จริงหรือไม่”คาเฟอีน” มีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น?

WM

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ”ประโยชน์ของคาเฟอีน”ในเครื่องดื่มที่เราคุ้นเคยดี

หากว่าด้วยเรื่องของ“คาเฟอีน” สารเคมีชนิดหนึ่งในอาหารที่เมื่อรับเข้าไปแล้วจะช่วยให้ร่างกายตื่นขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการดื่มกาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือน้ำอัดลม แต่ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับคาเฟอีนให้มากขึ้น ว่าการบริโภคคาเฟอีนให้อะไรกับร่างกายของเราบ้าง เพราะบางคนก็รู้สึกว่าคาเฟอีนทำให้กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง แต่บางคนกลับรู้สึกปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับเมื่อได้รับคาเฟอีน 

กาแฟนั้นสกัดมาจากเมล็ดกาแฟชนิดต่างๆ มาเป็นกาแฟดำ รสชาติออกขม ไม่มีการปรุงแต่งใดๆ ซึ่งมีคาเฟอีนอยู่ที่ 90 – 170 มิลลิกรัมต่อแก้ว มีสารอาหารและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โปรตีน แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ฯลฯ โดยกาแฟดำหนึ่งแก้วจะมีปริมาณแคลอรี่น้อยมาก แต่ถ้าหากต้องการรสชาติเพิ่มขึ้นสามารถใส่พวกไซรัป นม และครีมเทียมได้ แต่แน่นอนว่าแคลอรี่ก็สูงตาม จากคำแนะนำและการวิจัยต่างๆ นั้น บ่งบอกว่าสามารถดื่มกาแฟได้ 3-4 แก้ว หรือไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน และวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะว่าการบริโภคคาเฟอีนนั้นให้โทษหรือประโยชน์ต่อร่างกายกันแน่

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/ka_re-14461006/

ประโยชน์ของคาเฟอีน

  1. ร่างกายตื่นตัวในช่วงที่ต้องการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ขับรถ อ่านหนังสือ ทำงาน
  2. ช่วยให้สมองด้านความจำทำงานได้ดีขึ้น
  3. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ต้อกระจก นิ่วในถุงน้ำดี และโรคตับ
  4. เพิ่มความทนทานในการออกกำลังกาย ออกกำลังกายได้ดีขึ้น
  5. บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายได้มากถึง 48%
  6. เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น
  7. ปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/sonerkose-13027327/

ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมสำหรับคนทั่วไป

คือไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มมีคาเฟอีนทั่วไปก็คือ

  • กาแฟ 4 แก้ว (อาจแตกต่างไปตามความแรงของกาแฟแต่ละแบรนด์)
  • น้ำอัดลมโคล่า 10 กระป๋อง
  • เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด (ตามโฆษณาที่เราเคยได้ยินกันเลยว่า “ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด”)
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/free-photos-242387/

ผลข้างเคียงของคาเฟอีน

อย่างที่บอกว่าแม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ถ้าหากได้รับคาเฟอีนเข้าไปในร่างกายมากเกินความจำเป็น ผลข้างเคียงที่อาจตามมาก็คือ

  • นอนไม่หลับ ส่งผลให้พักผ่อนไม่เพียงพอและคุณภาพการนอนต่ำลงไปด้วย
  • ใจสั่น (เพราะกาแฟหรือแกฟะ?) เพราะกาแฟนี่แหละ คาเฟอีนจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ซึ่งทำให้หัวใจเราเต้นเร็วขึ้นนั่นเอง
  • เมื่อยล้า เมื่อร่างกายตื่นตัว ทำกิจกรรมต่างๆ ร่างกายอาจเกิดความเมื่อยล้าในช่วงที่ผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมงหรือในวันต่อมา อันเนื่องมาจากคาเฟอีนหมดฤทธิ์
  • สูญเสียแคลเซียม นำไปสู่การสูญเสียมวลกระดูกและกระดูกพรุนในเวลาต่อมา
  • ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายมีปัญหา กรดไหลย้อน เนื่องจากคาเฟอีนเข้าไปเพิ่มความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร
  • ปัสสาวะบ่อยขึ้น ดังนั้นควรจิบน้ำตามบ่อยๆ นะ
  • ติดคาเฟอีน สำหรับใครที่รับคาเฟอีนเข้าร่างกายจำนวนมาก หรืออาจไม่มากแต่บ่อย ก็อาจเกิดอาการเสพติดจนทำให้เมื่อไม่กินแล้วง่วงและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ

คาเฟอีนในอาหารอื่นๆ

นอกจากชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมแล้ว คาเฟอีนยังอยู่ในอาหารบางชนิด เช่น เมล็ดทานตะวัน ช็อคโกแลต โกโก้ รวมไปถึงยาบางตัว เช่น พาราเซตามอล และยาที่รักษากลุ่มอาการ PMS

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/free-photos-242387/

เลิกติดคาเฟอีนยังไงดี

ถึงตรงนี้เราเชื่อว่า ทั้งที่ทานคาเฟอีนมานาน หรือคนที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นานก็อาจจะเริ่มมองหาวิธีการที่จะไม่ได้รับผลเสียจากการทานคาเฟอีน หรือไม่กลายเป็นคนติดคาเฟอีนแบบขาดไม่ได้ เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดคาเฟอีนในชีวิตประจำวันได้ ดังนี้

  • ค่อยๆ ลดทีละนิดๆ ตั้งแต่จำนวนแก้ว ไปจนถึงลดขนาดแก้วให้เล็กลงเพื่อให้ดื่มได้น้อยลง
  • ทดแทนด้วยกาแฟ Decaf เพราะมีคาเฟอีนน้อยมาากกก แค่แก้วละประมาณ 10 มิลลิกรัมเท่านั้น ใครที่รักรสชาติของกาแฟและยังทำใจไม่ได้กับการต้องหักดิบเลิกไปเลย วิธีนี้เหมาะสุดๆ

จากข้อมูลที่ DooDiDo กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับ ฟอีนที่อยู่ในเครื่องดื่มของเรานั้น หากคุณอยากลดคาเฟอีน ก็ลองเปลี่ยนมาดื่มชาสมุนไพร ที่รสชาติคล้ายกับชาที่เราดื่มอยู่ แต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่มีคาเฟอีน หันมาดูแลสุขภาพ ตั้งแต่นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารดีๆ ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายสดชื่นได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนกันนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.mangozero.com/about-caffeine/