“กราโนล่า” ทางเลือกสำหรับสายเฮลท์ตี้ อร่อย มากด้วยประโยชน์!!

มาดูเหตุผลที่ว่า ทำไม “กราโนล่า” ถึงฮิตในหมู่คนรักสุขภาพ??

สำหรับคนรักสุขภาพในยุคนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของการออกกำลังกาย และการเลือกรับประทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ ก็ต้องบอกเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก”กราโนล่า’ อย่างแน่นอนเพราะกราโนล่าประกอบไปด้วยข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง ถั่ว และธัญพืชต่างๆ

ที่สามารถใส่ได้ตามใจชอบ เช่น ผลไม้แห้ง ลูกเกด ถั่ว วอลนัท หรืออัลมอนด์ หากคนระหว่างอบกราโนล่าจะไม่ติดกันเป็นแท่ง ทานง่าย จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนรักสุขภาพในขณะนี้ 

“กราโนล่า”(Granola) คืออาหารที่ได้รับความนิยมจากชาวตะวันตก มักรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือของว่าง กราโนล่าสามารถให้พลังงานสูง เต็มไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่ร่างกายต้องการ โดยมีส่วนผสมหลักประกอบด้วย เมล็ดธัญพืชจำพวกข้าวโอ๊ต ถั่วต่าง ๆ และผลไม้แห้ง ที่นำมาคลุกเคล้าโดยการนำไปอบให้กรอบ สามารถทานเป็นอาหารเช้าแทนซีเรียล นิยมทานคู่กับนมหรือโยเกิร์ต ทั้งนี้มีประโยชน์หลายประการ ต่อสุขภาพเป็นอย่างมากค่ะ มาดูกันเลยค่ะ ว่ามีประโยชน์ของกราโนล่าดีงามมากขนาดไหน

คุณประโยชน์ดีๆ ของกราโนล่าที่มีต่อสุขภาพ

1.ลดอาการท้องผูก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น 

จากการที่ข้าวโอ๊ตมีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ถ้าเรากินอาหารที่มีเส้นใยสูง ๆ เราจะอิ่มท้องนาน ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง และการสะสมไขมันส่วนเกินก็จะน้อยลงด้วย

2.ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงหัวใจ และกระตุ้นการเผาผลาญได้ ธัญพืชและพืชตระกูลถั่วอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะวิตามิน E ไทแอมีน และ โฟเลต (กลุ่ม วิตามิน B) นอกจากนี้ส่วนผสมของ กราโนล่า ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซิงค์ ทองแดง แมงกานีส ธาตุเหล็ก และ ซีลีเนียม ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ทำงานได้ดีขึ้น

3.สามารถควบคุมความหิวระหว่างมื้อได้ดี 

ช่วยลดการทานจุบจิบลงได้ ง่ายต่อการคุมแคลลอรี่ต่อมื้อ คุณค่าทางสารอาหารของข้าวโอ๊ตนอกจากจะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารแล้ว ยังให้โปรตีนที่สูงอีกด้วย หากยี่ห้อไหนที่ใส่ถั่วนา ๆ ชนิดเข้าไปด้วย เราก็ยิ่งจะได้โปรตีนมากขึ้น และเมื่อรับประทานคู่กับกรีกโยเกิร์ต หรือนมวัว เราก็จะได้โปรตีนมากขึ้นไปอีก

ทำไม “กราโนล่า” ถึงฮิตในหมู่คนรักสุขภาพ??

เมื่อพูดถึง “กราโนล่า” หลายๆ คนคงนึกถึงอาหารเช้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะดูเผินๆ คล้ายกับซีเรียล ที่ทำทานได้ง่าย แต่กราโนล่าเป็นได้ทั้งอาหารเช้าที่มีประโยชน์มากกว่าซีเรียล และยังเป็นอาหารว่างที่ดีกว่าขนมทานเล่นทั่วไป ทำให้ “กราโนล่า” เป็นตัวเลือกที่คนใส่ใจสุขภาพชื่นชอบ เพราะไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยแต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

1.อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ธัญพืช ข้าวโอ๊ต และเมล็ดถั่วต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมหลักของ กราโนล่า ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหาร ซึ่งใยอาหารเหล่านี้ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร และการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูก แถมยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้อยู่ท้องได้นานขึ้น นอกจากนี้ ใยอาหารโดยเฉพาะที่อยู่ในข้าวโอ๊ต SA Game ยังมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับคอเรสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย

2.ให้โปรตีน เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นถั่วและธัญพืช จึงทำให้กราโนล่าเป็นอาหารที่มีโปรตีน และเมื่อทานควบคู่กับนมสด หรือโยเกิร์ต ก็จะยิ่งทำให้ได้โปรตีนมากขึ้นไปอีก ซึ่งการทานอาหารที่มีโปรตีน โดยเฉพาะในมื้อเช้านั้น จะช่วยให้สามารถควบคุมความหิวระหว่างมื้อได้ดี ช่วยลดการทานจุบจิบลงได้

3.มีวิตามิน กราโนล่า เป็นอาหารที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะวิตามิน E  ไทแอมีน และ โฟเลต (กลุ่ม วิตามิน B) ที่จะพบมากใน ธัญพืช ถั่ว เมล็ดพืชต่างๆ วิตามินเหล่านี้เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ ส่วน ไทแอมีน และ โฟเลตที่เป็น วิตามินในกลุ่มวิตามิน B มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท และกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้

4.มาพร้อมแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ส่วนผสมของ กราโนล่า อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซิงค์ ทองแดง แมงกานีส ธาตุเหล็ก และ ซีลีเนียม ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกาย ทำงานได้ดีขึ้น สมบูรณ์ขึ้น

สุดยอดไปเลยไหมค่ะ สำหรับกราโนล่ากับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ แถมยังเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้กราโนล่ามีให้เลือกมากมายตามท้องตลาดและห้างสรรพสินค้า แถมมีหลายยี่ห้ออีกด้วย DooDiDo แนะนำให้เลือกกราโนล่าที่มีน้ำตาลน้อย และมีไขมันชนิดดีสูง อีกทั้งควรรับประทานกราโนล่าที่ใส่ผลไม้มากๆ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมควบคุมอาหารมื้อหลักอื่นๆ จึงจะได้สารอาหารครบถ้วน ทั้งไม่อ้วนแถมยังมีสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.lovefitt.com/healthy-fact/