หากร่ายกายที่ได้รับวิตามินซีเยอะเกินไป จะเป็นยังไงไปดูกัน!!
ถ้ามีวิตามินซีในร่างกายมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ
ถ้าพูดถึงวิตามินซีแล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครๆ ก็ยินดีที่จะได้รับมันมาใช่มั้ยล่ะคะ เพราะวิตามินซีนั้นมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาอาการภูมิแพ้ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และอีกมากมายจริงๆ ค่ะ แล้วในพืชผักต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็มีสารตัวนี้อยู่ด้วย เพราะงั้นแล้วของแบบนี้ยิ่งกินก็ยิ่งต้องดีต่อสุขภาพสิคะ แต่จะเป็นแบบนั้นเสมอไปจริงหรอเปล่าน่ะสิ ในวันนี้เราจะมาช่วยไขความสงสัยของคุณค่ะว่า ร่างกายแบบไหนที่ได้รับวิตามินซีเยอะเกินไป จะมีลักษณะแบบกันนะ เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
วิตามินซี ที่ละลายในน้ำ หรือที่เรียกว่ากรดแอสคอร์บิค จะช่วยให้เซลล์ของคุณแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยรักษา กระดูกฟัน กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้อยู่ในสภาพดี แต่ถ้ามีวิตามินซีในร่างกายมากเกินไปล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณกันบ้าง ไปดูกันเลย…
- การรบกวนทางเดินอาหาร
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของการรับประทานวิตามินซีมากเกินไป คือ ท้องเสียและคลื่นไส้ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อวิตามินไม่ถูกดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปริมาณวิตามินซีที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปัญหาเหล่านี้พบว่าแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขณะที่บางคนรายงานว่ามีปัญหาหลังจากทานอาหารเสริมมากกว่า 3 กรัมต่อวัน แต่บางคนก็ประสบปัญหาเพียง 10 กรัมต่อวันเท่านั้น
- 2. มีธาตุเหล็กเกิน
วิตามินซีส่งเสริมการดูดซึมของธาตุเหล็ก และช่วยป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ในทางกลับกัน การได้รับวิตามินซีในปริมาณสูงสามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก เมื่อร่างกายดูดซับธาตุเหล็กในปริมาณที่เป็นอันตราย อาจทำให้เผชิญกับความเสียหายของเนื้อเยื่อ หากบริโภควิตามินซีในปริมาณสูงในระยะเวลานาน
- 3. นิ่วในไต
เมื่อวิตามินซีถูกเผาผลาญในร่างกาย สารประกอบที่เรียกว่า ออกซาเลต จะถูกผลิตออกมา ซึ่งโดยปกติจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ออกซาเลตในระดับสูงสามารถรวมกับแคลเซียมในกระแสเลือด และเพิ่มความเสี่ยงของนิ่วในไตได้ โดยผู้ที่ได้รับวิตามินซีมากกว่า 1,000 มก. ต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตสูงกว่า 41% เมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้เวลาน้อยกว่า 90 มก. ต่อวัน
- ทำให้การทดสอบเลือดไม่เป็นผล
จากการวิจัยพบว่า วิตามินซีอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด การกินวิตามินซีที่มากเกินไปอาจรบกวนการทดสอบในห้องปฏิบัติการบาง เช่น เซรั่มครีติน ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังอาจบิดเบือนการทดสอบน้ำตาลในเลือด หากคุณมีกำหนดสำหรับการทดสอบทางการแพทย์ใดๆ อย่าลืมแจ้งแพทย์ของคุณเกี่ยวกับอาหารเสริมวิตามินที่คุณใช้ด้วย
- 6. โรคหัวใจและหลอดเลือด
วิตามินซีเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องร่างกายจากโรค แต่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง มีผลการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การได้รับวิตามินซีในปริมาณสูงสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งการบริโภควิตามินซีมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวันนั้นสัมพันธ์กับโรคหัวใจและหลอดเลือดในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่เป็นโรคเบาหวานด้วย
- ความเสียหายทางพันธุกรรม
ในขณะที่วิตามินซีเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ในการศึกษาหนึ่งที่อาสาสมัครมีสุขภาพดีได้รับวิตามินซีเสริมทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ รายงานความเสียหายจากการออกซิเดชั่นที่ขนาด 500 มก. ต่อวัน นักวิจัยคาดการณ์ว่าในฐานะที่เป็นสารออกซิเดชั่นอาหารเสริมวิตามินซีสามารถแก้ไขและทำลาย DNA และอาจนำไปสู่โรค เช่น มะเร็งได้
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
วิตามินซีเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องร่างกายจากโรค แต่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง มีผลการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การได้รับวิตามินซีในปริมาณสูงสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งการบริโภควิตามินซีมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวันนั้นสัมพันธ์กับโรคหัวใจและหลอดเลือดในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่เป็นโรคเบาหวานด้วย
ใครๆ ก็ต่างก็รู้ว่าวิตามิน C นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง หลายๆ คนก็คงคิดว่าของมีประโยชน์แบบนี้ยิ่งกินสิยิ่งดี แต่พออ่านมาจนถึงตรงนี้ DooDiDo คิดว่าก็น่าจะต้องเปลี่ยนความคิดนั้นทันทีเลยใช่มั้ยละคะ เพราะว่าเจ้า วิตามิน C นั้นก็มีข้อเสียเหมือนกันอาหาร เครื่องดื่มอื่นๆ อีก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะอย่างไรแล้วอะไรที่มากเกินไป หรือน้อยเกินไปนั้นไม่มีอะไรดีหรอกเนอะ ยังไงก็ควรที่จะทานในปริมาณเท่าที่จำเป็น และเหมาะสม ก็เป็นเรื่องควรจะทำกับในทุกๆ สิ่งอย่างค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.gangbeauty.com