รู้หรือไม่ 6 พฤติกรรมของพ่อแม่ที่เข้าข่ายเป็น “พ่อแม่รังแกฉัน”

WM

การทำร้ายลูกตัวเองโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว อาจเกิดมาจากความรักและความหวังดี

พ่อแม่แต่ละบ้านมีการเลี้ยงดูลูกที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของตัวเอง แต่การเลี้ยงดูและปลูกฝังลูกในวันนี้จะส่งผลให้เขาเป็นคนที่เติบโตไปข้างหน้า เขาจะโตมาเป็นแบบใดขึ้นอยู่ที่การเลี้ยงดูเป็นส่วนใหญ่ หากพ่อแม่เลี้ยงดูในแบบที่ผิด สอนให้ลูกเอาแต่ใจ ตามใจลูกมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อนิสัยใจคอของลูกในอนาคตได้ ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่รังแกฉัน วันนี้เรามี 6 พฤติกรรมของพ่อแม่ที่เข้าข่ายเป็น “พ่อแม่รังแกฉัน” จะได้ระวังไม่ให้เกิดพฤติกรรม เหล่านี้โดยไม่รู้ตัว

การทำร้ายลูกตัวเองโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว อาจเกิดมาจากความรักและความหวังดีที่อยากจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางครั้งก็หลงลืมการสอนด้วยเหตุผลและความถูกต้องไปบ้าง จนทำให้เกิดเป็นการสปอยล์ลูกในทางที่ผิด ฉะนั้น การเลี้ยงลูกในแบบที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุด อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อลูกเสมอไป มาเช็กแต่ละพฤติกรรมกันดีกว่าว่าคุณกำลังเข้าข่าย พ่อแม่รังแกฉัน อยู่หรือเปล่า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@ilumire

1.พ่อแม่รังแกฉันในแบบ “รักและปกป้องลูกมากเกินไป”
การเลี้ยงดูลูกเหมือน ไข่ในหิน ไม่ยอมให้ลูกเจอกับโลกภายนอก ไม่ยอมให้ห่างจากสายตาเพราะกลัวลูกจะเป็นอันตราย ลูกจึงไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง พฤติกรรมของพ่อแม่แบบนี้ส่งผลให้ลูกมีทักษะในการช่วยเหลือตัวเองช้า การพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในตัวเองนั้นจึงมีน้อยมากเพราะไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง

2.พ่อแม่รังแกฉันด้วยการ “ตามใจมากเกินไป”
พ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกแบบตามใจทุกอย่าง ลูกต้องการสิ่งใดขอให้บอก พ่อแม่จะคอยหามาให้ โดยไม่เคยสอนลูกด้วยเหตุผลว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก และปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง ส่งผลให้เมื่อลูกได้ออกไปเจอสังคมภายนอกจะทำให้เขาอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ยาก การที่ลูกถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ลูกไม่สามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้เลย แถมยังมีความอดทนน้อยเพราะสิ่งที่อยากได้นั้นได้มาแบบง่าย ๆ

3.พ่อแม่รังแกฉัน บีบบังคับ “เข้มงวด สร้างกฎเกณฑ์ให้ลูกอยู่ในกรอบ”
การที่ลูกอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่ตั้งไว้ พ่อแม่อาจคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูก แต่มีงานศึกษาหนึ่งพบว่า การเลี้ยงดูเด็กแบบเข้มงวดเกินไปจะส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของเด็ก โดยเด็กที่มาจากครอบครัวเข้มงวดจะมีการปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ยากกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวสบาย ๆ และแนวโน้มที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งคือ การที่พ่อแม่ตั้งกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดนั้น แทนที่เด็กจะปรับตัวให้เข้าตามกฎแต่กลับกลายเป็นเด็กเหล่านั้นโตไปเป็นพวกขี้โกงและขี้โกหก จากการหลีกหนีการทำโทษต่าง ๆ อีกด้วย

4.“ชอบเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น” พ่อแม่รังแกฉันทางอ้อม
การเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องในครอบครัว ญาติ หรือคนข้างบ้าน ก็เป็นการบั่นทอนจิตใจของลูกทางอ้อม เช่น พูดว่า “ดูน้องสิ! ตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่ 1 ของห้อง ทำไมถึงทำไม่ได้แบบน้องบ้าง” หากพ่อแม่ยังคอยพูดกับลูกแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ จะส่งผลให้ลูกสร้างปมด้อยให้ตัวเองแล้วเก็บอยู่ในใจ จนอาจตั้งคำถามกับตัวเองได้ว่าทำไมพ่อแม่ถึงรักคนอื่นมากกว่า สามารถเรียนรู้วิธี เลี้ยงลูกหลายคนอย่างไร ไม่ให้เขารู้สึกว่า ‘พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน’

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@emily_wade

5.“เลี้ยงลูกแบบปล่อยปละละเลย” พ่อแม่รังแกฉันด้วยการไม่สนใจ
สำหรับบางครอบครัวที่พ่อแม่เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาอยู่กับลูก ครอบครัวแบบนี้จะส่งผลให้ลูกขาดความอบอุ่นอย่างมาก ทำให้เด็กอยากไปหาความสุขนอกบ้านอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นติดเพื่อนจนไม่เชื่อฟังพ่อแม่และจะไม่เห็นพ่อแม่อยู่ในสายตา หรือในบางกรณีอาจส่งผลให้ลูกมีพฤติกรรมไม่อยากเรียนหนังสือ ไม่มีระเบียบวินัย ขี้โมโห โกหก ขโมยของ ฯลฯ สาเหตุก็มาจาก ความเหงาที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ และพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป้นตัวกระตุ้นทำให้พ่อแม่หันกลับมาสนใจเด็กอีกครั้ง แต่สุดท้ายความสนใจก็มาในเชิงลบอย่างการดุ ถูกตำหนิ

6.พ่อแม่รังแกฉันเพราะ “เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี”
พ่อแม่ที่แสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ให้ลูกเห็น เช่น การพูดจาหยาบคาย ทำร้ายร่างกาย และอีกหลายอย่าง เมื่อลูกเห็นสิ่งเหล่านี้เขาจะซึมซับเข้าไปในหัวจนกลายเป็นพฤติกรรมของตัวเองในอนาคต เพราะเมื่อเด็กเห็นแต่ไม่ถูกสอนด้วยเหตุผลว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง เด็กจะเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่คนทั่วไปทำเป็นปกติและกลายเป็นนิสัยที่แก้ยาก

การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ  พ่อแม่ต้องให้ความรัก DooDiDo ความเอาใจใส่ ดูแล และปลูกฝังลูกไปในทางที่ดี ไม่ควรตามใจจนเสียนิสัย ให้ลูกรู้จักการรอย การเข้าสังคม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ อย่ารักลูกจนเกินไปจนจนไม่ให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเองเลย อย่าปล่อยให้ความรักเป็นสิ่งที่ทำร้ายลูกนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://cottonbaby.co/relationship