ปลูกกะหล่ำปลีให้ประสบผลสำเร็จ โดย ผู้ใหญ่ใจ แห่งภูทับเบิก

SA Game

ภาพจาก pixabay

สถานที่ท่องเที่ยวอย่างภูทับเบิก จ. เพชรบูรณ์ บรรยากาศของไร่กะหล่ำปลีสวยๆ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ผู้ใหญ่ใจ หรือ นายใจ แซ่เถา เกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญในการปลูกกะหล่ำปลีที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี เดิมกะหล่ำปลีปลูกได้เฉพาะฤดูหนาวแต่ไม่ค่อยทนโรค ทนฝน ด้วยช่วงนี้เข้าใกล้ฤดูกาลปลูกหลักของกะหล่ำปลี

ซึ่งระยะเพาะกล้าจะเริ่มในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแก่การเพาะปลูกกะหล่ำปลี จึงขอเผยความสำเร็จในการปลูกกะหล่ำปลี เกษตรกรแห่งภูทับเบิก ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกกะหล่ำปลี ด้วยการให้ความสำคัญในการคัดเลือกสายพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ที่ดี และยังส่งต่อภูมิปัญญาแก่กลุ่มเพื่อนเกษตรกร เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการเพาะปลูก และให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้สำหรับระยะเพาะกล้าที่กำลังจะมาถึงนี้

ในแง่การเพาะปลูกและคุณภาพของผลิตผลที่ได้กะหล่ำปลีสวย รสชาติหวาน กรอบ อร่อย และที่สำคัญตลาดให้การยอมรับด้วยยอดสั่งซื้อ 100%”

SA Game
ภาพจาก pixabay

กะหล่ำปลี T-523 ทนโรค ทนฝน สามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพการเพาะปลูก ปลูกแล้วได้ผลิตผลแน่นอน จุดเด่นคือ เป็นสายพันธุ์ที่สามารถเก็บแขนงได้ และยังเป็นที่ต้องการของตลาดโดยทั่วไป มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า

กะหล่ำปลี T-530 สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้เร็ว ห่อหัวแน่น น้ำหนักดี ผลิตผลต่อไรสูง ทนโรคและทนฝน อีกทั้ง ยังทนต่อการขนส่ง เป็นที่ต้องการของตลาด มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า

กะหล่ำปลี Passion สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ประกอบอาหารได้หลากหลายโดยให้รสชาติดี หรือทานสดเป็นผักเคียง สายพันธุ์นี้ต้อบโจทย์ได้หมด จึงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะร้านอาหาร ภัตตาคาร ทนโรค มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า

สายพันธุ์ทั้งหมดข้างต้นเป็นสายพันธุ์ที่เจียไต๋ได้พัฒนาร่วมกับบริษัท TAKII Seed Co., Ltd. ผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์ระดับโลกของประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงพันธุ์และทดสอบจนได้สายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อการปลูกในแต่ละพื้นที่

ช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม ถึง กันยายน) เป็นฤดูกาลหลักของกะหล่ำปลี เพราะเกษตรกรที่ปลูกบนดอยอาศัยน้ำฝนเป็นหลักในการเจริญเติบโตของกะหล่ำปลี ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มเพาะกล้าในช่วงพฤษภาคม

ช่วงปลายฝนต้นหนาว (สิงหาคม ถึง พฤศจิกายน) จากแปลงที่ปลูกในฤดูฝน เกษตรกรจะลงปลูกรอบต่อไปเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวต่อ

ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์) พอหมดช่วงฤดูฝนและเข้าฤดูหนาว เกษตรกรก็จะเริ่มย้ายลงมาปลูกบนพื้นราบที่อยู่บนดอย เพื่อหาพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ เนื่องจากบนเขาสูงไม่สามารถปลูกได้เพราะน้ำไม่เพียงพอ

ปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์

  • 1 ไร่ ใช้ 1 กระป๋อง (50 กรัม) สามารถปลูกได้ประมาณ 10,000-12,000 ต้น
  • 6 (1)ผลิตผลต่อไร่ (ปริมาณผลิตผลขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เพาะปลูก)
  • ฤดูฝน โรคแมลงจะเยอะ ได้ผลิตผลประมาณ 6-7 ตัน
  • ฤดูหนาว โรคแมลงไม่ค่อยมี ได้ผลิตผลประมาณ 8-10 ตัน

“ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ควบคู่กับการสนับสนุนที่ดีจากเจียไต๋ ทำให้ผมก้าวมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้” ผู้ใหญ่กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ใจไม่เก็บความสำเร็จไว้เพียงผู้เดียว หากส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนด้วยการขยายการปลูกกะหล่ำปลีสู่เครือข่ายเพื่อนเกษตรกร ทั้งยังเป็นแกนนำในการเจรจาธุรกิจเพื่อกระจายผลิตผลสู่ตลาดรายใหญ่ทั่วประเทศอย่างเป็นธรรม และด้วยความคิดที่ไม่หยุดพัฒนาและเรียนรู้ ในอนาคตผู้ใหญ่ใจมีเป้าหมายในการพัฒนาวิธีการเพาะปลูกโดยปรับเปลี่ยนจากการเพาะในดินกลางแจ้ง ตอนนี้ได้เริ่มหันมาเพาะในโรงเรือนมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ เพื่อให้ได้ผลิตผลที่ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกๆ ฝ่ายทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค

ผู้ใหญ่ใจกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเลือกเจียไต๋ เพราะมั่นใจในคุณภาพโดยเฉพาะการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประทับใจการดูแลเอาใจใส่ที่มีให้ผมและพี่น้องเกษตรกรด้วยดีมาตลอด”

1 Cover photoสำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง Facebook CHIA TAI SEED เมล็ดพันธุ์เจียไต๋: https://bit.ly/CabbageSeedFB หรือรับชมคลิปสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ใจทาง YouTube Channel Chia Tai Group Official: https://bit.ly/CabbageCTYouTube

เกษตร และ บทวิเคราะห์ เทคโนโลยีทางการเกษตร ตลาดขายพืชผลทางการเกษตร ผลกระทบทางการเกษตร งบประมาณและนโยบายรัฐเพื่อการเกษตร และการส่งออกพืชผลทางการเกษตร ที่ได้รับความสนใจ ติดตามได้ที่ doodido

ที่มา : เกษตรก้าวไกล