มาดูอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นและแบบจีน เด็กๆ ทานอะไรก่อนไปโรงเรียน

WM

เด็กๆ ควรได้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพราะเด็กๆ ต้องใช้กำลังในแต่ละวันอย่างมากมาย

อย่างที่ทุกๆ คนรู้กันดีอยู่แล้วว่า อาหารเช้านั้นถือเป็นมื้อสำคัญที่เด็กๆ ไม่ควรละเลย และควรทานของที่มีประโยชน์มากที่สุดเพื่อเสริมสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่ละประเทศแต่ละสังคมก็มีวัฒนธรรมการทานอาหารเช้าที่แตกต่างกันไป บางท้องที่นิยมทานเพียงของเบาๆ ง่ายๆ แต่บางท้องที่ก็นิยมทานแบบจัดเต็ม เราลองมาดูความแตกต่างของอาหารเช้าของประเทศจีนกับญี่ปุ่นกันค่ะ ว่าเด็กๆ ในวัยเรียนของทั้ง 2 ประเทศนี้เขาทานอะไรกันก่อนไปโรงเรียน

ในญี่ปุ่นจะเน้นให้ความสำคัญกับอาหารเช้าเป็นอย่างมากเพื่อการเจริญเติบโตที่ดีของเด็กๆ จากการสำรวจในปี 2021 พบว่ามีนักเรียนชั้นประถมจำนวน 78% ตอบว่า “ต้องทานอาหารเช้า” และนักเรียนชั้นมัธยมต้นจำนวน 71% ตอบว่า “ส่วนใหญ่ทานอาหารเช้า” แบบนี้ต้องมาดูกันว่าอาหารเช้าเป็นอย่างไรบ้าง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@markuswinkler

อาหารเช้าของเด็กญี่ปุ่น

แล้วเด็กญี่ปุ่นทานอาหารเช้าแบบไหนกัน ? เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ของจีนได้เผยแพร่บทความเปรียบเทียบอาหารเช้าของเด็ก ๆ ในญี่ปุ่นและจีน โดยช่วงแรกเล่าว่า เด็กญี่ปุ่นทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการตั้งแต่มื้อเช้า เด็ก ๆ หลายคนทานข้าวเป็นมื้อเช้า ซึ่งอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นทั่วไปจะประกอบด้วยข้าว กับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ ผัก และอาจตบท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้ ซึ่งอาหารเหล่านี้ให้ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สมดุลกัน อีกทั้งยังมีการประยุกต์เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างกะทันหัน นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเคล็ดลับอายุยืนของชาวญี่ปุ่นก็เป็นได้

อาหารเช้าของเด็กจีน

ในส่วนของเด็กจีน เนื่องจากประเทศจีนมีพื้นที่กว้างทำให้มีวัฒนธรรมย่อยที่หลากหลายและอาจจะทานอาหารเช้าแตกต่างกันไป แต่อาหารเช้ามาตรฐานที่เป็นที่นิยมหลักๆ ก็จะเป็นพวก โจ๊ก หมั่นโถว ปาท่องโก๋ นมถั่วเหลือง เต้าฮวย ปิ่ง (ลักษณะคล้ายแพนเค้กหรือโรตี) จะเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่จะออกไปซื้อทานกันนอกบ้านมากกว่าการทำอาหารเช้าทานในบ้าน และดูเหมือนว่าอาหารเช้าส่วนใหญ่จะเน้นที่คาร์โบไฮเดรตเป็นจำนวนมาก และสมดุลทางโภชนาการกลายเป็นเรื่องรอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/eak_kkk-907811/

หากลองเปรียบเทียบอาหารเช้าของเด็กญี่ปุ่นกับจีน จะพบว่าอาหารเช้าแบบจีนส่วนใหญ่เป็นคาร์โบไฮเดรตและมีความมัน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมักจะเพิ่มขึ้นสูง ในขณะที่อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นมีปริมาณของโปรตีนที่ดีและมีอาหารหลากหลายประเภทซึ่งมีส่วนช่วยให้สมองและร่างกายเด็ก ๆ เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ถือว่าดีต่อร่างกายของเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก

ในปัจจุบันที่ต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็เริ่มนิยมออกไปหาทานแบบง่าย ๆ นอกบ้าน หรือบางคนไม่ทานเลยก็มี อย่างไรก็ตาม อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นก็เป็นวัฒนธรรมการทานที่น่าเรียนรู้และนำมาเป็นแบบอย่าง คือการทานอาหารเช้าที่หลากหลายให้ได้ครบทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ผัก ผลไม้ อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายลดการบ้านและชั่วโมงเรียนของเด็กนักเรียนเพื่อลดความเครียดและให้เด็ก ๆ ได้มีเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมอื่นๆ จากนโยบายนี้ก็น่าจะช่วยให้เด็กๆ ได้มีเวลาทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์จากที่บ้านกันมากขึ้น

แล้วอาหารเช้าของเด็กไทยเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะเป็นลักษณะไหน DooDiDo แนะนำว่าเด็กๆ ควรได้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพราะเด็กๆ ต้องใช้กำลังในแต่ละวันอย่างมากมาย ต้องดูแลและเอาใจใส่เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : www.sanook.com