รู้ทัน!! ทานผัก 10 ชนิดนี้ทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งได้

WM

แนะนำ 10 ผักต้านมะเร็งกินเพื่อต้านโรคภัย แถมได้ประโยชน์เพียบ

สำหรับผักที่มี Antioxidant เป็นสารอาหารสามารถสยบมะเร็งได้ และมีอนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญในการก่อมะเร็งและเร่งให้เซลล์มะเร็งลุกลาม โดยอนุมูลอิสระจะไปทำลายโครโมโซมและดีเอ็นเอ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นเนื้อร้ายในที่สุด ฟังดูช่างน่ากลัวและน่าหนีให้ไกล แต่ข่าวร้ายคืออนุมูลอิสระที่คุกคามร่างกายทำให้เซลล์เหี่ยว เป็นมะเร็ง และเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมีอยู่รอบตัว

“โรคมะเร็ง” หรือทางการแพทย์ว่า เนื้องอกร้าย (malignant tumor) โดยมะเร็งสามารถป้องกันได้โดยการไม่สูบบุหรี่ รักษาน้ำหนักตัวเพื่อสุขภาพที่ดี งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับเลือกประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ รวมถึงสมุนไพรต้านมะเร็งทั้ง 10 ชนิด คราวนี้เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปของโรคมะเร็งแล้ว เรามาดูกันซิว่าการรับประทานประเภทไหนบ้างที่จะช่วยให้เรานั้นห่างไกล หรือมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็งได้น้อยลง วันนี้เราจึงรวบรวมผักและผลไม้ต้านมะเร็ง ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสาร อาหาร ที่มีประโยชน์จากงานวิจัยทั่วโลก พร้อมวิธีกินผักและผลไม้สู้มะเร็งให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ทั้งคนป่วยและคนไม่ป่วยมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นทุกวันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/colin00b-346653/

มะเร็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุของการเกิดมะเร็งนั้นยังไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นและมีการแพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในปัจจุบันแพทย์ได้มีการวิจัยและพบปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดน่าจะมาจากปลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน น้อยมากที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียว โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็ง

มะเร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ?
บางคนอาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าการเป็นโรคมะเร็งกับการเป็นเนื้องอกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของทั้งสองอาการให้เห็นกันชัดๆ โรคมะเร็งนั้นจะต่างจากการเป็นเนื้องอกก็ตรงที่ ก้อนเนื้อ หรือแผลที่เป็นมะเร็งนั้นจะลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงได้เร็วกว่า เข้าต่อมน้ำเหลือ แพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือด เข้าสู่กระแสเลือด ตลอดจนหลอดน้ำเหลืองต่อเนื่องไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โดยมากมักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ฉะนั้น โรคมะเร็งจึอาจมองได้ว่าเป็นโรคที่เรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต้องทำอย่างต่อเนื่อง
เนื้องอก หรือโรคเนื้องอก อันได้แก่ การมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติ จะแตกต่างจากก้อนเนื้อของมะเร็งตรงที่ก้อนเนื้อนั้นโตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะข้างเคียง ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสโลหิต ตลอดจนกระแสน้ำเหลือง ฉะนั้น การเป็นเนื้องอกทำการรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stokpic-692575/

1. ผักสีรุ้งหรือผักหลากสี
หากต้องการเน้นให้ร่างกายได้รับสารแอนติออกซิแดนต์ เราต้องกินผักหลากสีหรือเรนโบว์ไดเอต กินไล่สีมาเลย เช่น สีม่วงบลูเบอร์รี่ สีแดงเชอร์รี่ สีเขียวผักใบเขียว สีเหลืองฟักทอง สีขาว แก้วมังกร เนื่องจากสีของผักต่างชนิดกันจะมีสารแอนติออกซิแดนต์ต่างกัน ซึ่งจะไปช่วยกำจัดฟรีแรดิคัลซึ่งก็มีหลายชนิดเช่นเดียวกัน

2. คลอโรฟิลล์จากวีตกลาส (Wheatgrass) หรือต้นอ่อนข้าวสาลี
การนำ วีตกลาสมาปั่นเป็นน้ำเอนไซม์ 1 ช็อต จะทำให้ร่างกายได้รับคลอโรฟิลล์สูงมาก ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังและช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันใน ร่างกาย แต่ปัญหาคือ เรามักขยาดกับรสชาติ แนะนำว่าหลังจากดื่มน้ำเอนไซม์ วีตกลาสแล้วให้ดื่มน้ำเสาวรสหรือน้ำมะนาวตามลงไป จะช่วยล้างปากได้ดีมาก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/marijana1-8558212/

3. กรดโฟลิก
มีความสำคัญในแง่การพัฒนาเซลล์เกิดใหม่ให้มี ความแข็งแรงสมบูรณ์ ป้องกันการกลายพันธุ์ มีการศึกษาหนึ่งพบว่า กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งลำไส้และทวารหนักมีระดับกรดโฟลิกน้อยกว่าปกติ ดังนั้นเราควรกินกรดโฟลิกซึ่งพบในผักใบเขียว นม ให้ได้ในปริมาณ ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ควรกินร่วมกับ วิตามินบี 12 เพื่อมั่นใจว่าจะทำให้การสร้างเซลล์เป็นไปอย่างปกติที่สุด

4. พืชตระกูลกะหล่ำ
ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า บรอกโคลี ล้วนช่วยในเรื่องการปรับฮอร์โมนในร่างกาย จึงสามารถ ป้องกันการเกิดมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนได้ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ นอกจากนี้พืชตระกูลกะหล่ำยังมีสารชนิดหนึ่งที่ช่วย ร่างกายตรวจจับเซลล์กลายพันธุ์ จึงจัดการให้เกิดกระบวนการฆ่าตัวตาย ของเซลล์กลายพันธุ์ดังที่กล่าวไปในตอนต้นได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/sasint-3639875/

5. วิตามินดี
จะพบว่าคนที่อยู่ในประเทศเลยแถบเส้นศูนย์สูตร ขึ้นไป เช่น แคนาดา จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ ไม่ค่อยมีแสงแดด รวมถึงเป็นคนผิวขาวที่เวลาโดนแดดจะเกิดซันเบิร์น ได้ง่าย ซึ่งมักพบว่ามีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำกว่าปกติ ดังนั้น ร่างกายควรได้รับแสงแดดเพื่อให้รังสียูวีไปช่วยกระตุ้นการสร้างวิตามินดี โดยควรรับแดดในช่วง 10 โมงเช้าและหลัง 4 โมงเย็น จะดีต่อร่างกายที่สุด

6. ซีลีเนียม
จากการศึกษาพบว่า การกินซีลีเนียมปริมาณ 200 ไมโครกรัม จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรค มะเร็งผิวหนังได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่า คนที่ขาด ซีลีเนียมจะพบยีนกลายพันธุ์ซึ่งเสี่ยงนำไปสู่การเกิดมะเร็งเต้านม ได้อีกด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pexels-2286921/

7. ชาเขียว
มีสารพอลิฟีนอลในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วย ชะลอการขยายขนาดของเนื้องอก สกัดการสร้างเส้นเลือดใหม่ ของเซลล์มะเร็ง และยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยัง อวัยวะอื่น หากจะดื่มเป็นเชิงป้องกันแนะนำว่า ควรดื่มวันละ 5 แก้ว ซึ่งอาจทำให้บางคนมีอาการนอนไม่หลับได้ เพราะฉะนั้น จึงมีการสกัดเฉพาะสารสำคัญออกมาในรูปแคปซูล และขอเสริม ว่าควรดื่มชาเขียวพร้อมกับการกินอาหารที่มีวิตามินอี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น

ที่ DooDiDo สรุปแล้วหลักในการป้องกันมะเร็งคือ ปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ควรกินอาหารให้หลากหลาย ที่สำคัญควรเป็นผักผลไม้ออร์แกนิกจะดีต่อสุขภาพที่สุด แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้ควรล้างทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ไม่น่าเชื่อว่าผักต้านมะเร็งทั้ง 10 ชนิด จะเป็นผักที่เราคุ้นเคยกันดี และมีให้ทานง่ายแสนง่าย เพียงแค่เราหาเมนูที่มีผักเหล่านี้มาทาน ผสมกับหมู เห็ด เป็ด ไก่ เพียงเท่านี้ ก็เป็นการดูแลสุขภาพตนเอง ให้ห่างไกลมะเร็งร้ายกันแล้วละค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.facebook.com/NarahShop