วิธีฝึกลูกให้เป็นคนเก่ง ด้วยการฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้าน

WM

ระบบประสาทสัมผัส (Sensory Integration) มีอะไรบ้าง มาดูกัน!

การที่ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเป็นคนเก่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เราสามารถฝึกฝนลูก ๆ ของเราให้เป็นคนที่เก่งและฉลาดได้ด้วยการเรียนรู้ผ่านผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้าน พ่อแม่สามารถฝึกลูกน้อยตั้งเเต่เเรกเกิดไปจนถึงประมาณ 3 ปี เพราะช่วงเาลานี้เป็นช่วงที่สมองเด็กพัฒนาได้เยอะ ระบบประสาทสัมผัส (Sensory Integration) มีอะไรบ้าง และกิจกรรมอะไรที่ช่วยในการฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้าน มาดูกัน!

ระบบประสาทสัมผัส (Sensory Integration) เป็นกระบวนการทางระบบประสาทที่มีติดตัวเด็กมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองของเด็กเป็นอย่างมาก โดยสมองของเด็กจะประมวลผลและประเมินสิ่งที่ร่างกายได้รับเข้ามาผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้าน ส่งผลให้เด็กเกิดการจดจำ เรียนรู้ และวางแผนจัดการได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ การฝึกให้เด็กได้ใช้ประสาททั้ง 7 อย่างเหมาะสม ควรทำตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี เพราะเป็นช่วงเวลาทองของสมองเด็ก ที่จะมีพัฒนาการการเรียนรู้ และการเชื่อมโยงของใยประสาท หรือการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทที่ดีที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@tinymountain

โดยใยประสาทที่ถูกส่งเสริมจะพัฒนาและคงอยู่ต่อไป ส่วนใยประสาทที่ไม่ได้รับการกระตุ้นหรือใช้งานก็จะหายไปเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 6 – 10 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกมีความบกพร่องในระบบประสาทสัมผัสด้านใดด้านหนึ่ง เช่น มีอุปสรรคในการเล่น การทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือการดำเนินกิจวัตรประจำวัน เช่น กลัวเมื่อต้องมีการเคลื่อนไหว มีความยากลำบากในการใช้มือ ไม่สามารถกะแรงที่ต้องใช้ในกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม มีความยากลำบากในการปรับตัวเข้ากับคนแปลกหน้า เปลี่ยนแปลงยาก ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมแยกตัว

1. การมองเห็น
เด็ก ๆ จะพัฒนาด้านการมองเห็นด้วยการกะระยะ การแยกเเยะความต่างของสิ่งรอบตัว

การฝึกฝน: วัยทารก
– เล่นจ๊ะเอ๋
– ให้มองกระจกเงา
– เเต่งห้องนอนให้สว่าง
– เล่นกับไฟฉาย (เด็กจะสนใจการมองตามเเสงไฟ)
– ให้เล่นของเล่นสีสันสดใส

การฝึกฝน: วัยเรียน
-เกมฝึกสายตา เช่น เกมจับคู่ภาพ เกมหาจุดต่างในภาพ

2. การสัมผัส
การรับรู้ด้านการสัมผัสพัฒนาได้ง่ายกว่าด้านอื่น เพราะเด็กทุกช่วงวัยจะมีการเล่น หยิบจับสิ่งของ อยู่เเล้ว

การฝึกฝน: วัยทารก
– พ่อเเม่สัมผัสลูกผ่านการอุ้ม
– อาบน้ำให้ลูกโดยใช้ฟองน้ำถูตัว
– นวดตัวให้ลูก

วัยเรียน
– เล่นปั้นดินน้ำมัน
– เล่นทราย
– สัมผัสพื้นหญ้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/senivpetro

3. การฟัง
ประสาทสัมผัสด้านนี้ถูกพัฒนาขึ้นตั้งเเต่ลูกยังเป็นเด็กทารก ซึ่งถ้าพัฒนาดีๆ ก็จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการด้านการสื่อสารที่ดีด้วย

การฝึกฝน: วัยทารก
– ฟังเสียงธรรมชาติ
– พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ
– เล่นของเล่นที่มีเสียงกับลูก (กรุ๋งกริ๋ง)

การฝึกฝน: วัยเรียน
– ให้เล่นดนตรี
– ให้ลองฟังเสียงสัตว์เเล้วบอกว่าเป็นตัวอะไร
– ให้ลองจับคู่เสียงที่เหมือน

4. การรับกลิ่น
การรับรู้กลิ่นก็คือการรับรู้สัมผัสทางอากาศ ซึ่งคุณพ่อคุณเเม่ควรให้ลูกดมกลิ่นหลายๆ แบบ

การฝึกฝน: วัยทารก
– กอดลูกบ่อยๆ เพื่อให้ลูกจำกลิ่นพ่อเเม่ได้

วัยเรียน
– เล่นปิดตาดมกลิ่นเเล้วทายว่าเป็นกลิ่นอะไร เช่น กลิ่นมะนาว กลิ่นดอกไม้ กลิ่นอาหาร ฯลฯ

5. การรับรส
พัฒนาการด้านนี้เป็นการฝึกให้รับรู้เเละเเยกเเยะรสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม ซึ่งเด็กๆ เริ่มต้นมาจากการรับรู้รสชาติของน้ำนมเเม่

การฝึกฝน: วัยทารก
– ดื่มนมเเม่
– ทานอาหารรสชาติอ่อน

การฝึกฝน: วัยเรียน
– ทานอาหารรสชาติหลากหลาย
– ทานอาหารที่มีอุณหภูมิร้อน-เย็น

WM

6. การทรงตัว
การทรงตัวถือเป็นอีกด้านที่สำคัญ เพราะเป็นการฝึกระบบการเคลื่อนไหวเลย การฝึกฝนส่วนใหญ่ควรเป็นกิจกรรมที่ให้ขยับเยอะๆ

การฝึกฝน: วัยทารก
– นั่งบนลกบอลใหญ่ ๆ
– นอนในเปลญวณ
– นั่งทรงตัวตรง ๆ
– ลองให้ลูกโยก ซ้าย,ขวา,หน้า,หลัง

การฝึกฝน: วัยเรียน
– ปั่นจักรยาน
– กระโดด
– ยืนขาเดียวบนกระดานทรงตัว
– นั่งชิงช้า
– เต้น
– ตีลังกา

7. การรับความรู้สึก ของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
การรับรู้ส่วนต่าง ๆ ในร่างกายช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักตัวเองดีขึ้น สามารถเคลื่อนไหวได้ไม่ติดขัด มั่นใจ กล้าทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ

การฝึกฝน: วัยทารก
– ฝึก กลิ้ง คืบ คลาน เเละเดิน
– ให้เอื้อมหยิบของเล่น

การฝึกฝน: วัยเรียน
– ให้เล่นเล่นปีนป่าย ห้อยโหน เพื่อฝึกกล้ามเนื้อ

กิจกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาเส้นใยประสาทในสมองของเด็ก ช่วยให้เรียนรู้ได้ดี โดยใยประสาทที่ได้รับการพัฒนาจะคงอยู่ ส่วนใยประสาทที่ไม่ถูกพัฒนาก็จะหายไปตอนช่วงอายุประมาณ 6-10 ปี ถ้าได้รับการฝึกฝนพัฒนาอย่างดีก็จะเป็นพื่นฐานให้เด็กใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ

ทำไมต้องปรับสมดุลระบบประสาทรับความรู้สึก การใช้ชีวิตประจำวันต้องอาศัยการประสานกันของระบบ ประสาทรับความรู้สึกทั้ง 7 ด้านในการทำกิจกรรม หากการรับรู้ไม่สมดุลก็จะมีผลต่อพฤติกรรมที่แสดงออกมา เช่น การรับประทานอาหาร เราต้องใช้การสัมผัสเพื่อทราบ ลักษณะของอาหาร ใช้ประสาทการรับรู้ผ่านเอ็น ข้อต่อ และกล้ามเนื้อในการนำอาหารเข้าปาก การมองเห็น การดมกลิ่นและการรับรสเพื่อแยกแยะประเภทของอาหาร และการทรงตัวเพื่อนั่งรับประทานอาหารได้ตลอดมื้อ ถ้ามีการรับความรู้สึกด้านกลิ่นหรือรสชาติอาหารที่ไวเกินไป ก็จะทำให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด หรือถ้ามีการ รับความรู้สึกที่ช้าเกินไป ก็จะกระตุ้นตัวเองด้วยการกัด แทะ สิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร เช่น ของเล่น ดินสอ เป็นต้น

ประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้านนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีของลูก  DooDiDo ดังนั้นพ่อแม่ต้องคอยฝึกฝนประสาทสัมผัสทุกด้านให้กับลูก โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่พวกเขาชื่นชอบให้เกิดการกระตุ้นสมอง เพื่อพัฒนาความสามารถที่สูงขึ้นและมีการแสดงออกของพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม นอกจากจะมีสุขภาพกายที่ดีแล้ว ยังมีสุขภาพใจที่ดี ฉลาด สมวัยอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.trueplookpanya.com, www.parentsone.com, www.manarom.com