หูชั้นกลางอักเสบในเด็กก่อนวัยเรียน เรื่องไม่เล็กที่พ่อแม่ต้องระวัง!

WM

หากลูกน้อยเป็นหวัดนานๆ ส่งผลให้เยื่อโพรงจมูกบวมโอกาสติดเชื้อในช่องหูยิ่งเพิ่มมากขึ้น

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่าเวลาที่ลูกเป็นไข้หวัด ไม่สบาย มีไข้สูง ปวดหูมาก ถ้าเป็นเด็กเล็ก จะร้องกวน เอามือกุมหูข้างที่ปวดไว้ ซึ่งมีหลายครอบครัวมากที่มักเจอกับปัญหาลูกร้องกวนงอแงผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ และยังไม่เคยรู้อีกว่าสาเหตุหนึ่งที่ลูกกำลังเผชิญอยู่ คือ โรคหูชั้นกลางอักเสบ ที่หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้แก้วหูของลูกทะลุ ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และเกิดฝีในสมองได้ค่ะ

หูชั้นกลางอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะหนูน้อยก่อนวัยเรียน สาเหตุเกิดจากการพัฒนาของช่องหูชั้นกลางกับจมูกยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ท่อที่เชื่อมต่อระหว่างกันมีความสั้นและลาดเอียงน้อย ทำให้เชื้อโรคเดินทางเข้าไปในช่องหูได้ง่าย ยิ่งถ้าลูกน้อยเป็นหวัด ฮัดชิ่ว นาน ๆ ส่งผลให้เยื่อโพรงจมูกบวมโอกาสติดเชื้อในช่องหูยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ลักษณะดังกล่าวนี้จะพัฒนาแข็งแรงขึ้นตามวัยนะคะ ไม่ต้องกังวล

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/exergencorporation-16269701/

สาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อได้ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย มักจะมีอาการหลังจากเป็นหวัด

อาการของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
1.มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล อาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วยหรือบางคนก็อาจมีไข้สูง ปวดศีรษะ
2.ปวดหู สำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ มักจะแสดงอาการดึงหูตัวเองบ่อย ๆ เอามือกุมหรือตบที่ใบหู งอแงมากขึ้น หรือตื่นร้องไห้กลางดึก
3.บางคนคลื่นไส้อาเจียน หากรุนแรงจะมีน้ำหรือหนองไหลออกจากหู
4.หากปล่อยไว้นาน อาจทำให้เด็กไม่ค่อยได้ยินเสียง ส่งผลให้มีปัญหาพูดช้า พูดไม่ชัดตามมาได้ และยังส่งผลด้านการทรงตัว
5.ภาวะแทรกซ้อน คือ เยื่อแก้วหูทะลุได้

การรักษา
1.กรณีที่เป็นทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน หรือ 6 เดือน – 2 ขวบ ที่มีอาการไข้สูงหรือปวดหูรุนแรง จำเป็นต้องให้ยาแก้ปวด สำหรับอาการไข้และอาการปวดหูหลังจากได้รับยาแล้ว จะดีขึ้นภายใน 1 – 2 วัน หากอาการยังไม่ดีขึ้นจะให้ยาจำพวกยาปฏิชีวนะจะทำให้อาการดีขึ้นภายใน 7 -10 วัน แต่ต้องตรวจซ้ำเพื่อดูว่าหายสนิทแล้วหรือไม่
2.ถ้าอายุมากกว่า 2 ขวบขึ้นไป คุณหมอจะให้ยาแก้ปวด และนัดสังเกตอาการ 3 วัน หากยังไม่ดีขึ้นต้องให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มเติม
3.วิธีการดูแลเมื่อลูกปวดหูให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาด หรือใช้เจล hot pack พันผ้าแล้วประคบข้างที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้
4.หากมีอาการรุนแรง เช่น มีน้ำหรือน้ำหนองขังอยู่ในหูชั้นกลางแบบเรื้อรัง อาจต้องผ่าตัดใส่ท่อระบายน้ำออก เพื่อทำให้การได้ยินดีขึ้น เพราะหากเกิดการติดเชื้อบ่อย ๆ จะส่งผลต่อพัฒนาการด้านการพูดทำให้พูดช้า พูดไม่ชัด หรือมีปัญหาด้านการทรงตัวได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@cdc

การป้องกัน
1.ให้ลูกกินนมแม่เพื่อจะได้รับภูมิคุ้มกันในร่างกาย
2.ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหวัด เพราะสามารถนำไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบได้
3.ให้ลูกอออกกำลังกายประจำสม่ำเสมอเพราะการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มแรงดันการหายใจ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
4.ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันการรับเชื้อ

เพราะพัฒนาการด้านการได้ยินของลูก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ DooDiDo จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่เห็นความสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบให้มากขึ้น และสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรค คือ การรักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ดูแลลูกให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ให้เป็นหวัดบ่อยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.maerakluke.com