มต้นด้วย 1. ภัยพิบัติจากโลหิต (Water turned to blood)ภัยพิบัติแรกได้ปรากฏการณ์ที่แม่น้ำไนล์ โดยทั้งแม่น้ำกลายเป็นสีเลือดปลาในแม่น้ำลอยขึ้นมาตายจนหมดน้ำไม่สามารถใช้ดื่มกินได้เลย

ภัยพิบัติ
ภาพจาก www.google.com

อย่างที่เรานั้นรู้กันว่าแม่น้ำไนล์นั้นเป็นเหมือนเส้นเลือดหลักของชาวไอยคุปต์เลยก็ว่าได้ การเพาะปลูก การก่อสร้าง ทุกอย่างต้องใช้น้ำจากแม่น้ำนี้ทั้งสิ้น ซึ่งเรียกได้ว่าเมืองทั้งเมืองแทบจะเป็นอัมพาตในทันที

2. ภัยพิบัติจากกบ (Plague of frogs) เจ็ดวันหลังจากภัยพิบัติครั้งแรก ฟาโรห์ยังไม่ยอมแพ้ พระเจ้าจึงประทานภัยพิบัติต่อไปนี้ ได้นำฝูงกบขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์จนหนาทึบไปทั่วทั้งแผ่นดิน และเข้าถึงทุกพื้นที่ จากบ้านสู่วัง มีเรื่องวุ่นวายอยู่รอบตัว

3. ภัยพิบัติจากริ้น (Plague of lice or gnats) ภัยพิบัติครั้งที่สามนี้ แม้จะฟังดูเล็กน้อย แต่ถ้าแมลงเหล่านี้มีขนาดเล็กเท่าฝุ่นออกมาเป็นจำนวนมาก คนก็นอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เพราะไรฝุ่นนอกจากจะทำให้เกิดอาการแพ้แล้ว ยังทำให้เกิดโรคผิวหนัง

4. ภัยพิบัติจากเหลือบ (Plague of flies) แมงมุม Glimpse เป็นแมลงดูดเลือดชนิดหนึ่ง แมลงวัน และที่สำคัญกัดเจ็บกว่ายุง และเป็นพาหะนำโรคสู่สัตว์และมนุษย์อีกด้วย

5. ภัยพิบัติที่เกิดกับฝูงสัตว์ (Plague of livestock) แล้วเกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นกับฝูงสัตว์แห่งแผ่นดินอียิปต์ ม้า ลา อูฐ แพะ วัว แกะ ฯลฯ ล้วนตายหมด

6. ภัยพิบัติจากฝี (Plague of boils) โรคระบาดที่หกนี้ใกล้เคียงกับโรคระบาดที่มนุษย์ในยุคหลังต้องเผชิญ แต่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าที่วัคซีนจะผลิตได้สำเร็จ นั่นคือโรคฝี เมื่อก่อนยาไม่ดีเท่าทุกวันนี้ ใครก็ตามที่เป็นโรคฝีดาษนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงมากหากฝีดาษกระจายไปทั่วร่างกาย

WM
ภาพจาก www.google.com

7. ภัยพิบัติจากลูกเห็บ (Plague of hail) มีลูกเห็บตกหนักปกคลุมทั่วท้องฟ้าอียิปต์จนฟ้าครึ้ม ทำลายพืชผลทั้งหมด

8. ภัยพิบัติจากฝูงตั๊กแตน (Plague of locust) ถ้าลูกเห็บยังไม่ทำลายพืชผลทั้งหมด ตั๊กแตนจะลงมาช่วยอีก ฝูงตั๊กแตนนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อมันมา คุณก็ทำได้ เพราะมันบินเป็นล้าน มันดูเหมือนเมฆหมอกขนาดใหญ่ สามารถเคลื่อนที่ได้ 150 กิโลเมตรต่อวัน นับเป็นอีกหนึ่งภัยคุกคามร้ายแรงที่ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน

9. ภัยพิบัติจากความมืด (Plague of darkness) พระเจ้าส่งท้องฟ้าเหนือแผ่นดินอียิปต์ไปสู่ความมืดมิดเป็นเวลาสามวัน ชาวบ้านหายไปไหน? แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย กิจกรรมทั้งหมดจะต้องหยุด

10. มรณกรรมของบุตรหัวปี (Plague of the firstborn) และความหายนะสุดท้ายคือการคร่าชีวิตของบุตรชายคนโตของอียิปต์ทั้งหมดจนถึงจุดสิ้นสุดของดินแดนที่อ้างถึงโอรสของฟาโรห์ด้วย ว่าเขาเต็มใจที่จะปล่อยทาสของอิสราเอลให้เป็นอิสระ

ดังนั้น เหตุการณ์ที่ยังไม่ได้คำตอบคือสามวันแห่งความมืดและการฆ่าบุตรหัวปีทั้งหมด นี่หมายความว่าพระเจ้าไม่ได้เพียงแค่ลงโทษชาวอียิปต์เท่านั้น แต่ยังลงโทษเทพเจ้าอียิปต์ด้วย ตัวอย่างเช่น การนำความมืดมาสู่ดินแดนนี้เป็นการดูหมิ่นพระเจ้าดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นเทพเจ้าอียิปต์ผู้ยิ่งใหญ่โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น อมุน-รา (Amun-Ra) อเตน (Aten) หรืออตุม (Atum) ล้วนเป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่างที่ได้รับการบูชาในแต่ละยุคของอียิปต์

ปฐมบท
ภาพจาก www.google.com

ส่วนการสังหารลูกหัวปีนั้นเป็นการสื่อสารของพระเจ้าโอซิริส DooDiDo ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโลกหลังความตายและเทพผู้อุปถัมภ์ฟาโรห์เมื่อเดินทางไปยังโลกหน้านั่นเอง แสดงให้เห็นว่าแม้แต่โอซิริสก็ไม่สามารถหยุดพระพิโรธของพระเจ้าได้ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นเพียงสมมติฐานของนักวิชาการเท่านั้น ที่ยังคงหาคำตอบมาจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน จนกว่าเราจะพบหลักฐานอื่นๆ อาจไขปริศนาในพระคัมภีร์ได้มากขึ้น

แหล่งที่มา : Travel.trueid.net