รู้หรือไม่!! น้ำหมึกของใกล้ตัวอันตรายที่คุณอาจไม่เคยระวัง

“น้ำหมึก” ของใกล้ตัวที่แสนจะธรรมดา แต่อาจมีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายอยู่

ทุกคนน่าจะเคยได้ยินที่มีคนบอกว่า อย่าเอาปากกามาเขียนบนมือตัวเองกันใช่มั้ยคะ ซึ่งเจตนาของผู้ที่พูดต่างก็เป็นเจตนาที่ดีค่ะ อาจจะกลัวว่าน้ำหมึกเนี่ยจะส่งผลอะไรต่อสุขภาพเราได้ แต่ในเรื่องนี้ก็มีข้อเท็จจริงที่น่ารู้ที่ไม่ได้พูดถึงแค่น้ำหมึกทั่วไป อย่างหมึกปากกาเน้นข้อความ ปากกาหมึกซึม แต่ว่ารวมไปถึงหมึกที่ใช้ในการสักด้วยค่ะ

ปากกาเป็นสิ่งของที่หาซื้อได้ทั่วไปหรือก็คือต้องมีกันทุกบ้านกันอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือคำถามที่ว่าในหมึกปากกานั้นมีสารเคมีอะไรที่สามารถทำร้ายเราได้หรือเปล่า นั่นจึงเป็นข้อสงสัยที่เกิดขึ้นอยู่ค่ะ วันนี้เราเลยจะมานำเสนอบทความ “น้ำหมึก อันตรายใกล้ตัว ที่คุณอาจไม่เคยระวัง” เมื่อหลังจากอ่านจบแล้วรับรองได้เลยว่าบทความนี้จะตอบข้อสงสัยของทุกคนได้อย่างแน่นอน

ผลกระทบของน้ำหมึกที่ส่งผลต่อผิวหนัง

น้ำหมึก เป็นพิษไม่ได้เกิดจากการใช้น้ำหมึกวาดภาพลงบนผิวหนังของคุณ น้ำหมึก อาจเปื้อนผิวหนังชั่วคราว แต่จะไม่เป็นพิษต่อผิวหนังของคุณ

ผลกระทบของน้ำหมึกที่ส่งผลต่อตา

การระคายเคืองตาจาก น้ำหมึก มักเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากกว่าการระคายเคืองที่ผิวหนัง หากคุณรู้สึกว่ามีน้ำหมึกกระเด็นเข้าตา ให้รีบล้างตาที่ระคายเคืองด้วยน้ำเย็น จนกว่าอาการเคืองตาจะหายไป เมื่อน้ำหมึกกระเด็นเข้าตา อาจทำให้ตาขาวของคุณเปื้อนน้ำหมึกชั่วคราว แต่น้ำหมึกในตาของคุณ จะไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถาวร หรือในระยะยาว แต่ถ้าล้างตาแล้วยังคงมีอาการระคายเคืองอยู่ หรือมีอาการตราพร่ามัว คุณควรต้องไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด

น้ำหมึกกับรอยสัก

ากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาในปี 2015 พบว่า 29 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกัน มีรอยสักอย่างน้อย 1 ลาย และในจำนวนนั้นมี 69 เปอร์เซ็นต์ที่มีรอยสัก 2 ลายขึ้นไป จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration หรือ FDA) ระบุว่า สิ่งที่อาจทำให้เกิด อาการแพ้น้ำหมึก ที่ใช้ในการสัก เมื่อคุณต้องการจะสัก ก็คือ การปฏิบัติที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อุปกรณ์ที่ยังไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ น้ำหมึก ที่ใช้ในการสักหรือสีย้อมที่อาจจะมีการปนเปื้อนจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้เกิด อาการแพ้น้ำหมึก และการติดเชื้อ

ทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาพิจารณาว่า น้ำหมึกที่ใช้ในการสัก ถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่มีเม็ดสี แต่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มสี ใช้สำหรับฉีดเข้าผิวหนัง เพื่อจุดประสงค์ทางเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา

อาการแพ้น้ำหมึก และการติดเชื้อ

• หลังจากที่ได้รับรอยสัก คุณอาจจะสังเกตเห็นผื่นในบริเวณที่มีรอยสัก ซึ่งนี่อาจเป็น อาการแพ้น้ำหมึก หรือการติดเชื้อ จากข้อมูลของ Mayo Clinic พบว่า เม็ดสีที่ก่อให้เกิด อาการแพ้น้ำหมึก ทางผิวหนัง ได้แก่ สีแดง สีเหลืองสีเขียว สีน้ำเงิน
• สำหรับการติดเชื้อที่มีการลุกลาม อาจมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น ไข้สูง เหงื่อออก หนาวสั่น กระวนกระวาย
• การรักษาอาการ รอยสักติดเชื้อ มักจะใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ก็อาจจะต้องมีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงอาจจะต้องมาการผ่าตัดร่วมด้วย

ควรทำอย่างไรหากคุณมี อาการแพ้น้ำหมึก ที่ใช้ในสัก

เมื่อคุณไปสักมาแล้วมี อาการแพ้น้ำหมึก ที่ใช้ในการสัก ขั้นตอนแรกที่คุณควรทำก็คือ ติดต่อคุณหมอ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษา การวินิจฉัยสามารถระบุได้ว่า อาการแพ้น้ำหมึก เกิดจากปฏิกิริยาที่เกิดจากน้ำหมึก หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น การใช้งานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ส่วนขั้นตอนต่อไปก็คือ การพูดคุยกับช่างสักด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ คุณหมออาจต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับน้ำหมึกที่ใช้ในการสัก เช่น ยี่ห้อ และเลขที่ครั้งที่ผลิต (Batch Number) ช่างสักอาจต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ อาการแพ้น้ำหมึก ที่ใช้ในการสัก เพื่อจะได้ไม่นำมาใช้อีก

สรุปได้ว่า น้ำหมึกจากปากกาและปากกาเน้นข้อความถือว่ามีพิษน้อยที่สุด และยากที่คุณจะสัมผัสกับน้ำหมึกในปริมาณมาก ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับพิษจากน้ำหมึกจากการกินหมึกจากปากกา โดนผิวหนัง หรือเข้าตา จึงมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความเป็นไปได้ที่จะได้รับพิษจากน้ำหมึกที่ใช้ในการสัก อาการแพ้น้ำหมึก ที่ใช้ในการสัก มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและความสะอาดของช่างสักและร้านค้ามากกว่าตัวน้ำหมึกเอง

เห็นแบบนี้แล้วถ้าหากมีน้ำหมึกจากปากกามาติดมือคุณบ่อยๆ นั้นล่ะก็ไม่ต้องวิตกกังวลไปนะคะ เพราะบทความนี้ได้ไขข้อสงสัยของคุณไปแล้วว่า น้ำหมึกทั่วไปที่ไม่ได้เข้าตาหรือเข้าปากแล้วล่ะก็ จะไม่ส่งผลอะไรต่อตัวคุณได้เลยค่ะ ดังนั้นแล้วเมื่อเราต้องใช้ปากกาสิ่งที่ DooDiDo อยากให้ระมัดระวังอย่างที่สุดคือห้ามให้หมึกนั้นเข้าตาหรือปากคุณนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://hellokhunmor.com