วัคซีนมาตรฐาน 2 ชนิดที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนต้องฉีด!!

WM

หญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับวัคซีนที่จำเป็นในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถให้ได้อย่างปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์

ในช่วงเวลาที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น ไม่เพียงต้องให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่แล้ว ยังต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของทารกในครรภ์อีกด้วยนะคะ  ซึ่งวัคซีนจะเป็นเหมือนการสร้างภูมิคุ้มกัน และความแข็งแรงให้กับคุณแม่และลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และสำหรับวัคซีนสำคัญที่คุณแม่ตังครรภ์ควรฉีดเพื่อความปลอดภัยจากโรคที่มีความเสี่ยงจะเกิดขึ้นได้ มีดังนี้ค่ะ

การตั้งครรภ์เป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่ส่งผลให้ระบบร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน การตั้งครรภ์จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่ทำงานแย่ลงหรืออีกนัยหนึ่งคือ การตั้งครรภ์ทำให้คุณแม่อ่อนแอลงนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ในทางการแพทย์จะจัดหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและแนะนำอยู่เสมอว่าหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชน

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/@stevencornfield

ขณะที่โรคติดต่อบางชนิดก็พบได้ง่ายและบ่อยขึ้นในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งหากหญิงตั้งครรภ์มีการติดเชื้อเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อตนเองแล้ว การติดเชื้อเหล่านี้ยังสามารถแพร่กระจายไปยังทารกในครรภ์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แพทย์มักจะแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับวัคซีนที่จำเป็นในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถให้ได้อย่างปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ วัคซีนเหล่านี้มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ได้แก่

1. วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตจากปอดอักเสบมากกว่าคนปกติทั่วไปที่ติดเชื้อ ดังนั้นวัคซีนชนิดนี้จึงมีความจำเป็นและสำคัญมาก โดยแนะนำให้ฉีดทุกครั้งที่มีการตั้งครรภ์ เนื่องจากสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี โดยเริ่มฉีดได้ตลอดการตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่หมอมักจะเริ่มให้เมื่อผ่านพ้นไตรมาสแรกไปแล้ว

2. วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
ประเทศไทยยังคงเป็นถิ่นระบาดของโรคบาดทะยัก ซึ่งหากเกิดการติดเชื้อจะเป็นอันตรายต่อทั้งมารดาและทารกในครรภ์ถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยมาตรฐานแล้ว การฉีดวัคซีนบาดทะยักจะฉีดรวม 3 เข็ม ได้แก่ ฉีดเข็มแรกเมื่อผ่านพ้นไตรมาสแรกไปแล้ว และฉีดเข็มที่ 2 และ 3 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 สัปดาห์ และ 6 เดือนตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในระยะที่ผ่านมาพบมีการระบาดของโรคคอตีบและไอกรนในหญิงตั้งครรภ์และทารกแรกเกิดมากขึ้น ด้วยเหตุนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/@cdc

สถานพยาบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันจึงไม่นิยมฉีดวัคซีนบาดทะยักเข็มเดี่ยวแต่เพียงอย่างเดียว แต่มักจะฉีดวัคซีนรวมที่ครอบคลุมโรคคอตีบหรือไอกรนร่วมด้วยเพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว และการได้รับวัคซีนรวมนี้ก็มีความปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด

วัคซีนทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นวัคซีนมาตรฐานที่ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ทุกรายที่ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ยังมีวัคซีนอีกชนิดหนึ่งที่จำเป็นและสามารถฉีดได้ในขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่เป็นแล้วรักษาไม่หาย ผู้ป่วยทุกรายจะเสียชีวิตในที่สุด การฉีดวัคซีนจึงได้ประโยชน์มากกว่าโทษ ดังนั้นหากคุณแม่ท่านใดถูกสุนัขหรือแมว รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ กัด เลีย หรือ ข่วน หมอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบตามกำหนด

วัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับการฉีดตามที่ DooDiDo ได้กล่าวมานี้ เป็นวัคซีนที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีภูมิคุ้มกันและแข็งแรงมากขึ้นงส่งผลให้ทารกน้อยปลอดภัยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนกระทั่งคลอดออกมาอีกด้วยค่ะ แต่ก่อนที่จะทำการฉีดวัคซีนคุณแม่ต้องปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับตัวคุณแม่และลูกในครรภ์ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://babylove.co.th