รู้ทัน 6 วิธีรับมือกับอาการแพนิคในคุณแม่ตั้งครรภ์!!

WM

อาการแพนิคสามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ซึ่งมักจะเกิดจากความเครียดและวิตกกังวลที่มากกว่าปกติ

แน่นอนว่าสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่มักจะมีความเครียด ความกังวลมากกว่าปกติ ไหนจะต้องกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกที่อยู่ในครรภ์ กังวลเรื่องการคลอด และอีกมากมายหลายอย่างที่ต้องคิด ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเจอกับอาการแพนิค และวันนี้เรามีวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่ได้นำไปใช้เพื่อรับมือกับอาการแพนิคที่มักเกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หรือเคยผ่านช่วงเวลาตั้งครรภ์คงทราบกันดีถึงอารมณ์ของคนท้องนะคะ ยิ่งเป็นคุณแม่ที่เพิ่งตั้งท้องแรก ยิ่งทำให้อารมณ์แปรปรวน บางคนเครียด วิตกกังวล หรือที่เราเรียกว่าโรคแพนิค ซึ่งการหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกนี้มักจะเกิดขึ้นแบบกระทันหัน และรุนแรงกว่าความเครียดโดยทั่วๆ ไป ซึ่งความรู้สึกด้านลบแบบนี้มันสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งของคุณแม่เองและของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ได้ด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ๆ เองก็ควรที่จะเรียนรู้วิธีรับมือ ซึ่งได้รวบรวมวิธีรับมือกับโรคแพนิคของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/counselling-440107/

ทำความรู้จักกับโรคแพนิค
โรคแพนิค (Panic disorder) หรือเรียกง่ายๆ ว่า โรคตื่นตระหนก เป็นภาวะวิตกกังวลหรือมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงแบบไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ และเกิดขึ้นซ้ำๆ ได้อีก โรคนี้ไม่อันตรายอย่างที่คิด หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติสุขได้นั่นเอง

อาการแพนิคกับคุณแม่ตั้งครรภ์
อาการแพนิคสามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากความเครียดและวิตกกังวลที่มากกว่าปกติ ซึ่งอาการต่างๆ ได้แก่
– ตัวสั่น วูบวาบไปทั้งตัว
– หายใจลำบาก
– เวียนศีรษะ
– หัวใจเต้นเร็ว
– เกร็งตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
– กลัวบางสิ่งจนไม่ควบคุมตัวเองได้
** สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพนิคเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ได้เกิดผลอะไรตามมา ก็ไม่นับว่าเป็นโรคแพนิคนะคะ เช่น นั่งรถนานๆ แล้วเกิดอาการคลื่นไส้เวียนศีรษะขึ้นมา เพราะโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการกำเริบซ้ำหลายครั้ง ซึ่งส่งผลต่อการดำรงชีวิตค่ะ

วิธีรับมือที่ถูกต้อง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/medicalprudens-481982/

1.หากมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรก ควรไปพบแพทย์ทันที
หากคุณแม่ๆ สังเกตอาการตัวเองแล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นและมีอาการตามที่บอกข้างต้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นหรือเปล่า อยากแนะนำเลยว่าควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ เพื่อจะได้ไม่กังวลและรับการตรวจวินิจฉัยโรคให้แน่ชัดและจะได้รักษาได้อย่างถูกต้องปลอดภัยค่ะ

แต่ถ้าทำวิธีต่างๆ พยายามสุดความสามารถที่คุณแม่คงหนึ่งจะทำได้แล้วแต่ก็ยังไม่หาย คุณแม่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดและการรักษาที่เหมาะค่ะ และต้องให้ความร่วมมือกับคุณหมอทั้งเรื่องการทานยา และทั้งตัวคุณแม่เองอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งแม่และลูกนั่นเองค่ะ

2.ระบายความรู้สึกออกมาบ้าง
เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์มักจะเกิดความวิตกกังวลต่างๆ ทั้งของตัวคุณแม่เองและของลูก กลัวทุกอย่างไปหมด การระบายความกังวลและความเครียดก็สามารถช่วยได้ อย่างเช่น การเล่าสู่กับคนในครอบครัว หรือใช้การเขียนบันทึกประจำวันก็ช่วยได้นะคะ

3.คุณแม่ต้องมีสติ
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่อยากที่จะควบคุมตัวเองให้มีสติในตอนนั้นได้ เพราะอาการแพนิคมักจะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวและไม่รู้สาเหตุ แต่การควบคุมสติถือเป็นสิ่งที่ดี อาจจะเริ่มจากการสงบสติอารมณ์ นั่งนิ่งๆ หายใจเข้าลึกๆ อย่าคิดว่าตัวเองป่วยหรือจะเสียชีวิต เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณแม่เครียดกว่าเดิมได้นั่นเองค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/

4.ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
การออกกำลังกายและการพักผ่อน ถือเป็นการช่วยให้ระบบหัวใจและปิดทำอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลยิ่งขึ้น และเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้คุณแม่ที่มีอาการแพนิคผ่อนคลายได้อย่างมาก เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ เล่นโยคะ หากิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสมและปลอดภัยกับตัวคุณแม่และเจ้าตัวเล็กในครรภ์ก็ช่วยได้นะคะ กินอิ่ม นอนหลับ รับรองว่าช่วยให้อาการต่างๆ ลดลงได้เยอะเลยค่ะ

5.เข้าคอร์สเตรียมพร้อมระหว่างตั้งครรภ์
เพราะการเตรียมความพร้อมก่อน ยิ่งทำให้คุณแม่มั่นใจและพร้อมมากกว่า ยิ่งได้เข้าอบรมเตรียมความพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเรียนรู้การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์และก่อนคลอด ยิ่งจะช่วยลดความกังวลและความเครียดได้มากเลยค่ะ แถมการเข้าคอร์สแบบนี้ยังทำให้คุณแม่ๆ ได้ไปแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ กับคุณแม่ท่านอื่น เรียกได้ว่าได้เพื่อนเพิ่มอีกด้วยนะคะ

6.คนรอบข้างนั้นสำคัญ
อย่างไรก็ตามโรคแพนิค จริงๆ แล้วสามารถพบได้บ่อยมาก และก็ไม่เคยมีใครเสียชีวิตจากโรคแพนิคมาก่อน ซึ่งคุณแม่ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปเลยนะคะ เพราะโรคนี้รรักษาได้ แต่คุณแม่ที่เป็นต้องเข้าใจและรู้วิธีรับมือและแนวทางการรักษาจากคุณหมออย่างถูกต้องเท่านั้นเอง ที่สำคัญคนรอบข้างก็สำคัญ เพราะคุณแม่ที่เป็นโรคแพนิคนี้เขาต้องการคนที่เข้าใจและกำลังใจจากคนรอบข้างเท่านั้นเองค่ะ ถึงจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้คุณแม่ๆ มีกำลังใจและลดความวิตกกังวลไปได้มากเลยนะคะ

จะเห็นได้ว่าตั้งครรภ์นั้นต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกายและจิตใจหลายอย่าง เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่บางคนอาจรู้สึกวิตกกังวลหรือมีอารมณ์แปรปรวนอยู่เสมอ คุณแม่อย่าลืมนำวิธีที่ DooDiDo นำมาฝากไปใช้นะคะ หากสงสัยว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อตัวคุณแม่เองและทารกในครรภ์ได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.parentsone.com