สาวๆ ควรรู้ 6 สาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใส

แดดช่วงเที่ยงวันทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ เหี่ยวย่น และหยาบกร้าน

ปัญหาผิวหมองคล้ำ แลดูไม่กระจ่างใสกำลังกวนใจใครหลาย ๆ คนอยู่ตอนนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนของบ้านเราและแสงแดดอันแรงกล้าที่มาพร้อมกับฝุ่นควัน บอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการร้ายที่คอยทำลายผิวให้เสียและหมองคล้ำ วันนี้เราจะพาสาว ๆ มาดูว่าอะไรที่เป็นสาเหตุททำให้ผิวของสาว ๆ หมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใส

ปัญหาผิวหมองคล้ำ เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจ ที่สาวๆ หลายคนกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแสงแดดที่ต้องเผชิญ สภาพอากาศที่ต้องพบเจอ หรือว่าอาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตอื่น ๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มน้ำน้อย ความเครียด หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำได้ ไปดูกันว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลเสียต่อผิวของเราได้อย่างไร

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/halayalex

1.แสงแดด
การให้ผิวได้สัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าทุกวัน วันละ 15 นาที ถือเป็นการเพิ่มวิตามินดีให้ผิว และช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่หากต้องเผชิญกับแดดเปรี้ยง ๆ อย่างแดดช่วงเที่ยงวันที่แสนร้อนระอุเป็นเวลานาน นอกจากจะอาจทำให้เกิดลมแดดแล้ว ยังทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ เหี่ยวย่น และหยาบกร้านได้อีกด้วย

เพราะรังสี UV (Ultraviolet) ที่อยู่ในแสงแดดเป็นตัวทำลายอิลาสติน (Elastin) ซึ่งเป็นโครงสร้างภายในผิวหนังที่มีส่วนช่วยให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น และกระชับ รวมถึง ช่วยให้ผิวพรรณดูชุ่มชื่น และลดเลือนริ้วลอย ที่สำคัญหากอิลาสตินถูกทำลาย การรักษาผิวให้กลับไปดีดังเดิมจึงเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังจากรังสี UV ได้อีกด้วย

2.สภาพอากาศ
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ผิวของหลายคนอาจเกิดอาการแห้ง หรือแตก และเป็นขุยลอก ซึ่งมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศเย็นได้ดูดซับความชื้นไปจากผิวหนัง ไม่เพียงแต่สภาพอากาศตามธรรมชาติเท่านั้น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานก็มีส่วนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำได้ นอกจากนี้ หากผิวแห้งมากๆ อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังอื่นๆ ได้ด้วย เช่น ผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน หรือผิวแตก

3.ความเครียด
ความเครียดเป็นสภาวะทางจิตใจที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังให้ทำงานหนักขึ้น จนผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น และทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง สิว และส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

4.ขาดความชุ่มชื้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ คือ ผิวขาดความชุ่มชื้น เมื่อผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวเกิดร่องลึก ดูไม่เรียบเนียน และไม่เปล่งปลั่ง ดังนั้น จึงควรหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิธีง่ายๆ อย่างการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยดื่มประมาณ 8 แก้วต่อวัน หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) เพื่อให้เซลล์ดึงน้ำมาใช้ยังเนื้อเยื่อรอบๆ ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ นอกจากนี้ การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ก็สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และกระตุ้นเซลล์รอบๆ ใบหน้า และลำคอ ให้ผิวได้รับออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นได้

5.อาหารที่ทาน
การรับประทานอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของผิวได้ หากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ผิวก็จะดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และไม่แห้งกร้าน โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินบีต่างๆ โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ สังกะสี และกรดไขมันจำเป็น ถือเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อผิวหนัง หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ จะทำให้ผิวผลิตน้ำมันน้อยลง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน และดูคล้ำเสียได้

6.นอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับถือเป็นช่วงที่ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายได้พักผ่อน รวมถึงผิวหนังด้วย ในช่วงที่นอนหลับ เซลล์ผิวหนังจะทำการซ่อมแซมตัวเอง และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีได้ หากอดนอนมากๆ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ กระบวนการทำงานต่างๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ จนทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา ผิวแห้ง และการผลัดเซลล์ผิวเปลี่ยนแปลงไปได้

เพื่อเป็นการปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยสิ่งที่  DooDiDo นำมาฝากจากบทความนี้ สาว ๆ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตกันนะคะ ใครที่ไม่ชอบทาครีมกันแดดและไม่เคยทาครีมกันแดดเลย ก็ต้องหันมาใช้เพื่อเป็นการป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดอันร้อนระอุของเมืองไทยนั่นเอง หาเวลาสครับผิวและบำรุงผิวด้วยครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของผิวขาว กระจ่างใสกันด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thestreetratchada.com