ข้อควรรู้!! ก่อนการเลือกซื้อรถหัดเดินสำหรับลูกน้อย ต้องเลือกอย่างไร

“รถหัดเดิน” สำหรับเด็กช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการเดินของลูกน้อยได้

สำหรับ “รถหัดเดิน” ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป เหมาะสำหรับเป็นตัวช่วย ในการพัฒนาการเคลื่อนไหวของเด็ก พร้อมฝึกทักษะในด้านต่างๆ เพราะเป็นช่วงวัยที่ เริ่มมีพัฒนาการทางด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่มากขึ้น กล้ามเนื้อขาอาจจะยังไม่แข็งแรงมากนักคุณพ่อคุณแม่จึงเลือกรถหัดเดินมาเป็นตัวช่วยเพื่อให้การหัดเดินของลูกน้อยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รถหัดเดินจำเป็นไหมสำหรับลูกน้อยจะทำให้พัฒนาการของลูกน้อยช้าหรือจะเป็นอันตรายสำหรับลูกน้อยหรือไม่ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยลูกน้อยให้ใช้รถหัดเดินเพียงลำพัง ผลเสียต่างๆ ก็จะไม่ตามมาอย่างแน่นอน ถือว่าถ้าเทียบกับประโยชน์ที่ลูกน้อยจะได้รับมีมากมายเลยทีเดียว ปัจจุบันรถหัดเดินราคาถูกมีมากมายหลายยี่ห้อ วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อรถหัดเดิน หรือ รถเข็นหัดเดิน ว่ามีวิธีเลือกซื้ออย่างไร ที่มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าที่สุด

วิธีเลือกซื้อรถหัดเดิน

1. เลือกจากวัสดุ
วัสดุของรถผลักเดินนั้นหลักๆ ก็จะเป็น โครงสร้างของตัวรถหัดเดิน ตัวเบาะนั่งที่ผลิตจากผ้าและพลาสติกที่เป็นตัวรถควรเลือกโครงสร้างของตัวรถหัดเดินมีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ตัวเบาะนั่ง ควรเป็นผ้าที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ระบายอากาศได้ดี ตัวพลาสติกต้องเป็นพลาสติกที่มีคุณภาพดี วัสดุปลอดสารพิษ ไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายกับเด็ก

2. เลือกโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เรื่องความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเด็กในวัยเริ่มหัดเดิน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของรถผลักเดินไว้อย่างยิ่ง จะได้ทำให้คุณวางใจได้ ควรเลือกรถผลักเดินที่มีระบุมาตรฐานความปลอดภัย สำหรับประเทศไทยมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าคือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดยจะมีตราสัญลักษณ์อยู่ที่ตัวสินค้าที่ได้รับการรับรองเพื่อแสดงถึงความปลอดภัยในการใช้งานสินค้านั้นว่ามีความปลอดภัยสูง

สำหรับของเล่นเด็กนั้น ทางสำนักงานจะตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงระบุเกณฑ์อายุที่สามารถใช้งานของเล่นได้เหมาะสม และยังตรวจสอบด้วยว่า ของเล่นชิ้นนั้นมีชิ้นส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อเด็กหรือไม่ ควรจะมีคำเตือนใดแจ้งบนฉลากบ้าง นอกเหนือจากมาตรฐานมอก. แล้วยังมีการรับรองอื่นๆ อีกที่เราสามารถไว้วางใจได้ว่าเป็นสินค้าที่ปลอดภัย หากสินค้ามีการนำเข้าหรือส่งออกต่างประเทศก็จะมีการรับรองของ

3. ชุดของเล่น
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย จะต้องมีชุดของเล่น เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ การสัมผัส และการได้ยินสร้างความเพลิดเพลินของเด็กๆ ได้ดีทีเดียว แนะนำรถหัดเดิน 4 ยี่ห้อ

1. รถหัดเดิน FIN
รถหัดเดิน FIN ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6-15 เดือน รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 15 กก. พับเก็บได้ง่ายที่รองนั่งถอดซักได้ มีเสาของเล่น และถาดวางของเล่น ช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีพัฒนาการที่สมวัย ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เหมือนได้ออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเลยทีเดียว

2. รถหัดเดิน Thaiken
รถหัดเดิน Thaiken รถหัดเดินหน้ากระรอก ดีไซน์สุดเก๋ สีสันสดใส สินค้าประกอบง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ออกแบบรถเข็นให้มีฐานกว้าง เพื่อป้องกันการพลิกคว่ำ เมื่อรถเจอพื้นที่ต่างระดับ สามารถปรับความสูงของรถหัดเดินได้ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 18 กิโลกรัม สามารถพับเก็บเพื่อการเคลื่อนได้ย้ายสะดวก ปลอดสารพิษ ไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กเหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี

3. รถหัดเดิน Camera Baby
รถหัดเดิน Camera Baby ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ไม่มีสารที่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก สามารถปรับระดับได้ ที่นั่งถอดซักทำความสะอาดได้สามารถล็อคล้อ 2 ล้อหลัง ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับเด็กได้ มีเสียงดนตรี ช่วยให้น้องๆ มีความเพลิดเพลิน สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

4. รถหัดเดิน Monkey Toys
รถหัดเดิน Monkey Toys โครงสร้างเหล็กอะลูมิเนียมคุณภาพดี น้ำหนักเบา วัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้ามีความแข็งแรงสูง ทนทาน สีที่ใช้ในการตกแต่งสินค้าเป็นสีปลอดสารพิษ ไม่มีสารพิษตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อน้องๆ สัมผัสสินค้า เหมาะสำหรับอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี รถหัดเดินหน้าการ์ตูน ดีไซน์สุดเก๋ สีสันสดใส สินค้าประกอบง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ออกแบบรถเข็นให้มีฐานกว้าง เพื่อกันการพลิกคว่ำ เมื่อรถเจอพื้นที่ต่างระดับ สามารถปรับความสูงของรถหัดเดินได้ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 18 กก. สามารถพับเก็บเพื่อการเคลื่อนได้ย้ายสะดวก ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดีพร้อมช่วยในเรื่องการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ สำหรับรถหัดเดินที่ DooDiDo ได้แนะนำไปมีให้เลือกมากมายหลากหลายยี่ห้อเลยใช่ไหมคะ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความใส่ใจในการเลือกมาใช้สำหรับลูกน้อยเป็นพิเศษ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นหลัก ไม่ควรทิ้งลูกน้อยไว้เพียงลำพัง ควรดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://hidek.club