ภาวะของความเป็นผู้นำที่มาพร้อมกับความฉลาดทางอารมณ์!!

WM

คุณมีหรือไม่ ? ความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการ สิ่งสำคัญของการเป็นผู้นำ

สำหรับการทำงานไว้ว่าจะเป็นตำแหน่งใดก็สำคัญเท่ากัน และในฐานะของผู้ที่เป็นผู้นำขององค์กรหรือบริษัท คุณจำเป็นจะต้องมีความน่าเชื่อถือ สามารถที่จะเป็นที่พึ่งพาให้กับผู้ตามได้  คุณจะต้องต่อสู่กับภาวะอารมณ์ของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ความกดดัน ความกังวล ความเครียด จะทำให้คุณมีอารมร์ที่แปรปรวน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุรอยากที่จะเป็นผู้นำที่ดี คุณพึ่งต้องมี ความฉลาดทางอารมณ์ทั้ง 5 ประการ โดยความฉลาดทางอารมณ์จะช่วยให้คุณเป็นผู้นำที่มากความสามารถ และยังเป็นที่น่านับถือจากเพื่อนรวมงานของคุณอีกด้วย วันนี้พวกเราจึงอยากที่พาคุณมาสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำที่ดี สามารถอ่านต่อได้ในบทความด้านล่างนี้นะคะ

เมื่อคุณนึกถึง “ผู้นำที่สมบูรณ์แบบ” คุณนึกถึงอะไรกันบ้างคะ ? คนที่ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตามก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี หรือคนที่รับฟังผู้อื่น และตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างรอบคอบเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หล่ะค่ะที่เป็นคุณสมบัติของบุคคลที่มีความฉลาดทางอารมณ์ในระดับสูง แล้วความฉลาดทางอารมณ์ หรือ emotional intelligence คืออะไร ? ทำไมความฉลาดทางอารมณ์จึงมีความสำคัญสำหรับผู้นำ เราสามารถปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของตนเองได้อย่างไรบ้าง บทความนี้จะมาพูดถึงความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการให้ทุกคนเข้าใจและทำตามกันค่ะ

ความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการมีอะไรบ้าง ฝึกปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้อย่างไร

คุณเคยรู้จักคนที่ดูเท่อยู่เสมอ ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ทางสังคมที่น่าอึดอัดที่สุดได้ด้วยความสง่างาม และใครที่ดูเหมือนทำให้คนอื่นสบายใจอยู่เสมอไหมคะ ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่บุคคลเหล่านั้นจะมีสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกกันว่า “ความฉลาดทางอารมณ์” หรือ emotional intelligence คือ ความสามารถในการเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองและของคนรอบข้าง คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ในระดับสูงจะรู้ว่ากำลังรู้สึกอะไร อารมณ์ของพวกเขาหมายถึงอะไร และอารมณ์เหล่านี้จะส่งผลต่อคนอื่นอย่างไร ซึ่งความฉลาดประเภทนี้มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นผู้นำ แล้วความฉลาดทางอารมณ์ต้องใช้อะไรบ้าง นักจิตวิทยาและนักเขียน Daniel Goleman ได้บอกไว้ว่าความฉลาดทางอารมณ์มี 5 องค์ประกอบด้วยกัน และความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการนั้นก็ได้แก่

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@icons8
  1. ความตระหนักในตนเอง (Self-awareness)

ความตระหนักในตนเองหรือความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ของคุณเอง เป็นทักษะความฉลาดทางอารมณ์ที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการที่นอกจากการรับรู้อารมณ์ของตัวเองแล้ว ก็คือการตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำ และอารมณ์ที่มีต่อผู้อื่นด้วย ด้วยการรับรู้จุดแข็งและข้อจำกัดของตนเอง เปิดรับข้อมูลและประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งคนที่มีความตระหนักในตนเองมักจะมีอารมณ์ขัน มีความมั่นใจในตนเอง รับรู้ถึงความสามารถของตนเอง และรู้ว่าคนอื่นมองเราอย่างไร

วิธีปรับปรุงความตระหนักในตนเอง ลองใช้การจดบันทึกประจำวัน ด้วยการเขียนความคิดของเราลงไป สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เรามีความตระหนักในตนเองในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ลองเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ใส่ใจกับความคิดและอารมณ์ของตนเอง และฝึกสติ ฝึกสมาธิ ให้ใจเย็นลง

  1. การควบคุมตนเอง (Self-regulation)

นอกจากการตระหนักถึงอารมณ์ของตนเองและผลกระทบที่มีต่อผู้อื่นจะเป็นหนึ่งในความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการแล้ว ความฉลาดทางอารมณ์ยังต้องการให้คุณควบคุมและจัดการอารมณ์ได้อีกด้วย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้เราปิดบังอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง แต่มันหมายถึงการรอเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อแสดงออก ซึ่งการควบคุมตนเองคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ของเราอย่างเหมาะสมด้วย ผู้ที่มีความชำนาญในการควบคุมตนเองมักจะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดี และยังเก่งในการจัดการความขัดแย้งหรือแก้ปัญหาสถานการณ์ตึงเครียดหรือยากลำบากได้

วิธีการปรับปรุงการควบคุมตนเอง ระวังความคิดและความรู้สึกของตัวเอง และรับผิดชอบต่อตัวเอง เช่น หากคุณมักจะตำหนิผู้อื่นเมื่อมีบางอย่างผิดพลาด ให้หยุดและเผชิญหน้ากับผลที่ตามมาไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม และฝึกการหายใจลึกๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบ เพื่อหาวิธีจัดการอารมณ์ที่ยากลำบาก ลองมองความท้าทายเป็นโอกาส และฝึกฝนทักษะการสื่อสารของคุณด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@amyhirschi
  1. ทักษะทางสังคม (Social Skills)

ความสามารถในการโต้ตอบกับผู้อื่นได้ดีเป็นอีกแง่มุมที่สำคัญของความฉลาดทางอารมณ์ การมีทักษะทางสังคมที่แข็งแกร่งช่วยให้ผู้คนสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่นและพัฒนาความเข้าใจในตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่การเข้าใจอารมณ์ของตนเองและของผู้อื่นเท่านั้น แต่เราต้องนำทักษะทางสังคมไปใช้ในการโต้ตอบและการสื่อสารประจำวันของเราด้วย อย่างเช่น ผู้จัดการจะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมต่อกับพนักงาน พนักงานได้รับประโยชน์จากความสามารถในการพัฒนาสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้นำและเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น ซึ่งทักษะทางสังคมที่สำคัญนั้นยังรวมถึงการฟังอย่างกระตือรือร้น ทักษะการสื่อสารด้วยวาจา ทักษะการสื่อสารอวัจนภาษา ความเป็นผู้นำ และเรียนรู้วิธีการพูดโน้มน้าวใจด้วยค่ะ

วิธีการปรับปรุงทักษะทางสังคม เรียนรู้การแก้ไขข้อขัดแย้ง และคอยสังเกตทักษะการเข้าสังคมของคนอื่น ฝึกสบตาให้ดีและฝึกการฟังอย่างกระตือรือร้น รวมถึงแสดงความสนใจในผู้อื่นและเรียนรู้วิธียกย่องผู้อื่นด้วยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@matcfelipe
  1. ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy)

การเอาใจใส่หรือความสามารถในการเข้าใจว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร หรือที่เรียกว่ามีความเห็นอกเห็นใจนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความฉลาดทางอารมณ์ แต่มันเกี่ยวข้องมากกว่าแค่การมีความสามารถรับรู้สภาวะทางอารมณ์ของผู้อื่นได้ เพราะเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของเราต่อผู้คนด้วย เช่น เมื่อเรารู้สึกว่ามีคนกำลังเศร้าหรือสิ้นหวัง เราจะตอบสนองอย่างไร เราอาจปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเอาใจใส่และห่วงใยเป็นพิเศษ หรือเราอาจพยายามทำให้จิตใจของพวกเขาสงบลง สิ่งเหล่านี้หล่ะค่ะที่เรียกว่าการเห็นอกเห็นใจ นอกจากนี้ความเห็นอกเห็นใจยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ทำงาน

วิธีการปรับปรุงความเห็นอกเห็นใจ ลองวางตัวเองไว้ในตำแหน่งของคนอื่น คิดว่าตัวเราอยู่ในสถานการณ์ของผู้อื่นจะทำให้เราเข้าใจบุคคลนั้นๆ มากขึ้น และเกิดความเห็นอกเห็นใจในที่สุด ให้ความสนใจกับภาษากาย เวลาฟังใครสักคนภาษากายของเราจะบอกคนอื่นๆ ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์นั้นจริงๆ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@amyhirschi
  1. แรงจูงใจ (Motivation)

ความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการอย่างสุดท้ายคือ แรงจูงใจ แรงจูงใจจากภายในเป็นทักษะความฉลาดทางอารมณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คนที่ฉลาดทางอารมณ์จะได้รับแรงจูงใจจากสิ่งต่างๆ ที่นอกเหนือไปจากรางวัลภายนอก อย่างพวกชื่อเสียง เงินทอง และคำสรรเสริญ แต่จะมีความปรารถนาที่จะเติมเต็มความต้องการและเป้าหมายภายในของตนเอง ด้วยการแสวงหาผลตอบแทนจากภายใน ผู้ที่มีความสามารถในด้านนี้มักจะมุ่งเน้นการดำเนินการ มีการตั้งเป้าหมาย มีความต้องการความสำเร็จสูง และมองหาวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นอยู่เสมอ รวมถึงยังมีแนวโน้มที่จะมุ่งมั่นมาก และเก่งในการริเริ่มอีกด้วยค่ะ

วิธีการปรับปรุงแรงจูงใจ เฉลิมฉลองผลลัพธ์ของคุณโดยมุ่งเน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายขนาดเล็กที่สามารถวัดได้ หรือใช้เวลาสักครู่เพื่อทบทวนเป้าหมายของตนเอง และจงมีความหวังและใช้วิธีรักตัวเองเพื่อสร้างแรงจูงใจ รวมถึงมองโลกในแง่ดีไม่ว่าจะประสบปัญหาอะไรก็ตาม การใช้ความคิดนี้อาจต้องใช้การฝึกฝน แต่ก็คุ้มค่ากับความพยายามค่ะ

แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความฉลาดทางอารมณ์ติดตัวกันมา แต่เราสามารถฝึกความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการเหล่านี้ได้ ลองใช้เวลาในการทำงานกับการตระหนักรู้ในตนเอง การควบคุมตนเอง สร้างแรงจูงใจ รู้จักการเห็นอกเห็นใจ และสร้างทักษะทางสังคม เพื่อให้เราเกิดภาวะการเป็นผู้นำ ที่สามารถนำทักษะนี้ไปใช้ในการทำงานหรือในชีวิตของเราได้ นอกจากจะดีต่อตนเองในเรื่องของการงานและอนาคตแล้ว ยังถือเป็นการสร้างนิสัยที่ดีให้กับเราอีกด้วยค่ะ

การใช้ชีวิตในการทำงานในฐานะของผู้นำองค์กรหรือบริษัท การสร้างภาพลักษณ์ที่กับตัวเองก็เป็นคนที่มั่นใจ มีความฉลาด มีไหวพริบ มีการเข้าสังคมที่ดี จะช่วยให้การทำงานของคุณนั้นเป็นไปได้ด้วยดี และ DooDiDo คิดว่าการเสริมสร้างบุคลิกภาพภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญ อาทิ การแต่งกาย การพูด จะช่วยให้ภาพลักษณํของความเป็นผู้นำที่ดีเฉดฉายอย่างไม่มีที่ติ คุณจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนให้ตัวเองนั้นมีความมั่นใจ รู้จักวิธีที่จะทำให้ลูกน้องเคารพ นี้จึงถือเป็นความฉลาดทางอารมณ์อย่างหนึ่งคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.shopback.co.th