ห้ามใจยังไง ให้ไม่กดซื้อของที่ไม่จำเป็น!!

WM

ลองใช้ 8 แนวทางนี้เป็นตัวช่วยเพื่อซื้อแต่ของที่จำเป็นจริงๆ

“ของมันต้องมี” เป็นคำพูดติดปากที่หลาย ๆ คน ชอบพูดเวลาที่เจอของที่ถูกอกถูกใจ และอยากได้มาครอบครอง โดยมองว่า ของเหล่านั้นเป็นของ จำเป็นต้องมีนั่นเอง และเทศกาลช็อปปิ้งก็มักจะมีทุกเดือน ทุกเทศกาล โดยเฉพาะปลายปีที่มีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมมากมาย จนทำให้ใครหลาย ๆ คนหักห้ามใจกันไม่อยู่เลยทีเดียว

โปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น โปรโมชันที่มีทุกเดือนอย่าง 12/12 11/11 ไปจนถึงลดล้างสต็อค ลดส่งท้ายปลายปี ช่างทำให้จิตใจหวั่นไหวเสียเหลือเกิน ราคาที่ลดลงเกือบครึ่ง, ส่งฟรีมีของแถม ต่างเป็นแรงกระตุ้นทางการตลาดที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างงัดกลยุทธ์ และวิธีต่าง ๆ มาล่อตาล่อใจสายช็อปอย่างเราไม่หยุดหย่อน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/markusspiske-670330/

จะเป็นเรื่องที่ “วิน-วิน” ทั้งเราและเจ้าของผลิตภัณฑ์หากผู้ซื้ออย่างเราได้ใช้จริง ซึ่งก็มีหลายครั้ง
ที่ซื้อมาแล้วสุมกองไว้มุมห้องแทบจะไม่ได้ใช้ หรือใช้น้อยจนยังไม่จำเป็นต้องซื้อ

ยิ่งบางครั้งไม่เคยได้แกะออกจากกล่องเลยแถมยังลืมอีกว่าซื้อมาเมื่อไหร่นะ เพราะ ณ เวลานั้นช่างแพ้แรง
จูงใจของโปรโมชันจนอดใจไม่ได้

ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโทษใคร ไม่ว่าจะตัวเราเองที่อ่อนไหวต่อโปรโมชัน หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่สร้างแรงจูงใจ
ให้ซื้อมากมายเหลือเกิน

หากเราสู้แรงต้านทานเหล่านี้ไม่ไหวลองใช้ 8 แนวทางนี้เป็นตัวช่วยเพื่อซื้อแต่ของที่จำเป็นจริง ๆ

1. ลบ หรือทิ้งจดหมายโปรโมชัน
ทั้งจดหมายปกติ และจดหมายอิเล็คทรอนิคส์ ไม่ว่าจะแคตตาล็อก, ข้อเสนอสุดพิเศษ, โปรโมชัน และข้อเสนอจากสถาบันทางการเงิน ในเมื่อต้านทานไม่ไหวก็ไม่เจอเสียดีกว่า

2. ลงทุนแทนที่จะซื้อ
เมื่อเห็นของที่อยากได้แทนที่เราจะตัดสินใจซื้อ ลองเอาเงินจำนวนนั้นไปลงทุนกับกองทุนรวม หรือประกันชีวิตควบการลงทุน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/preis_king-13794513/

3. ลบแอปซื้อของออนไลน์
หากเราใช้มือถือซื้อของเป็นประจำ แนะนำว่าให้ลบแอป และซื้อของที่จำเป็นบนคอมพิวเตอร์แทนเพื่อลด
ความสะดวกสบายในการซื้อของ

4. ยกเลิกการติดตามช่องทางต่าง ๆ
ลดสิ่งที่จะกระตุ้นการซื้อโดยไม่จำเป็นของเรา ด้วยการลดช่องทางการมองเห็น ยกเว้นแต่ว่า
เรามีความจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ค่อยเข้าไปดู ลดความถี่การมองเห็นลง

5. ไม่บันทึกบัตรเครดิตบนช่องทางออนไลน์
พลังแห่งการคลิกนั้นง่ายดาย และเผลอใจกดโดยไม่ยั้งคิดได้ ดังนั้นการบันทึกบัตรเครดิตจึงเป็นการ
อำนวยความสะดวกการซื้อครั้งนี้ช่างง่ายดาย หากเราต้องคอยกรอกข้อมูลบัตรเครดิต จะช่วยให้เรา
ไตร่ตรอง และทบทวนดูอีกครั้ง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/islandworks-1139623/

6. ใช้จ่ายเงินสดเป็นหลัก
มีงานวิจัยสนับสนุนถึงการใช้เงินสดเป็นหลักในการซื้อสินค้า ช่วยลดการซื้อสินค้าโดยไม่จำเป็นได้ดี

7. เข้าใจข้อความโฆษณา
“เหลือ 2 ชิ้นสุดท้าย” หรือ “ลดวันสุดท้าย” เป็นข้อความทางการตลาดที่สร้างแรงจูงใจให้เราอยากได้
สินค้าโดยไม่จำเป็น หรือยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในตอนนี้ และคอยย้ำกับตัวเองเสมอว่าซื้อก็ต่อเมื่อได้ใช้อย่างคุ้มค่า 

วิธีห้ามใจที่ดูเหมือนง่าย ๆ แต่ไม่ง่ายเลยใช่มั๊ยคะ เพราะโปรโมชั่นต่าง ๆ มันยั่วยุใจเราเหลือเกิน แต่….ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลง หรือปรับไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้ง DooDiDo คิดว่าเราก็ต้องเริ่มลงมือทำค่ะ โดยเริ่มจากการเลือกซื้อของเฉพาะเท่าที่จำเป็น หรือเท่าที่อยากได้จริง ๆ แทนที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยประจำบ่อย ๆ ทุกเดือน แล้วเปลี่ยนเป็นการซื้อของขวัญให้ตัวเองปีละครั้ง และต้องเป็นของที่อยากได้จริง ๆ ถึงราคาจะสูงหน่อยถือว่าให้รางวัลตัวเองค่ะ และที่สำคัญ เราต้องลบคำว่า “ของมันต้องมี” ให้ออกไปจากใจของเราให้ได้ค่ะ สู้ ๆ นะคะ นักช็อปทั้งหลาย

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.pptvhd36.com