วิธีการเตรียมตัวง่ายๆ ก่อนพาลูกไปพบหมอฟัน พ่อแม่ห้ามพลาด!
ในการพาลูกไปหาหมอฟันควรเลือกช่วงเวลาที่ลูกอารมณ์ดี ไม่ง่วง ไม่หิว ไม่ป่วย
เด็ก ๆ กับหมอฟันเป็นสิ่งที่มักจะไม่ค่อนลงรอยกันสักเท่าไหร่ เพราะเด็ก ๆ มักจะกลัวการไปพบหมอฟัน กลัวว่าจะต้องเจ็บ เลยทำให้เด็กส่วนมากกลัวการทำฟัน เลยทำให้คุรพ่อคุณแม่หลายบ้านต้องกังวลอยู่ไม่น้อย เพราะหากลูกไม่ได้พบหมอฟันตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ดูลแลฟันตั้งแต่ซี่แรก จะทำให้สุขภาพช่องปากและฟันของลูกมีปัญหาตามมาได้ เรามาดูวิธีการเตรียมตัวง่าย ๆ ก่อนพาลูกไปพบหมอฟัน ที่พ่อแม่ห้ามพลาดกันค่ะ
ในการ เตรียมตัวลูกมาพบหมอฟันเด็ก โดยเฉพาะในการพบหมอฟันเด็กครั้งแรก เพื่อให้การพบหมอฟันเด็กของลูกเป็นไปด้วยความราบรื่น คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองของเด็ก ๆ สามารถช่วยเตรียมตัวลูกน้อย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมาพบกับคุณหมอฟันเด็ก เพื่อให้เด็ก ๆ มีประสบการณ์ที่ดี สำหรับการทำฟันเด็กหรือทันตกรรมเด็ก โดยเฉพาะในการทำฟันครั้งแรกนะคะ
ทำไมถึงต้องตรวจฟันเด็กสม่ำเสมอ
1. ตรวจฟันโดยทั่วไป – มีฟันผุเริ่มแรกรึเปล่า ฟันสะอาดดีมั้ย ประเมินเรื่องลำดับการขึ้นของฟัน การสบฟัน ฯลฯ
2. พูดคุยเรื่องการดูแลฟันน้ำนมลูกอย่างถูกต้อง – แต่ละบ้านมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกัน เรามาคุยกันเพื่อปรับให้เหมาะสมกับแต่ละครอบครัว
3. แนะนำวิธีการแปรงฟันลูกอย่างถูกวิธี – ถ้าหมอฟันได้เห็นผู้ปกครองแปรงฟันลูกจริง จะแนะนำได้ถูกต้องที่สุด ทั้งการจัดท่า การวางแปรง น้ำหนักที่แปรง และเสริมสร้างความมั่นใจ
4. เคลือบฟลูออไรด์ในเด็กที่มีความเสี่ยงฟันผุ – พิจารณาเป็นรายบุคคล
5. สร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ เครื่องมือ และตัวหมอฟัน
6. สร้างประสบการณ์ที่ดีในการพบหมอฟันครั้งแรกของลูก – การพาลูกมาพบหมอฟันตั้งแต่ซี่แรก หัตถการง่าย รวดเร็ว ไม่เจ็บ เด็กหลายคนที่มาพบหมอฟันครั้งแรกเมื่ออายุ 3-4 ขวบ เริ่มมีฟันผุหลายซี่แล้ว
7. พบหมอฟันตรวจฟันเรื่อย ๆ – เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากโดยรวม ทั้งเรื่องความสะอาด ฟันผุ การสบฟัน พัฒนาการต่าง ๆ ของช่องปากและฟัน ตั้งแต่ชุดฟันน้ำนมจนถึงฟันแท้ หากหมอฟันพบความผิดปกติอะไรจะได้รีบแก้ไข หรือส่งต่อไปยังหมอฟันเฉพาะทางด้านอื่น ๆ ในเวลาที่เหมาะสม
พบหมอฟันตั้งแต่ซี่แรก เตรียมตัวง่าย ๆ ดังนี้
1. เลือกช่วงเวลาที่ลูกอารมณ์ดี ไม่ง่วง ไม่หิว ไม่ป่วย
2. พาคนหลักที่แปรงฟันลูกไปด้วย (พ่อแม่ ปู่ย่าตาย หรือพี่เลี้ยง)
3. เตรียมยาสีฟันและแปรงสีฟันที่ใช้ให้ลูกเป็นประจำเพื่อขอคำแนะนำกับหมอฟันว่าคุณพ่อคุณแม่เลือกใช้ได้ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
4. ตระเตรียมคำถามที่สงสัยเพื่อสอบถามหมอฟันได้เสมอ
ทั้งนี้การตรวจฟันครั้งแรกของเด็กวัยนี้ซึ่งยังเป็นเด็กเล็กจะใช้เวลาไม่นาน ไม่เจ็บไม่ปวด แต่ด้วยวัยของเด็ก จะร้องไห้ตอนตรวจฟันเป็นเรื่องปกติ คุณแม่คุณแม่ทำใจให้สบาย ไม่เครียด ไม่กังวล และทุกอย่างจะผ่านไปได้อย่างรวดเร็วค่ะ แต่ถ้าหากลูกโตพอเข้าใจเหตุผล (ประมาณวัยอนุบาล)
วิธีการเตรียมตัวง่าย ๆ ก่อนไปพบหมอฟัน
1. อ่านหนังสือนิทานเรื่องการไปหาหมอฟัน หรือเปิดคลิปสั้น ๆ เรื่องการไปพบหมอฟัน เพื่อให้ลูกเห็นภาพการไปหาหมอฟันมากขึ้น
2. อธิบายเรื่องวัสดุอุปกรณ์ของหมอฟันต่าง ๆ วิธีการปฏิบัติตัวต่าง ๆ เช่น จะมีเตียงที่ขยับได้ ลอยได้ คุณหมอจะมีกระจกส่องฟันในปาก มีไฟฉายอันใหญ่ส่งฟันหนู หนูต้องอ้าปากกว้าง ๆ วางมือไว้ที่พุง อยู่ตัวนิ่ง ๆ หมอจะช่วยนับฟันให้หนู ช่วยแปรงฟันให้สะอาด
3. ซื้ออุปกรณ์ง่าย ๆ เช่น กระจกส่องปาก มาซ้อมตรวจฟันที่บ้าน ซ้อมอ้าปากกว้าง ๆ ซ้อมนอนนิ่ง ๆ อาจใช้ไฟฉายมาช่วยส่องปากประกอบไปด้วยค่ะ
4. ถ้าทราบสถานที่ที่จะพาลูกไปตรวจฟันแน่นอน อาจพาลูกขับรถไปดูสถานที่ก่อนวันจริง ให้ลูกเห็นตัวตึก ตัวอาคาร เพื่อความคุ้นชิน (อาจแค่ขับรถผ่านและชี้ชวนให้ลูกเห็นว่า เราจะมาหาหมอฟันที่นี่กันวันพรุ่งนี้นะ)
5. พูดถึงหมอฟันในแง่ดี เช่น หมอฟันจะช่วยตรวจฟันให้หนู ดูแลให้ฟันสะอาด ถ้าตลอดมา คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยขู่ให้ลูกกลัวหมอฟัน พูดถึงหมอฟันในทางที่ดีเสมอ การพบหมอฟันครั้งแรกจะไม่ยากค่ะ
เคล็ดลับในการพาลูกไปพบหมอฟันที่ DooDiDo นำมาฝากวันนี้ อย่าลืมนำไปลองใช้กันดูนะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวการพบหมอฟันให้กับลูก และควรพาลุกไปพบหมอฟันตั้งแต่ฟันน้ำนมจะเริ่มขึ้น เพื่อให้ลุกคุ้นเคยกับการไปพอหมอฟัน ไม่เกิดอาการกลัว เพื่อทำให้สุขภาพช่องปากและสุขภาพที่ดีของฟันลูกน้อยกันนะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thaipbskids.com, https://smiledc-th.com
