วิธีเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับตัวเอง ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง

น้ำหอม

เลือกน้ำหอมอย่างไรให้เข้ากับตัวเอง เพิ่มเสน่ห์ที่น่าหลงไหลและความมั่นใจ


กลิ่นน้ำหอม หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงน่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ กลิ่นกายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม น้ำหอมจึงเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวที่อยากให้กลิ่นหอมบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณ นอกจากจะบอกถึงรสนิยมแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกให้ดีขึ้นอีกด้วยนะ

เพราะกลิ่นกายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม น้ำหอมจึงเป็นไอเท็มที่จำเป็นสำหรับเรา เพื่อเพิ่มเสน่ห์ในตัวเรา ซึ่งน้ำหอมที่ดีมีคุณภาพนั้น จะต้องมีคุณสมบัติของความหอมอยู่ 3 ระดับ นั่นคือ ท็อปโนซ (Top Nose), มิดเดิลโนซ (Middle Nose) และเบสโนซ (Base Nose) ซึ่งเดี๋ยวเราจะอธิบายไว้ด้านล่าง ส่วนข้อดีนอกจากจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ตัวเอง ยังช่วยให้มีสมาธิ ลดความเครียด ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเวลาได้กลิ่นหอมๆ ของมัน ทำให้คุณรู้สึกดีมีความสุขอีกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของไม้ กลิ่นผลไม้ กลิ่นไซตรัสต่างๆ ถ้าเป็นสิ่งที่คุณชอบ ความรู้สึกดีๆ มีความสุขก็คงจะไม่หนีไปไหน

กลิ่นน้ำหอม 3 ระดับ

ระดับที่ 1 หรือ กลิ่นแรก เรียกว่า ท็อป โนซ (Top Nose) เมื่อฉีดน้ำหอมตามจุดต่างๆ ในร่างกาย กลิ่นแรกที่จะรับรู้ความหอม คือ ท็อปโนซ จะรับรู้ถึงความอ่อนนุ่ม ความสดชื่น ความบางเบา ของกลิ่นน้ำหอม และกลิ่นจะคงติดอยู่ประมาณ 20 นาที จากนั้นจะเจือจางความหอมหายไป

ระดับที่ 2 หรือ กลิ่นกลาง เรียกว่า มิดเดิล โนซ (Middle Nose) ช่วงกลิ่นกลางนี้ระดับความหอม บนร่างกายจะฟุ้งกระจายไปเต็มที่ ซึ่งช่วงกลิ่นนี้ถือว่าเป็นช่วงหัวใจหลักของน้ำหอม เพราะการรับรู้ความหอมของเราในช่วง มิดเดิลโนซ จะทำให้รับรู้ และสัมผัสความหอม จากกลิ่นที่เราเลือกใช้ได้มากที่สุดในช่วงกลิ่นกลาง ซึ่งความหอมของน้ำหอมจะคงติด และฟุ้งกระจายอยู่ประมาณ 2-4 ชั่วโมง

ระดับที่ 3 หรือ กลิ่นพื้นฐาน เรียกว่า เบส โนซ (Base Nose) เป็นความหอมที่เข้มข้นที่ยังคงเหลืออยู่บนร่างกายของเรา กลิ่นพื้นฐานนี้จะแสดงความหอมออกมาเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4-6 ชั่วโมง กลิ่นพื้นฐาน เบส โนซ จะเป็นกลิ่นสุดท้ายที่ทำให้รับรู้ความหอมแล้วก็จะค่อยๆ จางไปในที่สุด

เลือกน้ำหอมให้เหมาะกับ 3 สภาพผิว

1.ผิวมัน ในผิวจะมีน้ำมันซึ่งช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานและกระจายกลิ่นค่อนข้างดี รวมถึงทำให้กลิ่นที่ใช้ฉุนและแรงขึ้นกว่าปกติ แนะนำให้หลีกเลี่ยงน้ำหอมกลิ่นฉุน ๆ แล้วใช้น้ำหอมที่กลิ่นอ่อนโยนหรือเบาบางดีกว่า เช่น น้ำหอมประเภท Eau de Toilette หรือ Eau de Cologne

2.ผิวแห้ง จะดูดซึมความมันจากน้ำหอมไว้ได้ดี ทำให้การกระจายตัวของกลิ่นน้ำหอมนั้นน้อยกว่าคนผิวมัน แนะนำให้ใช้น้ำหอมที่กลิ่นค่อนข้างแรง และเข้มข้นมากกว่าปกติ ควรเป็น Eau de Parfum หรือ Eau de Toilette

3.ผิวที่เหงื่อออกง่าย ปกติในน้ำหอมจะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เวลาเหงื่อออกรูขุมขนจะเปิดทำให้แอลกอฮอล์ซึมเข้าไป ทำให้เกิดอาการแสบร้อนได้ เพราะฉะนั้นน้ำหอมประเภทที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ Body Mist เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

น้ำหอม
ภาพจาก Pixabay
กลุ่มน้ำหอม

กลุ่มน้ำหอมกับการทำงานของสมอง น้ำหอมที่ช่วยให้เรามีสมาธิและมีใจจดจ่อต่อสิ่งที่ทำมากขึ้น คือ กลิ่นไซตรัส ที่ช่วยให้สมองโฟกัสกับสิ่งต่างๆ มากขึ้น น้ำหอมที่ช่วยรักษาความทรงจำของสมอง คือกลิ่นมิ้นต์ น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ทำให้คุณรู้สึกสงบผ่อนคลาย และน้ำหอมกลิ่นคาโมมายด์ที่จะทำให้คุณนอนหลับสนิท

กลุ่มน้ำหอมที่ลดความเหนื่อยล้า น้ำหอมกลิ่นเกรฟฟรุ้ต (Grapefruit) กลิ่นกินเจอร์ (Ginger) หรือจะเป็นกลิ่นแมนดาริน ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้า ทำให้คุณรู้สึกกระชุ่มกระชวยมากขึ้น น้ำหอมกลิ่นโรสแมรี่ ที่ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ เกิดความคิดสร้างสรรค์กลุ่มน้ำหอมที่ให้ความสบายใจ สดชื่นเมื่อยามได้กลิ่น น้ำหอมกลิ่นวานิลลา เฟอร์และจัสมิน ที่ช่วยให้คุณสบายใจและสดชื่น

ฉีดยังไงให้น้ำหอมติดทนนาน
  • ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เช่น ข้อพับ ข้อศอก ด้านในข้อมือ ติ่งหู ที่เป็นจุดไหลเวียนโลหิตซึ่งอุณหภูมิอบอุ่นเป็นพิเศษ เพราะน้ำหอมกระจายตัวได้ดีในอุณหภูมิที่อุ่น ในขณะเดียวกันก็เป็นการดูดซับความหอมไว้ใต้ผิวหนังทำให้กลิ่นน้ำหอมติดนานขึ้น
  • การเสียดสีของผิวอาจทำให้กลิ่นน้ำหอมเพี้ยนได้ SA Game ขอบอกเลยว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรปล่อยให้น้ำหอมซึมเข้าสู่ผิวและแห้งเองตามธรรมชาติ ไม่ควรถูบริเวณที่ฉีดน้ำหอม
  • การทาครีมหรือโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม เพราะจะทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและดูดซับน้ำหอมได้ดีกว่าผิวที่แห้ง ถ้าจะให้ดีควรเลือกโลชั่นกลิ่นเดียวกับน้ำหอม หรืออาจจะเป็น Lotion Base ที่ไม่มีกลิ่นก็ได้
  • ฉีดน้ำหอมหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เป็นตอนที่ร่างกายของเราพร้อมรับน้ำหอมได้เต็มที่ แถมปราศจากสิ่งเจือปนที่ทำให้กลิ่นน้ำหอมเพี้ยนด้วย
  • ฉีดน้ำหอมบริเวณผิวหนังโดยตรง ไม่ควรฉีดใส่เสื้อผ้า เพราะนอกจากจะทำให้เสื้อผ้าเป็นรอยด่างได้ง่ายขึ้นแล้ว กลิ่นน้ำหอมยังไม่ติดทน และการกระจายของกลิ่นก็ไม่ดีด้วย เพราะน้ำหอมทำปฏิกิริยากับผิวหนังได้ดีกว่า

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมที่ DooDiDo ได้นำเสนอให้ทุกคนที่สนใจ อยากจะซื้อน้ำหอมมาใช้ ให้ได้ทราบกัน พอจะมีความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมเพิ่มขึ้นกันแล้วใช่ไหมล่ะ

แหล่งที่มา : www.unlockmen.com, idofragrance.com, www.wongnai.com