จริงหรือไม่?? กล้วยน้ำหว้าสามารถรักษา 7 โรคร้ายได้

“กล้วยนํ้าว้า” เป็นยาระบายอ่อนๆ ให้ผลดีกับคนที่มีอาการท้องผูก

ผลไม้ไทยๆ ที่ทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี และหารับประทานได้กันง่ายๆ ในบ้านเรา อย่างหนึ่งก็คือ “กล้วย” โดยเฉพาะ “กล้วยนํ้าว้า” นับได้ว่าเป็นอาหารชนิดแรกในชีวิตของคนเรา รองลงมานํ้านม และกล้วยนํ้าว้านี้ นอกจากจะกินผลสุกเป็นอาหารแล้ว ก็ยังสามารถนำไปทำขนมต่างๆ หรือจะใช้ลำต้นและใบมาใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ด้วย กล้วยน้ำว้า ผลไม้พื้นบ้านของไทย ที่ออกผลให้กินได้ตลอดทั้งปี ราคาถูกหาซื้อก็ง่าย รสชาติอร่อย คนโบราณนิยมนำมาเป็นอาหารเสริมร่วมกับน้ำนมแม่ 

กล้วยนํ้าว้า เป็นพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในเขตร้อน คนไทยในสมัยก่อน (และในสมัยนี้เป็นบางส่วน) ปลูกไว้เป็นไม้ประจำบ้านและใช้ประโยชน์ได้สารพัด ปกติแล้วเราก็จะกินกล้วยน้ำว้าสุกกัน ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องการขับถ่าย มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อรา แก้ท้องผูก บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง และรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้ด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า

การกินกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยแปรงฟัน สามารถลดกลิ่นปากได้ ทำอย่างนี้ 1 สัปดาห์ ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความอยากกินของจุกจิก กินกล้วยแล้วมีความสุขมากเพราะได้น้ำตาลฟรุ๊ตโทส เป็นน้ำตาลที่ไม่ใช่อินซูลีน กินไม่ถึง 5 นาทีจะได้รับรู้ถึงความสุข เพราะน้ำตาลจะขึ้นไปที่สมองและใช้ได้ทันที ลดอาการซึมเศร้า ลดอาการหงุดหงิดยามเช้า และช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน นอกจากนั้นยังช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ความเครียดได้ด้วย เพราะกล้วยมีโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ทริปโตรเฟนต์”ซึ่งช่วยในการผลิตสารโซลาโทนิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุข จึงช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้ดี เส้นใยและกากอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ มีธาตุเหล็กจึงช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางได้

1. กล้วยน้ำว้าสุก
สีเหลืองสด รสชาติอร่อยที่ปกติเราชอบรับประทานกัน ให้ผลตรงกันข้ามกับกล้วยห่าม เนื่องจากเป็นยาระบายอ่อนๆให้ผลดีกับคนที่มีอาการท้องผูก เพราะมีสารเพ็กตินอยู่มาก เพ็กตินเป็นเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหารและที่สำคัญเป็นอาหารของแบ็คทีเรียในลำไส้ หรือ prebiotic ตามธรรมชาติ จึงช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่มีอาการท้องผูกมากๆต้องรับประทานวันละ 5-6 ลูกเพื่อให้ได้ผลดี

2. กล้วยน้ำว้าห่าม
หรือกล้วยกึ่งดิบกึ่งสุก เปลือกภายนอกสีเหลืองแต่มีสีเขียวประปราย สามารถรับประทานได้สดๆ รสชาติไม่หวานจัดอาจติดรสฝาดเล็กน้อย กล้วยห่ามมีโพแทสเซียมสูง จึงให้ผลดีกับผู้มีอาการท้องเสียเนื่องจากผู้ป่วยจะสูญเสียโพแทสเซียมออกจากร่างกายมาก ซึ่งหากขาดมากอาจมีผลกระทบกับการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้กล้วยห่ามยังช่วยหล่อลื่นลำไส้ และเพิ่มกากใยในการขับถ่ายให้กับผู้ป่วย สารเซโรโทนินในกล้วยห่ามยังช่วยออกฤทธิ์ กระตุ้นให้ผนังกระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

3. กล้วยน้ำว้าดิบ
เปลือกภายนอกสีเขียวเข้ม ช่วยแก้โรคกระเพาะได้ดีเนื่องจากมีสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการเคลือบรักษากระเพาะและลำไส้ป้องกันการติดเชื้อ และด้วยตัวกล้วยดิบเองซึ่งมีฤทธิ์ในการลดกรดในกระเพาะ จึงเป็นยาทางธรรมชาติที่รักษาโรคกระเพาะที่ดีกว่ายาแผนปัจจุบันทั่วไป กล้วยดิบไม่สามารถรับประทานสดๆได้ วิธีการจึงต้องนำกล้วยมาฝานเป็นแว่นๆแล้วอบด้วยความร้อนต่ำไม่เกิน 50 องศา จนแห้งแล้วนำมาบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชา 3 ครั้งก่อนอาหาร โดยสามารถผสมกับน้ำผึ้งเพื่อให้รสชาติดีขึ้นง่ายต่อการรับประทาน

4. กล้วยน้ำว้างอม
กล้วยสุกจัดผิวคล้ำไม่สดสวย ที่หลายๆคนไม่ชอบรับประทาน แต่กลับให้ผลดีอย่างมากมายในการเพิ่มภูมิต้านทานโรคภัยต่างๆ เพราะช่วยเพิ่มเซลเม็ดเลือดขาว และมีสารที่เรียกว่า TNF (Tumor Necrosis Factor) ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติ และยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ มีจุดสีดำที่เปลือกมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เกิดสารเสริมภูมิต้านทานนี้มากขึ้น การรับประทานกล้วยสุกจัดเป็นประจำวันละ 1-2 ลูกยังช่วยเสริมภูมคุ้มกันโรคหวัด

สรรพคุณของกล้วยน้ำว้าช่วยป้องกันโรค

• กล้วยน้ำว้าช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ รับประทานวันละ 5 – 6 ผล จะช่วยให้อาการระคายเคืองลดน้อยลง
• กล้วยน้ำว้า ยังช่วยระงับกลิ่นปากได้  วิธีการก็คือ รับประทานกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากได้มาก
• กล้วยน้ำว้ายังสามารถรักษาโรคกระเพาะ เพราะในกล้วยน้ำว้ามีสารแทนนินอยู่มาก ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้
• กล้วยน้ำว้า แก้ท้องผูก ก็สามารถแก้ท้องเดินหรือท้องเสียได้
• จะเห็นได้ว่า กล้วยน้ำว้ามีประโยชน์มากมาย กล้วยน้ำว้า หารับประทานได้ไม่ยาก ราคาก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับผลไม้อื่น หากได้รับประทานกล้วยน้ำว้าเพียงวันละลูก ก็จะทําให้เรา สุขภาพดีได้ง่ายๆ

กล้วยน้ำว้าเป็นอาหารฤทธิ์เย็น กล้วยน้ำว้าสุกมีแคมเซียมสูงและดูดซึมได้เร็วเมื่อนำไปผ่านความร้อน เวลากินร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมดีขึ้นหลายเท่า ส่วนผลดิบของกล้วยนํ้าว้าก็มีสรรพคุณมากเช่นกัน คือ ช่วยป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาท้องเสียเรื้อรัง อาหารไม่ย่อย เห็นสรรพคุณมากมายขนาดนี้แล้ว DooDiDo คิดว่าคงต้องกลับไปทานกล้วยน้ำว้า และหากล้วยนํ้าว้ามาปลูกที่บ้านสักสองสามต้นกันแล้วละค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://khelang.co.th, https://sites.google.com/site/suranan580710237