มาทำความความรู้จักกับสาเหตุและวิธีป้องกันอาการเสียวฟันกัน

อาการ ” เสียวฟัน “ เกิดได้จากหลายสาเหตุ และยังป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคนอีกด้วย

หลาย ๆ ท่านอาจมีอาการปวดฟัน เสียวฟัน ซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์และสร้างความทุกข์ทรมาน ให้กับผู้ป่วยทุกคน อาการเสียวฟันนั้นเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพช่องปาก ที่ไม่ควรมองข้าม และควรรีบเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

อาการ ” เสียวฟัน “ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แถมเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคน ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการละเลยการดูแลฟัน เช่น การแปรงฟันที่ผิดวิธี การใช้แปรงสีฟันที่แข็งหรือแปรงฟันแรงเกินไปก็จะทำให้เหงือกร่น ฟันสึกบริเวณใกล้ขอบเหงือก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เสียวฟันขึ้นมาได้เป็นต้น วันนี้ เรา จึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสาเหตุและวิธีป้องกันอาการ เสียวฟัน อย่างง่าย ด้วย 8 วิธีที่สามารถทำตามกันได้ง่าย ๆ กันค่ะ

สาเหตุของอาการเสียวฟัน

อาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากเกิดในวัยเด็กสาเหตุมาจากฟันผุ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุนั้น อาการเสียวฟันอาจเกิดได้จาก คอฟันสึก เหงือกร่น ฟันสึก ฟันร้าว ฟันแตก ฟันผุ ฟันผุซ้ำบริเวณฟันที่ได้รับการอุดแล้ว มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารรสเปรี้ยว เสียวฟันหลังจากได้รับการอุดฟันมาใหม่ ๆ หรือ เสียวฟันหลังจากขูดหินปูน เป็นต้น

วิธี ดูแลฟันง่ายๆ ด้วยตัวเอง

1.หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำอัดลม อาหารและเครื่องดื่มรสเปรี้ยวจัด เพราะกรดอาจไปทำลายผิวเคลือบฟัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันกร่อน หรือฟันผุได้ในเวลาต่อมา 

2.งดเคี้ยวของแข็งหรือเหนียวที่อาจทำให้ฟันร้าวได้ เช่นน้ำแข็ง พยายามอย่าใช้ฟันเคี้ยวเมล็ดพืช และผลไม้ที่แข็งเกินไป

3.ปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จะช่วยป้องกันการเสียดสีของสารเคลือบฟัน และภาวะเหงือกร่นได้ โดยให้แปรงจากโคนฟันไปทางปลายฟัน และแปรงทั้งด้านนอก และด้านในของฟัน และอย่าลืมแปรงเข้าไปถึงฟันซี่ในสุดด้วย

4.ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดซอกฟัน เช่น ไหมขัดฟัน หรือแปรงซอกฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อลดคราบพลัค ที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งจะเป็นที่มาของปัญหาทั้งเหงือกร่น จนไปถึงฟันผุ และลุกลามไปถึงการสูญเสียฟันได้

5.เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเกินไป เพราะอาจทำให้คอฟันสึกได้

6.เลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ หรือเลือกใช้ยาสีฟันที่มีสารที่ลดการเสียวฟัน เช่น Strontium chloride และ potassium nitrate จะช่วยบล็อกท่อฟัน ป้องกันไม่ให้เส้นประสาทถูกกระตุ้นซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันได้

7.พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสอบสุขภาพฟัน และปรึกษาอาการเสียวฟันเพื่อตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุของอาการเสียวฟันว่าเกิดขึ้นจากอะไร จะได้ป้องกันและรักษาให้ถูกต้องตามต้นเหตุ

8.หากมีอาการปวดเสียวฟันบ่อยครั้งหรือไม่หายแม้จะเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วควรรีบปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษา

อาการปวดฟัน เสียวฟัน มีหลายระดับ ตั้งแต่ปวดน้อยไปจนถึงปวดมาก หากเป็นอาการที่หนักไปจนถึงรากฟัน ซึ่งรากฟันอยู่ใกล้กับบริเวณเส้นประสาท หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษารากฟันอาจจะส่งผลการทำงานของสมองได้ ดังนั้นการป้องกันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของการใช้ฟันที่เสี่ยงต่อการทำร้ายผิวฟันเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย หากดูแลสุขภาพฟันด้วยวิธีที่บอกไปข้างต้น รับรองว่าจะช่วยป้องกันอาการเสียวฟันของทุกคนได้ดีแน่นอนค่ะ

 ขอบคุณแหล่งข้อมูล : https://goodlifeupdate.com