ข้อควรระวัง!! 5 เครื่องดื่มต้องห้าม ที่ไม่ควรกินคู่กับยาเด็ดขาด 

อันตรายกว่าที่คิดกับ 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรทานคู่กับยา!!

เมื่อเราเจ็บป่วย เราต้องรักษาอาการเจ็บป่วยโดยการทานยานั้นเป็นเรื่องที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ แต่หลายคนอาจมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างเรื่องของ เครื่องดื่มที่ทานคู่กับยา และหลายคนก็คงอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าห้ามทานยาพร้อมเครื่องดื่มต่างๆ วันนี้ มี 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรทานกับยามาฝากกันค่ะ เพื่อจะได้ไขข้อสงสัยว่าทำไมถึงห้ามกินยาพร้อมเครื่องดื่มเหล่านี้ ไม่อยากกินยาฟรีๆ ต้องดู 5 รายชื่อเครื่อมดื่ม ดังต่อไปนี้ค่ะ

หลายคนที่ยังไม่รู้ว่าการทานยา ไม่ควรทานกับเครื่องดื่ม 5 ประเภทนี้ เพราะจะทำให้การดูดซึมของยาลดลงด้วย ร่างกายได้รับยาไม่เต็มที่ ใครที่ดื่มชากาแฟตอนเช้า ก็ควรทานยาหลังจากนั้นหรือก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และแม้ว่าการทานอาหารประเภทที่มีนมเป็นส่วนผสมจะไม่ถูกกับยาประเภทแอนตี้ไบโอติก ก็ควรระวังสำหรับการทานร่วมกับยาประเภทอื่นด้วยเหมือนกัน เพราะคนธรรมดาอย่างเราๆ ไม่น่าจะรู้จักส่วนประกอบของยาเท่าไหร่ เดี๋ยวการรักษาจะไม่เกิดผล เพราะฉะนั้นการทานยาที่ถูกต้องคือทานกับ น้ำเปล่า โดยทานตามคำแนะนำว่าให้ทานก่อนอาหารกี่นาที หรือหลังอาหารในทันที เพื่อให้เกิดการออกฤทธิ์รักษาโรคที่ได้ผลดีนะคะ

1. น้ำผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้รสเปรี้ยวอาจทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึมลดน้อยลง

ไม่ว่าจะเป็น น้ำส้ม น้ำมะนาว หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวใดๆ ก็ตาม ที่สามารถเป็นตัวการยับยั้งเอนไซม์ ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงยาบางชนิด ทำให้ร่างกายดูดซึมตัวยาที่มีประสิทธิภาพลดน้อยลง แถมตรงกันข้ามยังออกฤทธิ์ข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย

2. นม แคลเซียมในนมอาจเข้าไปยังยั้งการดูดซึมยา

ถ้าคิดว่าจะทานนมไปพร้อมกับยาล่ะก็ ขอบอกเลยว่า คุณคิดผิดค่ะ เพราะแคลเซียมในนม จะเข้าไปยับยั้งการดูดซึมของยาปฎิชีวนะ ซึ่งอาจเป็นส่วนประกอบสำคัญของตัวยาที่คุณกินเข้าไป ไม่ต้องแปลกใจเลยงานนี้ถ้าทานยาไปพร้อมกับนมแล้วอาการไม่ดีขึ้น

3. ชา กาแฟ ชา กาแฟ อาจไปเพิ่มสารคาเฟอีนในร่างกาย

ชา กาแฟ โดยส่วนมากแล้วจะมีสารกระตุ้นประสาทหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ คาเฟอีน สารดังกล่าวออกฤทธิ์ทำให้ร่างกายสดชื่น แต่ถ้าหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการ กระวนกระวาย ใจสั่น และนอนไม่หลับได้ ยิ่งหากเผลอไปรับประทานคู่กับยาที่มีสารกระตุ้นระบบประสาท เช่น Pesudoephedrine ที่มักผสมอยู่ในยาแก้หวัดด้วยแล้วล่ะก็ อาจทำให้เกิดอาการเหล่านั้นมากขึ้น แถมนานขึ้นอีกต่างหาก ดังนั้นเมื่อต้องรับประทานยาที่มีสารเหล่านี้ผสมอยู่ ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชั่วคราวจะเป็นการดีต่อสุขภาพที่สุด

4. น้ำอัดลม น้ำตาลขัดขวางการดูดซึม

รสหวานของน้ำอัดลมอาจมาช่วยกลบรสขม รสฝาดของยาได้ แต่ถ้าคุณทานคู่กันจริงๆ นอกจากจะกลบรสขมแล้ว แก๊สในน้ำอัดลมยังจะไปกัดกระเพาะ แถมยังขัดขวางการดูดซึมตัวยาอีกต่างหาก แหม!ไม่น่ารักเลยเนอะ

5. แอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ไม่ดีต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป

อย่างที่ทราบกันดีว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้สติสัมปชัญญะของเราลดลง ยิ่งรับประทานร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เช่น ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า อาจทำให้ง่วงซึมขาดสมาธิหรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นหมดสติ และหยุดหายใจไปเลยก็เป็นได้ นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังมีพิษต่อตับหากรับประทานร่วมกันกับยา พาราเซตามอล หรือยาที่มีผลต่อตับอาจมีโอกาสทำให้เกิดอาการตับวายอย่างเฉียบพลันได้ ยังไม่หมดแค่นั้น การรับประทานยาต้านเชื้อ Metronidazole ร่วมกับแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดอาการผิวหนังแตกจากการขยายตัวของหลอดเลือด โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายที่ดี จึงอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดูดซึมในยาหลายชนิด ซึ่งส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงจากการรับประทานยาเกินขนาดได้

จากรายชื่อเครื่องดื่มที่ DooDiDo ได้กล่าวมาข้างต้น ยากับเครื่องดื่ม 5 ชนิดนั้นไม่เข้ากันอย่างแรง ทำให้สิ้นเปลืองตังค์เปล่าๆ แถมไม่พอยังเป็นอันตรายเพราะอาจทำให้ตับกับไตพังได้ง่ายๆ ด้วยค่ะ ดังนั้นควรทานยาคู่กับน้ำเปล่าดีที่สุด นอกจากจะไม่มีผลกับยาที่รับประทานแล้วหากดื่มในปริมาณที่เพียงพอยังช่วย ละลายยา เพิ่มการดูดซึมและลดผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับยา อย่าเผลอทานยาคู่กับเครื่องดื่ม 5 ชนิดนี้นะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.tnews.co.th