รวบรวมอาหาร 8 ชนิดที่ห้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ!!

อาหารอันตราย คนเป็นเบาหวาน ควรเลี่ยงเพื่อไม้ให้อาการหนักขึ้น

สำหรับคนที่ชอบทานหวาน ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องดื่ม ขนมหวาน เบเกอรี่ และอาหารประเภทกระทิต่างๆ อาจก่อให้เกิดโรคโรคเบาหวานที่ใครต่างไม่ก็อยากเป็นกัน แต่พอมารู้อีกทีก็เป็นระยะรุนแรงแล้ว ด้วยการเป็นเบาหวานเป็นการสะสมๆ เป็นระยะเวลานานของการรับประทานอาหารที่คุณชอบกิน ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานสามารถกินอาหารได้เหมือนกับคนปกติเพียงแต่ต้องเอกรับประทานให้มากขึ้น เลี่ยงอาหารที่ผ่านการปรุงรสหวาน เค็ม หรือพวกผักผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง พวกขนมปังเบเกอรี่ที่มีน้ำตาลเคลือบอยู่ก็ไม่ควรรับประทาน นอกกจากนี้ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรขยับตัวอย่าอยู่เฉยๆ เนื่องจากการมีภาวะเบาหวาน จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง วันนี้เราขอพอทุกคนไปรู้จัก อาหารอันตราย คนเป็นเบาหวาน ควรเลี่ยงเพื่อไม้ให้อาการหนักขึ้น

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมากก็คงไม่พ้นในเรื่องของอาหารการกิน เพราะอาหารบางชนิดมีโอกาสทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายอีกด้วย เราจึงได้รวบรวมอาหาร 8 ชนิดที่ห้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะมาบอกกันค่ะ หากผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพมากเท่านั้น มาดูกันค่ะว่ามีอาหารชนิดใดบ้าง

1.น้ำตาลทุกประเภท
แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าน้ำตาลย่อมต้องให้ความหวานมาอย่างจัดเต็มอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาลให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะน้ำตาลอ้อย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลก้อน รวมทั้งน้ำผึ้งก็เช่นกัน

2.เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล
เครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เช่น ชา กาแฟสำเร็จรูป น้ำอัดลม ชาเขียว น้ำสมุนไพร น้ำลำไย หรือแม้แต่น้ำผลไม้ ก็ล้วนมีปริมาณของน้ำตาลสูงมาก ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มที่สามารถสร้างอันตรายต่อสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานได้

3.นมข้นหวานหรือนมปรุงแต่ง
ผลิตภัณฑ์ประเภทนมข้นหวานหรือนมปรุงแต่งรสหวาน จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้มีปริมาณน้ำตาลสูง นอกจากนี้ยังรวมถึงนมถั่วเหลืองหรือนมอัลมอนด์ที่เติมน้ำตาล พร้อมทั้งโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวรสหวานก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

4.ขนมหวาน
ขนมหวานทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยหรือเบเกอรี่ทั้งหลาย ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงอย่างมาก เพราะอาหารประเภทนี้ไม่เพียงแต่จะให้น้ำตาลแก่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังให้คาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระบวนการย่อยอาหารในร่างกายได้อีกด้วย จึงเสี่ยงทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดจนน่าตกใจได้

5.ผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง
ถึงแม้ว่าผลไม้จะให้ประโยชน์แก่ร่างกาย แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้น จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น ทุเรียน ขนุน กล้วยสุก ละมุด มะขามหวาน มะม่วงสุก ลำไย หรือน้อยหน่า เนื่องจากผลไม้ประเภทนี้มีปริมาณน้ำตาลสูงนั่นเอง

6.ผลไม้แปรรูป
ผลไม้แปรรูปทุกชนิดล้วนมีปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว จึงถือเป็นอาหารที่ห้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเด็ดขาดเลย ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของการแปรรูปแบบกวน ตากแห้ง แช่อิ่ม หรือในน้ำเชื่อมบรรจุกระป๋องก็ตาม

7.อาหารที่มีน้ำตาลฟรุกโตส
น้ำตาลฟรุกโตสหรือซอร์บิทอล คือน้ำตาลเทียมที่พบในช็อกโกแลตหรือแยมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ได้จากผลไม้ และให้สารอาหารเท่ากับน้ำตาลทั่วไป แต่โดยปกติแล้วผู้ป่วยเบาหวานจะได้รับความหวานชนิดนี้จากการกินผลไม้กันอยู่แล้ว จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารประเภทนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั่นเอง

8.อาหารไขมันสูง
อาหารไขมันสูงที่แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานหลีกเลี่ยงก็คืออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวในสัดส่วนที่สูง เช่น ไขมันสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้น มันจากเนื้อวัว กุ้งใหญ่ เครื่องในสัตว์ หอยนางรม เนย ครีมเทียม ไขมันจากเนย น้ำมันมะพร้าว ของทอด และอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ ซึ่งอาหารเหล่านี้สร้างความเสี่ยงให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นโรคไขมันในเลือดสูงกว่าคนปกติ ดังนั้นหากไม่ต้องการเสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อน ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้

โดยปกติแล้วผู้ป่วยโรคเบาหวานควรให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหารการกินในแต่ละวันให้ดี เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังลดโอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนได้อีกด้วย

อาหารส่วนใหญ่ล้วนมีน้ำตาลอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น DooDiDo แนะนำว่าควรเลือกรับประทานอาหารที่เราสามารถควบคุมปริมาณระดับน้ำตาลได้ เพิ่มผักใบเขียว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินรสหวาน มัน เค็ม เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ไม่สูงไปมากกว่าเดิม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย เพื่อรักษาหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ตามมาตรฐาน ควบคุมกับการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com