“บูลเทอร์เรีย” (Bull Terrier) น้องหมาที่หน้าตาน่ารัก น่าเลี้ยงมาก

WM

ข้อควรรู้!! บูลล์เทอร์เรียร์ มีนิสัยแบบไหน มีความวิธีเลี้ยงยังไง

สำหรับสุนัขไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนๆ ก็ตามมักจะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากสุนัขไทยซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะทางกายภาพ หรือ อุปนิสัยที่แตกต่างจากสุนัขไทยโดยสิ้นเชิง อย่าง บลู เทอร์เรียร์ เองต้องบอกว่าลักษณะทางกายภาพของมันทำให้เราอดจะมองมันไม่ได้จริงๆ บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ

สุนัขไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนก็ตามมักจะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากสุนัขไทยซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะทางกายภาพ หรือ อุปนิสัยที่แตกต่างจากสุนัขไทยโดยสิ้นเชิง อย่าง บลู เทอร์เรียร์ เองต้องบอกว่าลักษณะทางกายภาพของมันทำให้เราอดจะมองมันไม่ได้จริงๆ บลู เทอร์เรียร์ เป็นมาอย่างไร ประวัติของ บลู เทอร์เรียร์ ก็เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นทั่วไปที่เกิดจากการผสมผสานข้ามสายพันธุ์ไปมาว่าระหว่างพันธุ์จนเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ใหม่ขึ้น บลู เทอร์เรียร์ ตามประวัติบอกว่าเกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์ โอลด์ อิงลิช เทอร์เรีย มาบวกกับ บลูด็อก ต่อมาก็นำไปผสมต่อกับ ไวท์อิงลิช เทอร์เรีย และ ดัลเมเชี่ยน จนทำให้เกิดสุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นมา เดิมนี้ชื่อว่า ไวท์ คาวาเลียร์ สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ลักษณะเด่นของ บลู เทอร์เรียร์ สำหรับ บลู เทอร์เรียร์ มองภายนอกก็เหมือนสุนัขขนาดกลางๆ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/ben_kerckx-69781/

บลู เทอร์เรียร์ เป็นมาอย่างไร
ประวัติของ บลู เทอร์เรียร์ ก็เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นทั่วไปที่เกิดจากการผสมผสานข้ามสายพันธุ์ไปมาว่าระหว่างพันธุ์จนเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ใหม่ขึ้น บลู เทอร์เรียร์ ตามประวัติบอกว่าเกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์ โอลด์ อิงลิช เทอร์เรีย มาบวกกับ บลูด็อก ต่อมาก็นำไปผสมต่อกับ ไวท์อิงลิช เทอร์เรีย และ ดัลเมเชี่ยน จนทำให้เกิดสุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นมา เดิมนี้ชื่อว่า ไวท์ คาวาเลียร์ สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19

ลักษณะเด่นของ บลู เทอร์เรียร์
สำหรับ บลู เทอร์เรียร์ มองภายนอกก็เหมือนสุนัขขนาดกลางๆ ทั่วไปขนสั้นสีขาว แต่หากเข้าไปใกล้จะเห็นจุดเด่นของมันชัดเจนมากนั่นคือ ศีรษะของมันเป็นรูปไข่แบบแบนๆ ย้ำว่ารูปไข่จริงๆ ดวงตาเล็กเหมือนลูกเกดขนาดเล็กติดอยู่บนศีรษะ หูชี้ตั้ง ความแปลกของตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของ บลู เทอร์เรียร์ ที่ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบมันตั้งแต่แรกเห็น สีโดดเด่นของพันธุ์นี้คือ สีขาว ส่วนสีอื่นก็สวยอยู่แต่ความนิยมลดระดับลงมา

นิสัยของ บลู เทอร์เรียร์
มาว่ากันเรื่อง นิสัยของมันกันบ้าง บลู เทอร์เรียร์ จัดว่าเป็นสุนัขที่เหมาะเลี้ยงในครอบครัวเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้เล่น เป็นกันเอง เข้ากับคนได้ดี ที่สำคัญจงรักภักดีต่อเจ้านายของมันมาก มันพร้อมจะช่วยเหลือเจ้านายหากเกิดเหตุอันตรายได้เลย แต่ บลู เทอร์เรียร์ เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างซุกซนสักหน่อย พลังเหลือเยอะ ตื่นตัวตลอดเวลา ดังนั้นเจ้าของจะต้องหาเวลาพามันไปออกกำลังกายเพื่อไม่ให้มันหงุดหงิด ลดระดับพลังงานของมันลงให้ได้ มันจะได้ไม่อาละวาดทำร้ายข้าวของ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@magdaleny

การดูแล
บลู เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่กินง่าย กินเก่ง และกินเยอะ เจ้าของควรระมัดระวังเรื่องการให้อาหารจำกัดไม่ให้มากเกินไป ไม่อย่างนั้นมันอาจจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักได้ ส่วนเรื่องขนไม่เป็นปัญหาเท่าไร บลู เทอร์เรียร์ ขนไม่ยาวมาก ทำความสะอาดง่าย หวีง่าย ดูแลง่าย แต่เราขอเน้นย้ำเรื่องการพาไปออกกำลังกายควรต้องหาเวลาพาเค้าออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและลดอาการหงุดหงิด ส่วนการฝึก ควรฝึกตั้งแต่เล็กเลย โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัว หรือชุมชน เพื่อให้เข้าใจสถานะของตนเอง จะได้ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง

อีกเรื่องหนึ่งที่ DooDiDo อยากแนะนำคือ อย่าทิ้งไว้ที่บ้านเพียงลำพัง เพราะด้วยความอยากรู้อยากเห็น และตะกละจะแอบกินภายในบ้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะอาจไปกินอาหารของคนที่ไม่เหมาะ จนทำให้เสียชีวิตได้จากการมีสิ่งอุดตันลำไส้ และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ลักษณะขนที่สั้นแบบนี้แทบจะทำให้น้องอบอุ่นไม่ได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น น้องจึงสามารถอยู่อาศัยได้ดีในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศค่อนข้างอุ่นด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.linese.com