วิธีทดสอบครีมยังไง ให้รู้ว่าใช้แล้วไม่มีเกิดการแพ้อย่างแน่นอน!!

มาเช็คอาการแพ้ครีมเบื้องต้น สำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย

อีกหนึ่งปัญหาที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย นั้นก็คือ อาการแพ้ครีม ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องการใช้ครีมอย่างหนึ่งเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย นั้นคงหนีไม่พ้นกับปัญหานี้อย่างแน่ๆ เมื่อซื้อครีมตัวใหม่มาก็จะแอบกังวลใจว่าเราจะแพ้ครีมตัวนี้ไหมนะ กลัวใช้ไปแล้วเกิดอาการแพ้จะเช็คยังไงก่อนดี วันนี้เรามีวิธีที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย ได้ลองทำตามเพื่อเช็คอาการแพ้ครีมเบื้องต้นมาฝากกันค่ะ

เป็นปัญหาเรื่องการใช้ครีมอย่างหนึ่งเลยนะคะ เมื่อซื้อครีมตัวใหม่มาก็จะแอบกังวลใจว่า เอ๋? เราจะแพ้ครีมตัวนี้ไหมนะ กลัวใช้ไปแล้วเกิดอาการแพ้จะเช็กยังไงก่อนดี? ตามมาเลยค่าสาวๆ เรามีวิธีเช็กอาการแพ้ครีมเบื้องต้นมาฝากกันค่ะ ใครที่ซื้อครีมตัวใหม่มา จะได้เช็กให้ชัวร์ก่อนว่าใช้ได้กันค่า หากอยากให้ชัวร์จริง ว่าเราสามารถใช้ครีมที่ซื้อมานี้ได้จริง ก็ต้องเพิ่มเวลาในการทดสอบเพิ่มขึ้นอีกสักพักค่ะ โดยจะทาเฉพาะจุดที่ผิวหนังบางเป็นประจำ สามารถล้างออกได้เมื่ออาบน้ำล้างหน้าแต่ต้องทาเป็นประจำ ดูตรงบริเวณผิวที่ทาหากเมื่อครบเดือนแล้วไม่มีอาการระคายเคือง เราก็สามารถใช้ครีมที่ซื้อมาได้ไม่แพ้ค่ะ

1. อ่านฉลากข้างขวด หลีกเลี่ยงสารต้องห้าม

ถ้าหากการทำความเข้าใจส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในครีมบำรุงผิวเป็นเรื่องยาก แนะนำว่าให้เลือกรู้เฉพาะแค่สารต้องห้าม ที่ทำให้ผิวแพ้ระคายเคืองก็ได้ค่ะ อย่างเช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน SLS SLES เป็นต้น

2. ทดสอบกับผิวหนังบางที่ก่อน

บางทีต่อให้ไม่มีสารระคายเคือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่แพ้ เพื่อความแน่ใจ เลยต้องทดสอบครีมด้วยวิธีนี้อีกทีหนึ่ง และนี่คือวิธียอดนิยมที่ใครหลายคนใช้อย่างแพร่หลาย นั่นก็คือการทดลองทาครีมที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งก่อน วิธีการง่ายๆ ก็คือ

• ให้ทาครีมที่เราเพิ่งซื้อมาบนพื้นที่เล็กๆ ของผิวหนังเรา อาจจะเป็นท้องแขน คอ ข้างกรามก็ได้ ทาให้เนื้อครีมเข้าสู่ผิวหนัง
• ห้ามล้างออกจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง หรืออาจรอนานถึง 48 ชั่วโมงเลยก็ได้ และรอดูผลที่เกิดขึ้นกับผิว
• หากครบ 24 หรือ 48 ชั่วโมงแล้ว ผิวยังไม่มีความผิดปกติอะไร แสดงว่าเราสามารถใช้ครีมนั้นได้ แต่ถ้ารู้สึกคัน มีผื่นแดงขึ้น หรือบวมขึ้น แสดงว่าเราแพ้ครีมตัวนั้นแล้วล่ะ อาจต้องหยุดใช้ค่ะ

3. ทดสอบด้วย Close Patch Test 

Close Patch Test คืออะไร? Close Patch Test คือวิธีการทดสอบสารระคายเคืองบนแผ่นพลาสเตอร์ โดยผ่านผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนังโดยตรง ผลที่ได้ค่อนข้างมีความแม่นยำค่ะ วิธีการก็คือ คุณหมอจะเอาสารหรือครีมที่เราสงสัยว่า จะระคายเคืองหรือเปล่า ไปผสมลงในแผ่นพลาสเตอร์ที่ใช้ทดสอบ แล้วเอามาแปะที่แผ่นหลังเรา แล้วทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน แล้วกลับมาให้หมอตรวจอีกครั้งค่ะ ถ้าใครอยากได้ความชัวร์ วิธีการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี และได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย

4. ลองใช้ครีมที่เพิ่งซื้อมาแค่ตัวเดียวไปสักระยะก่อน

เพื่อความชัวร์ การทดสอบแค่ 24 ชั่วโมง อาจยังไม่ทำให้เราไว้วางใจได้ ว่าเราจะไม่แพ้จริงๆ เพราะบางทีใช้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-3 อาทิตย์อาการแพ้ค่อยเกิดขึ้นก็มี ดังนั้น เราควรจะลองใช้ครีมที่ซื้อมาใหม่สักระยะหนึ่งก่อน และในช่วงที่ทดสอบอยู่ แนะนำว่าควรใช้ครีมที่เพิ่งซื้อมาใหม่แค่ตัวเดียวไปก่อน เพราะถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา เราจะได้รู้ว่า เป็นเพราะตัวนี้จริงๆ ไม่ได้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นครีมตัวอื่น

5. อย่าทดลองครีมตัวใหม่ ก่อนใกล้งานวันสำคัญ

เรื่องที่ว่าเราจะแพ้หรือไม่แพ้ครีม เป็นอะไรที่ดูยากอยู่เช่นกัน เพื่อให้รู้ว่าแพ้จริงๆ หรือไม่ บางครั้งผิวเราอาจต้องแสดงอาการออกมาก่อนถึงจะรู้ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องเตรียมผิวส่วนหนึ่งไว้สำหรับอาการแพ้ระคายเคืองล่ะ และถ้าโชคไม่ดี ครีมตัวใหม่ที่เราซื้อมา มันดันไม่ถูกกับผิวเรา แล้วเรายังดันไปทดสอบในช่วงใกล้ๆ วันสำคัญ อย่างงานรับปริญญา งานแต่งงาน หรืองานสังสรรค์สำคัญๆ หน้าได้พังไม่พร้อมไปงานแน่ๆ ค่ะ ถ้าให้ดี พยายามอย่าทดสอบครีมใหม่ในช่วงใกล้งานสำคัญจะดีกว่า ใครที่กำลังกังวลกับการเปลี่ยนไปใช้ครีมตัวใหม่ คราวนี้ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง สามารถใช้ครีมอย่างสบายใจได้แล้ว และเพื่อไม่ให้ผิวพังจากครีม ลองนำเทคนิคนี้ไปทดสอบใช้กันได้ค่ะ ถ้าพบอาการผิดปกติอะไร ทางที่ดีที่สุดควรหยุดใช้ครีมตัวนั้นทันที และรีบฟื้นฟูสภาพผิวโดยด่วน

รู้แบบนี้แล้วก็ลองเก็บวิธีเหล่านี้เอาไว้ใช้ทดสอบก่อนทาครีมที่ซื้อมาใหม่ตามที่ DooDiDo แนะนำดูนะคะ เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่เกิดจากการทาครีมค่ะ  แต่ถ้าสาวๆ คนไหนอยากให้ชัวร์กว่านี้ ก็สามารถเข้าทดสอบการแพ้ครีมกับแพทย์ ซึ่งวิธีนี้เหมาะที่สุดกับสาวๆ ที่มีผิวอ่อนแอแพ้ง่าย เพื่อให้ได้รู้ว่าตัวเองแพ้สารอะไรและจะได้หลีกเลี่ยงให้ถูกค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.gangbeauty.com, www.idskinexpert.com