รู้ทัน!! 6 ปัจจัยที่ทำให้น้องหมา น้องแมวเป็นนิ่วได้
เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องคอยสังเกตสัญญาณเตือนโรคนิ่วเป็นประจำ
เจ้าของน้องหมาน้องแมวทั้งหลาย คุณรู้หรือไม่คะว่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยสุดน่ารักของคุณก็สามารถเป็นโรคนิ่วได้ เพราะโรคนิ่วไม่ได้เกิดเฉพาะกับคนเท่านั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับสุนัขและแมวอีกด้วย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยง และการเลี้ยงดูของเจ้าของเอง ก็มีผลต่อความเสี่ยงโรคนี้ทั้งสิ้นค่ะ
โรคนิ่วสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะวิวัฒนาการรักษาน้องหมา น้องแมวที่ก้าวหน้าขึ้นในปัจจุบัน ทำให้สามารถตรวจพบโรคนิ่วได้มากขึ้น คำว่า “นิ่ว” หมายถึงการสะสมของตะกอนแร่ธาตุจนเกิดเป็นก้อนนิ่ว ซึ่งสามารถเกิดได้หลายส่วนในร่างกาย ทั้งในไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ไปจนถึงท่อปัสสาวะ เเละที่สำคัญน้องหมาน้องแมวพูดไม่ได้ ไม่สามารถสื่อสารได้ว่าเจ็บปวดตรงไหน คุณเจ้าของจึงต้องคอยสังเกตสัญญาณเตือนโรคนิ่วเป็นประจำ วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักต้นเหตุเหล่านี้ เพื่อจะได้ป้องกันน้องหมาน้องแมวของเราให้ห่างไกลจากโรคนิ่วกันดีกว่าค่ะ
1. ให้อาหารไม่เหมาะสม
สัตว์เลี้ยงทั้งหมาแล้วแมวมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน ไหนจะเรื่องของสายพันธุ์และขนาดของสัตว์เลี้ยงอีก การเลือกอาหารให้เหมาะสมจึงจำเป็นมาก ไม่อย่างนั้นจะทำให้ร่างกายของพวกเขามีแร่ธาตุส่วนเกินสะสมในร่างกายจนเป็นนิ่วได้
2. อ้วนและไม่ยอมออกกำลังกาย
การที่สัตว์เลี้ยงไม่ค่อยจะขยับเขยื้อนออกไปทำกิจกรรมที่ไหนและยังเอาแต่นอนกินขนมอยู่ในบ้านจนอ้วนตุ๊ ก็จะทำให้เกิดการก่อตัวของนิ่วได้ง่ายขึ้น (ไม่เพียงแค่โรคนิ่วเท่านั้น โรคอื่นๆ ก็จะถามหาด้วย)
3. สัตว์เลี้ยงกินน้ำน้อย
นอกจากที่คุณควรให้สัตว์เลี้ยงดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว คุณภาพของน้ำก็สำคัญด้วยเช่นกัน ควรให้น้ำดื่มที่สะอาดไม่มีสิ่งเจือปนจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงการให้สัตว์เลี้ยงกินน้ำจากสถานที่นอกบ้านหรืออ่างใดๆ ก็ตาม
4. สัตว์เลี้ยงไม่ยอมปัสสาวะ
กระบะทรายไม่พอใช้ อันนี้เป็นปัญหาหลักสำหรับน้องแมวเลย ถ้ากระบะทรายไม่สะอาด มีทรายน้อยเกินไปหรือมีกระบะไม่พอต่อจำนวนแมวที่เลี้ยงก็อาจทำให้เหล่าน้องแมวไม่ยอมใช้กระบะทรายจนเป็นนิ่วได้ ส่วนสุนัขหากคุณไม่ยอมพาพวกมันไปปัสสาวะบ่อยๆ หรือให้มันอยู่แต่บ้านจนไม่ได้ออกไปทำธุระส่วนตัวตามเวลาก็อาจทำให้เกิดนิ่วได้เหมือนกัน
5. สัตว์เลี้ยงเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ
โดยเฉพาะโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีความเสี่ยงที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นโรคนิ่วตามมาทีหลัง
6. ความเครียด
เมื่อสัตว์เลี้ยงมีความเครียดก็มีโอกาสทำให้พวกมันปัสสาวะน้อยลง ความเข้มข้นของปัสสาวะมากขึ้นและทำให้เป็นนิ่วได้เหมือนกัน
การสังเกตอาการ
ถ้าพบสัญญาณเหล่านี้…. ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพราะน้องหมาน้องแมวอาจจะเริ่มมีปัญหาโรคนิ่ว หรือระบบทางเดินปัสสาวะแล้วนั่นเอง ถ้าพบว่าน้องหมาน้องแมวที่บ้านฉี่บ่อยมากกว่าปกติ วันหนึ่งมากกว่า 5 – 6 ครั้งขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉี่บ่อยแต่ฉี่ทีละนิด มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจมีก้อนนิ่วอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เก็บฉี่ได้น้อยลง เลยทำให้ต้องฉี่ทีละน้อยแต่บ่อย ๆ1.ฉี่แบบหน่อย ๆ กระปริดกระปรอยนิด ๆ ถ้าพบว่าน้องเขาฉี่ดูกระปริดกระปรอย ฉี่ทีละนิดทีละหน่อย แสดงว่าอาจมีการอักเสบหรืออุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นบางส่วน ต้องลองพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุต่อไป
2.ฉี่สีแดง ถ้าพบว่าปัสสาวะของน้องมีสีผิดปกติ เช่นสีแดง แสดงว่าอาจจะมีเลือดปนมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีอย่างแน่นอน รวมไปถึงถ้าปัสสาวะข้นขุ่น หรือฉี่สีเข้มมาก ก็ต้องมาพิจารณาด้วยเช่นกัน
3.ปวดเกร็ง น้องบางตัวกว่าจะฉี่ได้ต้องนั่งรวบรวมลมปราณทั้งเกร็งทั้งเบ่งอยู่นาน ถ้าน้อง ๆ ที่บ้านมีอาการเหล่านี้ ให้ระวังเพราะการปวดเกร็งและปวดเบ่งตอนฉี่นั้นอาจเกิดขึ้นได้จากก้อนนิ่วอุดตันระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ฉี่ไม่ออก
4.ไม่ฉี่ ถ้าพบว่าน้องที่บ้านไม่ฉี่เลย หรือฉี่ไม่ออกในหนึ่งวัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพราะเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบรักษาทันที อาจมีสาเหตุมาจากนิ่วอุดตันระบบทางเดินปัสสาวะโดยสมบูรณ์ จนฉี่ไม่ออก ซึ่งอาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะแตกและเสียชีวิตได้
ทั้ง 6 ข้อที่ DooDiDo นำมาเสนอวันนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนิ่วได้ค่ะ หากคุณไม่อยากให้น้องหมาและน้องแมวสุดที่รักของคุณต้องเป็นโรคนิ่ว ก็พยายามหลีกเลี่ยงตามข้อมูลเหล่านี้นะคะ และต้องหมั่นสังเกตอาการของน้องด้วยนะคะ หากมีแาการตามที่กล่าวมาข้างต้น ให้รีบพาไปตรวจเพื่อทำการรักษาต่อไปค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://chimlang.com, www.yippeehappy.com
