มาดู!! 5 สัญชาตญาณของสุนัข ที่เจ้าของต้องเข้าใจ

เจ้าของจำเป็นต้องเรียนรู้พฤติกรรม นิสัย และสัญชาตญาณตามธรรมชาติของสุนัข

สุนัข ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ครองใจคนเกือบทั่วโลก ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก มาพร้อมกับนิสัยที่แสนจะฉลาด ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่งามาก เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์เราเลยก็ว่าได้ เมื่อเราได้อยู่กับสุนัขเราจะเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่สุนัขทำเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้คือ สัญชาตญาณตามธรรมชาติของสุนัขนั่นเอง เรามาดูกันค่ะว่าเจ้าตูบของเราจะมีสัญชาตญาณอย่างไรกันบ้าง

อย่างที่เราทราบกันดีกว่า โดยธรรมชาติแล้วน้องหมาเป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่รวมกันเป็นฝูง แม้ในปัจจุบันจะถูกปรับรูปแบบชีวิตให้มาเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดจนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว พวกเขาก็ยังเคยชินและเอาสัญชาตญาณที่ใช้ในการอยู่ร่วมกันเป็นฝูงมาใช้เสมอ ถึงแม้ว่าบางครั้งในบ้านจะไม่มีน้องหมาตัวอื่นแต่น้องหมาก็ติดสัญชาตญาณนี้มาใช้กับสมาชิกในครอบครัว … ว่าแต่สัญชาตญาณนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1.เชื่อฟังผู้นำ
โดยธรรมชาติแล้ว เวลาน้องหมาอยู่ร่วมกันเป็นฝูงตามธรรมชาติในฝูงจะมีน้องหมาหนึ่งตัวที่มีความเป็นผู้นำสูงและมีอำนาจมากกว่าน้องหมาตัวอื่น ซึ่งน้องหมาตัวอื่นก็จะคอยเชื่อและปฏิบัติตาม ความไว้วางใจกันจากประสบการณ์และการเรียนรู้พฤติกรรม นิสัยใจคอของสุนัขตัวอื่นที่มีต่อจ่าฝูง จะเป็นตัวกำหนความสัมพันธ์แนวดิ่งในฝูง น้องหมาตัวที่อยู่มาก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้เป็นจ่าฝูง …

ผู้เลี้ยงควรเข้าใจธรรมชาติในข้อนี้ของน้องหมา และจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีที่จะวางบทบาทของตัวเองในฐานจ่าฝูง เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมให้น้องหมาทำตามคำสั่งได้ง่าย หากผู้เลี้ยงไม่ทำตัวให้เป็นจ่าฝูงตั้งแต่แรก ปล่อยให้น้องหมาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมตามใจชอบหรือสปอยล์ให้สิ่งที่น้องหมาต้องการอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดน้องหมาจะเข้าใจว่าตัวเองมีอำนาจอยู่เหนือเจ้าของ หรือเรียกง่าย ๆ กว่าเข้าใจว่าตัวเองเป็นจ่าฝูงนั่นเองค่ะ

2.น้องหมาตัวผู้มักแย่งอำนาจกันเอง
ตามธรรมชาติแล้วน้องหมาตัวผู้ที่อยู่ในฝูงเดียวกันหรืออยู่ในบ้านเดียวกันจะทะเลาะกันได้ง่าย บางครั้งเกิดจากการแย่งชิงอำนาจความเป็นจ่าฝูงกัน หรืออาจเกิดจากการแย่งตัวเมียตัวเดียวกัน ในขณะที่น้องหมาตัวเมียด้วยกัน หรือน้องหมาตัวเมียกับตัวผู้มักจะเข้ากันได้ดี สำหรับปัญหาการแย่งอำนาจกันของน้องหมาตัวผู้นั้นสามารถลดปัญหาได้โดยการทำหมัน เพราะเมื่อทำหมันไปแล้วลักษณะเด่นทางเพศจะลดลง ความก้าวร้าวต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดการปะทะกันน้อยลง ทำให้น้องหมาสามารถอยู่ร่วมกันได้ดีขึ้น

3.ทักทายกันด้วยการดมก้น
การดมก้นของน้องหมาทำได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ เช่น เมื่อน้องหมาเจอน้องหมาแปลกหน้าตัวอื่น พวกเขาจะดมบริเวณก้นซึ่งจะมีต่อมก้นซึ่งมีกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่เพื่อดมกลิ่นทำความรู้จักกัน หรือน้องหมาที่อยู่ในฝูงเดียวกันออกไปนอกบ้านมา เมื่อกลับถึงบ้านน้องหมาอีกตัวจะทำการดมก้นเพื่อพิสูจน์กลิ่นที่ติดตัวมาว่าไปทำอะไรนอกบ้านมาบ้าง เป็นต้น และพฤติกรรมดมก้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับน้องหมาด้วยกัน แต่น้องหมาบางตัวยังติดเอาพฤติกรรมนี้มาใช้กับเจ้าของเวลาเจ้าของกลับมาจากการออกไปนอกบ้าน หรือเมื่อเจอคนแปลกหน้าด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@sofiashultzphotography

4.แสดงสถานะด้วยการขึ้นขี่
การขึ้นขี่นอกจากแสดงความหมายทางเพศแล้ว ยังเป็นการแสดงความเหนือกว่าของน้องหมาที่ต้องการข่มน้องหมาอีกตัวให้รับรู้ว่าตัวเองนั้นมีกำลังมากกว่า แต่น้องหมาขึ้นขี่กันแต่สีหน้าทั้งสองฝ่ายสงบนิ่งก็อาจเป็นแค่การเล่นกันตามธรรมดา และการขี่นี้น้องหมาก็ไม่ได้ทำเฉพาะกับน้องหมาด้วยกันเท่านั้นนะคะ ในบางครั้งเราจะพบว่าน้องหมาอาจจะขึ้นขี่ขาเจ้าของ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ แสดงออกว่าเขาอยากจะอยู่เหนือกว่าเจ้าของนั่นเองค่ะ

5.ทำความรู้จักน้องหมาตัวอื่นจากการดมฉี่
ในฉี่ของน้องหมาจะมีสารฟีโรโมนผสมอยู่ การดมฉี่เป็นการคาดเดาเพศ อายุ และขนาดตัวของเจ้าของฉี่ ในน้องหมาบางตัวเมื่อได้กลิ่นฉี่น้องหมาตัวอื่นจะรีบฉี่ทับในทันทีเพื่อเป็นการข่ม แสดงให้รู้ว่ามีอำนาจมากกว่า และแสดงอาณาเขตให้น้องหมาตัวอื่นรู้ว่าบริเวณนี้มีเจ้าถิ่น

หากเจ้าของรับรู้ถึงสัญชาตญาณตามธรรมชาติของน้องหมา และเรียนรู้ทำความเข้าใจ จะทำให้สามารถดูแลน้องหมาและเข้าใจถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่น้องทำได้ เพื่อที่เราจะสามารถฝึกสุนัขให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น  DooDiDo และสิ่งสำคัญจะทำให้เราเข้าใจสุนัขมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เราและเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.dogilike.com