วิธีการลดเอฟเฟคจากช่วงวันนั้นของเดือนด้วยอาหาร!!

WM

อาหารหรือตัวช่วยดีๆ ที่จะมาบรรเทาเอฟเฟคจากการมีประจำเดือน

เราเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆ คนส่วนมากตอนเป็นประจำเดือนอยู่นั้น ถือได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาเหมือนอยู่ในคุกสำหรับผู้หญิง ทั้งอึดอัดจากผ้าอนามัยแถมยังมีในเรื่องของเอฟเฟคทางด้านร่างกายและอารมณ์ของช่วงเวลาที่มีประจำเดือนอีกด้วย และนั่นก็เป็นปัญหาที่เรียกได้ว่าถ้าหากสาวๆไม่ได้มีภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติแล้วล่ะก็ อย่างไรก็ต้องได้เจอกันทุกๆเดือนเลยล่ะค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม คงจะดีกว่ามั้ยล่ะคะถ้าหากว่าจะมี อาหารหรือตัวช่วยดีๆที่จะมาบรรเทาเอฟเฟคจากการมีประจำเดือนเหล่านี้?

เมื่อสาว ๆ มีประจำเดือนไม่ใช่แค่ต้องเปลี่ยนมาออกกำลังกายแบบเบา ๆ เท่านั้น แต่บางครั้งก็ทำให้เราปวดท้องประจำเดือน อารมณ์เหวี่ยงขึ้น ๆ ลง ๆ บางคนบอกว่าแค่ได้เค้กช็อกโกแลตไปสักชิ้นอาการเหล่านั้นก็จะหายไป หายจริงค่ะ แต่หายแค่แป๊ปเดียวนะ เดี๋ยวสักพักความรู้สึกปวด หงุดหงิดต่าง ๆ ก็กลับมาใหม่อยู่ดี เพิ่มเติมคือน้ำหนัก ลองหันมาทานอาหาร 5 อย่างนี้ ที่เรากำลังจะแนะนำกันดีกว่าค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@kadh
  1. ดื่มน้ำอุ่น ๆ

ช่วงนี้สาว ๆ อาจจะบวมน้ำนิดหน่อยทำไงดีนะ? บางคนเข้าใจผิดว่า ยิ่งดื่มน้ำยิ่งบวมน้ำ จริง ๆ แล้วการดื่มน้ำนั้นป้องกันไม่ให้เกิดอาการบวมน้ำได้ อีกทั้งการดื่มน้ำอุ่น ๆ จะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน หากชอบน้ำที่มีรสชาติสักหน่อย ให้ลองเป็นชาเขียวหรือชาคาโมมายล์อุ่น ๆ แทน เพียงเท่านี้ สาว ๆ ก็จะรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน

  1. ดาร์คช็อกโกแลต

จริงที่ว่าของหวานช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าเวลาน้ำตาลในเลือดต่ำ การได้ช็อกโกแลตหวาน ๆ สักบาร์คงช่วยให้สาว ๆ อารมณ์ดีขึ้นได้ โดยจะไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารแห่งความสุข แต่หากมีอาการปวดท้องประจำเดือนลองเปลี่ยนเป็นดาร์คช็อกโกแลตสักชิ้นจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและแมกนีเซียม

  1. ไขมันชนิดดี

จัดการกับอาการปวดท้องประจำเดือน สาว ๆ ต้องทำให้ร่างกายผ่อนคลายและกล้ามเนื้อตึงน้อยที่สุด การรับประทานไขมันชนิดดีนั้นช่วยให้กล้ามเนื้อผ่านคลายแถมดีต่อหัวใจด้วย ปลาแซลมอนและปลาทูน่าอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 หากสาว ๆ กำลังมองหาขนมทานเล่น ลองเป็นเมล็ดวอลนัทและเมล็ดเจียเพราะมีไขมันชนิดดีอยู่เช่นกัน

  1. โยเกิร์ต

เป็นที่รู้กันว่าโยเกิร์ตมีแบคทีเรียชนิดดีผสมอยู่ ซึ่งดีต่อระบบการขับถ่าย และสามารถลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ หากสาว ๆ กำลังมองหาขนมทานเล่นในช่วงมีประจำเดือน ทำไมไม่ลองเป็นกรีกโยเกิร์ตโรยหน้าด้วยผลเบอร์รี่ สรรสร้างรสชาติหวานอมเปรี้ยว อร่อยจนลืมปวดท้องกันเลยจ้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/lpegasu-6640154/
  1. เนื้อแดง

ช่วงที่เสียเลือดจากประจำเดือน ความเข้มข้นของธาตุเหล็กในเลือดจะลดน้อยลง อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและวิงเวียนศีรษะ สาว ๆ ควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีสีแดงเพื่อเพิ่มธาตุเหล็กในระดับเลือดให้มากขึ้น มื้อเย็นนี้ทำไมไม่ลองเปลี่ยนจากข้าวธรรมดาเป็นสเต็กสักชิ้นดูล่ะ หรือหากเป็นสาวกมัง (สาวิรัติ) ง่าย ๆ ก็เลือกทานผักที่มีธาตุเหล็กสูงอย่าง ถั่วเลนทิล, ถั่วต่าง ๆ, ผักโขม, ผักเคล และบรอกโคลีแทน

  1. กล้วยหอม

กล้วยหอมเป็นหนึ่งในผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 และโพแทสเซียม ที่ช่วยลดอาการปวดเกร็งท้องน้อยและหน้าอก และลดอาการบวมน้ำ นอกจากลดอาการปวดแล้วยังช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนซึ่งเป็นการป้องกันอาการปวดประจำเดือนได้ด้วยค่ะ

  1. สัปปะรด

สับปะรดเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับคนมีประจำเดือนอย่างเราเป็นที่สุด เพราะมีทั้งเอนไซม์โบรมีเลนช่วยผลัดเยื่อบุโพรงมดลูกให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และมีแมงกานีส ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยให้ลดอาการปวดเกร็งได้นั่นเอง นอกจากนี้รสชาติเปรี้ยวอมหวานยังช่วยให้อารมณ์ดีอีกด้วย ยิ่งแช่เย็นยิ่งฟิน!

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/bigfatcat-3040355/
  1. น้ำเต้าหู้

ถือเป็นเครื่องดื่มยามเช้าของคนรักสุขภาพที่ดีต่อร่างกายมาก ๆ เลยค่ะ เพราะมีไฟโตเอสโตรเจนเลียนแบบฮอร์โมนเพศหญิงชื่อไอโซฟลาโวน ที่ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ และช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน นอกจากจะดีต่อสาว ๆ ในช่วงมีประจำเดือนแล้ว ยังเป็นอาหารบำรุงร่างกายชั้นเยี่ยมสำหรับสาว ๆ วัยหมดประจำเดือนด้วยนะคะ แถมวิธีทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าใครอยากลองทำดูก็สามารถดูวิธีทำ น้ำเต้าหู้เลย ได้เลย

เป็นอย่างไรล่ะคะ สำหรับวิธีการ ลดเอฟเฟคจากช่วงวันนั้นของเดือนด้วยอาหาร ซึ่งก็เชื่อ DooDiDo ได้เลยว่าถ้าหากสาวๆ ได้ทานอาหารพวกนี้ตอนช่วงที่มีประจำเดือนแล้วล่ะก็ ก็จะช่วยบรรเทาเอฟเฟคของประจำเดือนได้ แถมยังได้สารอาหารดีๆมาทดแทนไปอีกด้วย แน่นอนค่ะว่าอาหารเหล่านี้นั้นก็เป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่แล้ว ต่อให้สาวๆไม่ได้มีวันนั้นของเดือนอยู่ หรือไม่ได้เป็นอะไรเลยก็ยังสามารถเลือกทานอาหารเหล่านี้ได้ในชีวิตระจำวันเช่นกันค่ะ เพราะยังไงก็ได้ประโยชน์ที่ร่างกายต้องการเหมือนกัน

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.wongnai.com , www.watsons.co.th