ผู้หญิงควรต้องรู้!! ลักษณะประจำเดือนผิดปกติเป็นอย่างไร

WM

วิธีสังเกตประจำเดือนผิดปกติแบบง่ายๆ มาดูกันค่ะ

การเป็น “ประจําเดือน” คือเลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกหลุดออกมาทุกรอบเดือน เป็นเรื่องธรรมชาติของสาวๆ อย่างเรานะคะ ประจำเดือนนั้นเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมน 4 ชนิดที่มีหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง เมื่อระดับฮอร์โมนเหล่านี้จะเพิ่มหรือลดในแต่ละรอบเดือน จะทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมกับการตั้งครรภ์ หากไม่มีการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิ ร่างกายจะขับเลือดออกจากช่องคลอดทุกรอบเดือนค่ะ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะของประจำเดือนที่ผิดปกติว่ามีอาการอย่างไรบ้างนะคะ

ส่วนผู้ที่มีรอบเดือนตามปกติ แต่มีเลือดประจำเดือนไหลในช่วงสั้น ๆ อาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ จึงมีผลต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ควบคุมรอบเดือน หรืออาจเกิดจากสาเหตุปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เช่นกัน ดังนั้น หากประจำเดือนมาน้อย และประจำเดือนขาดบ่อย ๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษาให้ประจำเดือนมาตามปกติ

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/photos/pMQgDg_8z88

วิธีสังเกตประจำเดือนผิดปกติแบบง่ายๆ

ขั้นแรกให้ลองเปรียบเทียบกับประจำเดือนปกติ ซึ่งมีลักษณะดังนี้

  1. ระยะเวลาเลือดประจำเดือนออกจะอยู่ในราว 4 – 6 วัน หากนานกว่า 7 วันถือว่าผิดปกติแล้ว
  2. ปริมาณเลือดประจำเดือนในแต่ละเดือนประมาณ 30 มล.ขึ้นไป แต่ถ้ามากกว่า 80 มล. ถือว่าผิดปกติ
  3. ระยะห่างระหว่างประจำเดือนจะมีเวลาประมาณ 24 – 35 วัน

หากมีลักษณะของประจำเดือนผิดไปจากที่กล่าวมาข้างต้น เช่น มีปริมาณมากกว่าปกติ, รอบของประจำเดือนมีระยะเร็วกว่า 24 วัน หรือช้ากว่า 35 วัน, มีประจำเดือนมากและนาน หรือมีไม่เสมอต้นเสมอปลาย ก็ให้ถือว่าเข้าข่ายประจำเดือนมาไม่ปกติแล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/photos/aZwpL_drQ0I

สาเหตุและการรักษา

สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติมีอยู่ 2 ประเภทคือ ประเภทแรกเป็นความผิดปกติจากการสร้างฮอร์โมนของรังไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกหรือเป็นโรคบางอย่างเกี่ยวกับสมองที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของรังไข่ ส่วนประเภทที่สองมีสาเหตุมาจากโรคเลือดบางชนิด ที่เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการเลือดแข็งตัวช้า หยุดไหลได้ยาก หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อบางอย่างในโพรงมดลูก ส่วนวิธีรักษานั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของความผิดปกติ หมออาจจะรักษาด้วยยา ฮอร์โมน หรือวิธีอื่น ๆ ตามแต่กรณี

ควรตรวจภายในตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

จริง ๆ แล้วไม่มีกำหนดอายุที่แน่นอน แต่หากแต่งงานมีบุตรแล้วก็ควรตรวจภายในและตรวจคัดกรองปากมดลูกปีละหน ในกรณีที่อายุน้อยกว่า 45 ปี และไม่พบความผิดปกติในครั้งแรก ก็สามารถเว้นช่วงห่างในการตรวจประมาณ 3 – 5 ปีต่อครั้ง

สำหรับสาว ๆ ช่างสงสัยว่าเมื่อไรนั้น ก็ให้ดูว่าหากมีอาการผิดปกติ

เช่น เลือดออกนอกรอบเดือน มีอาการปวดท้องน้อย หรือคลำพบก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย คุณหมอแนะนำว่าควรพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา และข้อสำคัญคือ หากพบอาการผิดปกติอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ยิ่งในปัจจุบันนี้มีสูตินารีแพทย์ที่เป็นหญิงมากขึ้น คุณสามารถเข้ารับการรักษาและรับคำปรึกษาได้อย่างสะดวกและสบายใจ

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/photos/fhWNnHmW40Y

หลังประจำเดือนหมด 2 – 3 วัน มีเลือดออกกะปริดกะปรอยสีค่อนข้างคล้ำ ถือว่าผิดปกติหรือไม่

ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ปกติทั่วไปประจำเดือนมักมามากในช่วง 1 – 2 วันแรก จากนั้นจะค่อยๆลดลงจนกระทั่งจางหมดไป ในบางรายอาจมีลักษณะกะปริดกะปรอยบ้างซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด แต่หากมีเลือดประจำเดือนออกซ้ำหลังประจำเดือนหมดไปนานแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาทันที

การกินยาคุมกำเนิด เพื่อรักษาสิว หรือเพื่อเลื่อนประจำเดือน มีผลกระทบอย่างไร?

ข้อนี้คุณหมอบอกว่า ในบางรายจะมีกระทบบ้างแต่ก็ไม่เป็นอันตรายรุนแรง เช่น อาจเกิดอาการแพ้ยาคุมกำเนิด แต่โดยทั่วไปไม่มีผลกระทบหากใช้ยาภายใตคำแนะนำและการควบคุมของแพทย์ ดังนั้นสาวๆ ก็ไม่ควรไปซื้อยามาใช้เอง ถ้าอยากสวยขอแนะนำว่าไปพึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่ากันเยอะ

เป็นอย่างไรคะสำหรับลักษณะการเกิดประจำเดือนที่ผิดปกติว่าเป็นอย่างไร แม้จะมองเป็นเรื่องไกลตัวแต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สาวๆ หลายคนไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะฉะนั้น DooDiDo แนะนำว่าอย่าลืมสังเกตุตัวเองทุกครั้งนะคะที่ประจำเดือนมา อย่าประมาทเด็ดขาดนะคะสาวๆ

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล: www.sanook.com