ผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ที่ใช้จัดแต่งทรงผมที่หนุ่มๆ ต้องมีติดบ้านไว้!!

WM

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมที่เหมาะสม จะทำให้คุณผู้ชายจัดทรงได้ง่ายตามต้องการ

การที่ผู้ชายจะดูดีได้นอกจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องเป๊ะแล้ว ทรงผมของหนุ่มๆ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญอย่างมากที่เป็นตัวแปรทำให้ลุคของคุณวันนั้น จะพัง หรือ จะปัง ถึงแม้ว่าหนุ่มๆ จะเข้าร้านตัดผมชื่อดังเพื่อตัดแต่งทรงผมให้ดูดีขนาดไหน แต่ถ้ากลับมาบ้านแล้วเซ็ตผมไม่ได้ดังใจ ไม่รู้ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แต่งผมชนิดไหน วันนีเรามีคำตอบมาฝากค่ะ

การเลือกใช้คนที่เหมาะสมให้ถูกต้องกับงาน ถือเป็นคำคมที่รู้จักกันมานาน สำหรับการทำงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งใช้ได้กับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเช่นกัน เพราะถ้าหากเรารู้จักหน้าที่ของมัน รวมถึงวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ย่อมนำมาสู่ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมาย สำหรับการเซ็ตผมชายแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็น โพเมด, เจล มูสใส่ผม หรือแวกซ์ ดังนั้นเราจึงควรมาทำความรู้จักผลิตภัณฑ์แต่งผมประเภทต่าง ๆ และวิธีเซ็ตผมที่ถูกต้อง เพื่อ สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและจัดทรงตามต้องการได้ง่ายขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/4565753-4565753/

1.โพเมด (Pomade)
โพเมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้เซ็ตทรงผมคลาสสิคแบบต่างๆ เช่น ทรง Undercut ทรง Side Part และทรง Long Trim เป็นต้น เนื่องจากทรงผมเหล่านี้ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความเหนียวเป็นพิเศษ เพื่อให้ทรงผมเซ็ตแล้วอยู่ตัว

ทรงผมส่วนใหญ่ที่ใช้โพเมดเซ็ตนั้น เป็นทรงที่ค่อนข้างฝืนทิศทางธรรมชาติของเส้นผม รวมถึงบางคนอาจจะมีลักษณะเส้นผมที่แข็งและยากต่อการเซ็ต เนื้อของโพเมดจะมีความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้จัดแต่งทรงผมได้อยู่ทรงนาน รวมถึงสามารถจัดแต่งทรงผมได้ซ้ำในระหว่างวัน โดยไม่ก่อให้เกิดคราบขุย

วิธีเซ็ตผมด้วยโพเมด : หลังจากที่สระผม ระหว่างใช้ไดร์เป่าผมให้แห้ง ให้ใช้มือสางผมไปในทิศทางที่ต้องการ จากนั้นใช้นิ้วปาดเนื้อโพเมดขึ้นมาทีละนิด แล้ววอร์มเนื้อโพเมดด้วยการขยี้ที่ฝ่ามือ ต่อด้วยใช้ปลายนิ้วลูบเส้นผมจากโคนผมไปถึงปลายผม แล้วจึงใช้หวีจัดแต่งทรงผมไปในทิศทางที่ต้องการ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://shopee.co.th

2.เจลใส่ผม (Hair Gel)
สามารถใช้เซ็ตทรงผมได้หลากหลายแบบ คุณสมบัติของเจลนั้นเหมาะสำหรับทรงผมที่มีความยาวไม่มาก เพราะเจลจะช่วยทำให้เส้นผมเรียบ ไม่ชี้ฟู และดูเงา แต่เนื่องด้วยเจลมีการแข็งตัวค่อนข้างเร็ว เราจะไม่สามารถจัดแต่งทรงผมได้ซ้ำในระหว่างวัน เพราะเจลที่แห้งแล้ว จะแตกตัวเป็นขุย ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เสียความมั่นใจได้

ดังนั้นการเซ็ตผมด้วยเจลจึงเหมาะสำหรับทรงผมที่ไม่ต้องการเห็นเท็กซ์เจอร์มาก และเซ็ตได้แบบง่าย ๆ เราไม่ควรใช้เจลเซ็ตทรงผมในแบบที่มีลักษณะพิเศษ เพราะการเซ็ตผมด้วยเจลนั้นแก้ไขยาก หากมีการเซ็ตทรงที่ผิดพลาด เราอาจจะต้องเสียเวลาไปล้างเจลออกเพื่อเซ็ตทรงผมใหม่อีกครั้ง

วิธีเซ็ตผมด้วยเจล : หลังจากสระผมแล้วเป่าด้วยไดร์จนแห้งหมาด ให้บีบเนื้อเจลไว้ที่ปลายนิ้วพอประมาณ แล้วจับช่อผมที่เราต้องการเซ็ตให้ตั้งขึ้นมา หรือเอียงไปในทางที่เราต้องการได้ แต่ต้องระวังว่าอย่าใส่ลงไปในเส้นผมมากเกินไป เพราะจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้เส้นผม แล้วพับตกลงมาได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://shopee.co.th

3.แว็กซ์ (Hair Wax)
สามารถใช้งานได้หลายประเภท มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้ ตั้งแต่สูตรเบาบางไปจนถึงสูตรแข็งมาก ซึ่งแว็กซ์เป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่เหมาะสำหรับเซ็ตผมที่มีความยาวพอประมาณ และแว็กซ์มีความแตกต่างจากเจลก็คือ สามารถใช้จัดแต่งทรงผมเพิ่มเติมได้ในระหว่างวัน โดยไม่จับตัวกันและแห้งเป็นขุยเหมือนกับเจล

วิธีเซ็ตผมด้วยแวกซ์ : หลังจากสระผมและเป่าผมด้วยไดร์จนแห้งหมาดแล้ว ให้ใช้ปลายนิ้วป้ายแว็กซ์ขึ้นมาแล้วทาลงบนฝ่ามือ จากนั้นขยี้แว็กซ์ให้ทั่วฝ่ามือด้วยการประกบมือทั้งสองข้าง แล้วจึงใช้ฝ่ามือขยี้ไปที่เส้นผม ต่อด้วยจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการ ทั้งนี้เราสามารถเพิ่มปริมาณแว็กซ์ได้อีกเล็กน้อย เพื่อเก็บส่วนของเส้นผมที่ชี้ฟูออกมาให้เรียบลงไป

เมื่อหนุ่มๆ ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมทั้ง 3 ชนิดที่ DooDiDo นำมาเสนอในวันนี้แล้ว ก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมให้เหมาะกับสไตล์ที่คุณชื่นชอบ และเลือกให้เหมาะกับเส้นผมของคุณด้วยนะคะ เพียงเท่านี้คุณก็จะดูดีได้ง่ายๆ หล่อแบบมั่นใจได้ในทุกๆ วันเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.allthingshair.com