ห่างไกลโรคด้วย 9 ผักเพื่อสุขภาพที่อุดมสารต้านอนุมูลอิสระ

แนะนำ 9 ผักที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง

“ผัก” ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเสริมสร้างร่างกายของมนุษย์ให้สมบูรณ์และแข็งแรง และผักไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น ซึ่งผักทุกชนิดต่างก็อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย เราจึงถูกปลูกฝังให้กินผักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าผักบางชนิดมันดีอย่างไร แล้วจะเลือกอย่างไรดี ใครที่ชอบผักละก็ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

สำหรับผักมีประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งหลายคนทราบดีอยู่แล้ว และการทานพืชผักให้ปลอดภัยจากสารพิษตกค้างก็คือการเลือกทานพืชผักในฤดูกาล รวมไปถึงการทานผักผลไม้ที่หลากหลายสลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละมื้อ ประโยชน์ของผักผลไม้นั้นมีมากมายหลายด้าน ผักดิบกับผักสุก มีประโยชน์เหมือนกัน ผักสุกอาจสูญเสียวิตามินบางชนิดได้ เช่น วิตามินซี ที่สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่บางคนอาจประสบปัญหาท้องผูกจากการรับประทานผักดิบได้ หรือมีอาการท้องเสียเพราะล้างผักไม่สะอาด แต่ผักบางชนิดเองหากรับประทานแบบสุกก็จะมีประโยชน์มากกว่า เช่น มะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนต่าง ๆ เพราะร่างกายจะนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าแบบดิบหรือสด

1. หัวหอม
หัวหอม เป็นผักชนิดหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากเมื่อรับประทานแบบสด ๆ เพราะการนำหัวหอมไปผ่านความร้อนจะทำให้ประโยชน์จากสารที่อยู่ในหัวหอมที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปอดและมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง ดังนั้นใครที่ชอบกินผักและทนกลับกลิ่นฉุน ๆ จนน้ำตาไหลอย่างหัวหอมได้ ก็ลองหามารับประทานสด ๆ ดูนะคะ โดยอาจจะนำมาทานกับสลัดก็ได้ค่ะ

2. ข้าวโพด
หลาย ๆ คงชอบรับประทานข้าวโพดต้มกันใช่ไหมค่ะ รู้หรือเปล่าว่าเจ้าข้าวโพดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากเลยล่ะค่ะ แต่ว่าจะต้องนำข้าวโพดมาทำให้สุกก่อนจึงจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ลูทีน (Lutein) อย่างเต็มที่ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้มีฤทธิ์ในการช่วยต่อสู้กับปัญหาเกี่ยวกับดวงตาในผู้สูงอายุ แต่ถ้าหากไม่ชอบข้าวโพดต้ม ลองนำข้าวโพดไปย่าง หรือนำไปทำซุปข้าวโพดก็ได้ประโยชน์นะ

3. ถั่วลันเตา
มีการศึกษาซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ International Journal of Cancer พบว่าการรับประทานถั่วลันเตาทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ และถ้าหากอยากรับประทานถั่วลันเตาก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ซื้อมาผัดกับน้ำมัน หรือจะนำเมล็ดถั่วมาหุงรวมกับข้าวเพื่อรับประทานก็ทำให้ได้ประโยชน์เช่นกันค่ะ

4. คะน้า
เห็นใบสีเขียวเข้มแบบนี้แต่เจ้าคะน้าก็มีวิตามินซีสูงมากนะคะ ซึ่งวิตามินซีเราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์กับร่างกายอย่างนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และการลดอาการอักเสบต่าง ๆ แต่ที่สำคัญก็น่าจะเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจโดยการไปลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีนั่นเอง ดังนั้นถ้าหากใครมีไขมันในเลือดสูงละก็ ลองหาคะน้ามาทานกันดูนะคะ

5. บรอกโคลี
ถ้าพูดถึงว่าผักชนิดใดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการต่อสู้กับโรคมะเร็งมากที่สุดก็คงต้องยกแชมป์ให้บรอกโคลี เพราะบรอกโคลีเป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากซึ่งการศึกษาพบว่าผู้ชายที่รับประทานบรอกโคลี 5 ครั้งต่อสัปดาห์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยได้รับประทาน ซึ่งผักชนิดนี้นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์แล้ว ยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นถ้าคิดเมนูอาหารไม่ออก ลองนำบรอกโคลีมาทำอาหารดูสิ

6. พริกหวานสีแดง
พริกชนิดนี้นอกจากจะสีสันสวยงามแล้วก็ยังไม่เผ็ด แถมยังมีแคลอรี่ต่ำ เพียง 32 แคลอรี่เท่านั้น ! และภายใต้เปลือกที่สีสันจัดจ้านนี้อุดมไปด้วยวิตามินซี มากถึง 150% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ของโรคหัวใจอีกด้วย อย่างนี้ไม่ลองไม่ได้แล้วนะ

7. ผักโขม
แคโรทีนอยด์ (carotenoid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพดวงตาและช่วยป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาบอดในผู้สูงอายุ และในผักโขมก็มีสารชนิดนี้อยู่สูงมาก แต่ถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็ควรนำผักไปปรุงให้สุกเพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมแคโรทีนอยด์ได้ดีขึ้นค่ะ

8. กะหล่ำดาว
กะหล่ำดาว เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการต่อสู้กับโรคมะเร็งที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ รวมทั้งการรับประทานวิตามินซีทุกวันก็ช่วยต่อสู้โรคมะเร็งได้ ซึ่งในกะหล่ำดาวเพียงครึ่งถ้วยก็มีปริมาณวิตามินซีถึง 80% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน แถมยังช่วยต่อสู้กับโรคหัวใจและต้อกระจกได้อีกด้วย โหย วิตามินซีเยอะขนาดนี้ไม่หามารับประทานดูเหมือนจะไม่ได้แล้วเนอะ

9. หัวบีท
หัวบีทเป็นผักที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไร ส่วนใหญ่ที่เคยก็ได้ยินน้ำบีทรูท ซึ่งก็เป็นน้ำที่มาจากหัวบีทนี่ล่ะค่ะ แต่นอกจากน้ำแล้ว เจ้าหัวบีทสดก็มีประโยชน์นะ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งและลูทีนซึ่งเป็นสารที่ช่วยปกป้องดวงตา และที่สำคัญ เจ้าต้นของหัวบีทนี่ก็ห้ามทิ้งเลยนะ ! เพราะต้นของมันก็มีประโยชน์พอ ๆ กับผักจำพวกใบเขียวเข้มเลยล่ะค่ะ ฉะนั้นถ้าซื้อมาแล้วก็ใช้ทั้งหัวและต้นของมันมาทำอาหารด้วยกันเลย รับรองว่าได้ประโยชน์เพียบเลยล่ะ

หากพูดถึง ผักนอกจากจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้แล้วก็ยังสามารถช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ด้วย ดังนั้น DooDiDo แนะนำเลยค่ะว่าเราควรที่จะรับประทานผักบ่อยๆ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ก็อย่าลืมทานอาหารอย่างอื่นควบคู่กันไปด้วยนะ ร่างกายจะได้รับประโยชน์และสารอาหารอย่างครบถ้วนค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://health.kapook.com