หุ่นสวยไม่ต้องพึ่งยา เครื่องดื่มสมุนไพรกระตุ้นระบบเผาผลาญได้

WM

การดื่มน้ำสมุนไพร 16 อย่างนี้ สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกายได้มากขึ้น

การลดน้ำอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคนอยากหุ่นดีเหมือนนางแบบหรือไอดอล ศิลปินในดวงใจ พยายามลดน้ำหนักแค่ไหนก็ไม่ลดสักที เลยทำให้ตัดสินใจซื้อยาหรือเครื่องดื่มเพียงลดน้ำหนัก หรือการกินน้อยนับแคลให้ต่ำ1,000 แคลต่อวัน หรือการไปดูดไขมัน การทำแบบนั้นอาจทำให้น้ำหนักของคุณลดได้เร็วก็จริงมาแต่เพียงครั่วคราวเท่านั้น แถมอาจส่งผลเสียในภายหลัง ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายพังเกิดอาการโยโย่ เอฟเฟกต์ เพราะการลดน้ำหนักแบบผิดๆ ขาดองค์ความรู้หรือการดูคลิปที่แชร์กันว่าลดจริง 10 กิโล สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลเสียในภายหลัง อยากมีหุ่นสวยเราควรหันมาดูแลเรื่องการกินควบคุมกับการออกกำลังกาย เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้พลังงานแก่ร่างกายในแต่ละวัน เน้นโปรตีนเป็นหลังในการพลังกล้ามเนื้อเริ่งการเผาผลาญ

อยากมีรูปร่างดีต้องออกกำลังกายพร้อมควบคุมอาหารไปด้วย แต่ตัวช่วยดี ๆ อย่างการกินสมุนไพรก็ช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกายได้มากขึ้น รู้สึกอิ่มนานขึ้น เป็นการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีโดยไม่ต้องอดอาหาร แถมยังมีสรรพคุณทางยาบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นอีกต่างหาก ดีขนาดนี้ งั้นก็รีบมาดูกันเลยว่า 16 สมุนไพรลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/rubyriojano-1153085/

1.ใบย่านาง

งานวิจัยที่ศึกษาโดยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีพบว่า การกินใบย่านางช่วยกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันสะสม มาเผาผลาญเป็นพลังงานได้ดีขึ้น ไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน จะกินใบสดหรือคั้นแต่น้ำดื่มก็ได้ สรรพคุณทางยาของใบย่านาง คือ มีฤทธิ์เย็นช่วยดับพิษร้อน แก้อาการวิงเวียน ท้องผูก ท้องเสีย หอบหืด ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ตับอักเสบ กรดไหลย้อน และกระเพาะอาหารอักเสบได้

2.ลูกกระวาน

ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดแก๊สในกระเพาะอาหาร แก้จุกเสียด ท้องเฟ้อ บำรุงเลือด และขับเสมหะ วิธีดื่มคือบดลูกกระวานแห้ง 5-6 เม็ด นำแต่เนื้อผสมน้ำ 1 แก้ว ตั้งไฟเคี่ยวให้เหลือครึ่งแก้ว ดื่มทุกเช้า

3.ดอกคำฝอย

ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันและลดไขมันอุดตัน และความดันโลหิตสูง กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย นำดอกคำฝอยแห้งชงดื่มเป็นชาสมุนไพรตอนเช้าและเย็น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/myccf-20343736/

4.ส้มแขก

เร่งระบบเผาผลาญไขมัน ลดไขมันส่วนเกิน ลดความอยากอาหาร ลดความดันเลือด และเป็นยาระบายอ่อน ๆ

5.เจียวกู่หลาน

ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการปวดไมเกรน รักษาแผลและลดกรดในกระเพาะ ช่วยในการขับถ่าย ใช้ชงชาดื่มได้ 3 มื้อหลังอาหาร

6.ขิง

ลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด บรรเทาไมเกรน ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ ชะลอริ้วรอย จะต้มน้ำดื่มหรือใส่ในอาหารก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน

7.ลูกสำรอง

ลดการดูดซึมไขมัน ไฟเบอร์สูง อิ่มนาน เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ร้อนใน บำรุงลำไส้ใหญ่ วิธีการทำก็ไม่ยากแค่แช่ลูกสำรองในน้ำสะอาด 4-5 ชั่วโมงแล้วกรองเอาแต่วุ้นไปต้ม ดื่มก่อนกินอาหาร 3 มื้อและก่อนนอน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/Xz4M49O8QcE

8.ขมิ้น

ลดคลอเรสเตอรอล กำจัดสารพิษในร่างกาย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย และช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร

9.ฝาง

ลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด แก้ร้อนใน บรรเทาอาการเลือดกำเดาไหล บำรุงเลือด และช่วยขับเสมหะ

10.บอระเพ็ด

ช่วยลดความอยากอาหาร ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ลดความดันเลือด ควบคุมระดับน้ำตาล รักษาโรคกระเพาะ ฆ่าพญาธิไส้เดือน เพื่อความสะดวกในการกิน แนะนำให้กินแบบแคปซูลก่อนอาการ 3 มื้อ 5-10 นาที

11.บุก

เพิ่มพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้กินน้อยลง อิ่มนานขึ้น ดูดซับไขมันและน้ำตาล เคลือบกระเพาะอาหาร

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/huyngan-12007965/

12.กระเจี๊ยบแดง

ดื่มน้ำกระเจี๊ยบแดงต้มช่วยลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงโลหิต รักษาโรคเส้นเลือดเปราะ แก้ไอและขับเสมหะ

13.หญ้าหวาน

เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจากธรรมชาติ จึงปลอดภัยต่อร่างกาย แคลอรี่ต่ำ ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิต เพียงแต่ต้มเป็นน้ำเชื่อมใส่ในอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาล

14.เม็ดแมงลัก

ช่วยให้อิ่มนาน ลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/gDhPl4VAYAw

15.โกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้)

ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง เพิ่มความจำ แก้อาการอ่อนเพลีย ลดอาการไขข้ออักเสบ ปรับระบบย่อย บำรุงสายตา

16.ปักคี้

ลดอาการบวมน้ำ ขับปัสสาวะ บำรุงเลือดและหัวใจ กระตุ้นสารสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความดันอาหาร นิยมใส่ในอาหารประเภทตุ๋น ต้ม นึ่ง

เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนรู้จักหน้าตาของสมุนไพรช่วยลดน้ำหนักเหล่านี้ดี DooDiDo คิดว่าหลายคนอาจกินบ่อย ๆ ด้วยซ้ำ หากอยากมีรูปร่างดี การกินสมุนไพรช่วยลดน้ำหนักได้ก็จริง แต่เจ้าของร่างก็ต้องให้ความร่วมมือควบคุมเรื่องการกินอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมควบคู่กันไปด้วย จำไว้ กินอาหารครบทุกมื้อ คือ การลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย แค่ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมการกินของตัวเองให้ได้เท่านั้น หุ่นผอมเพียวก็ไม่ใช่ก็ความฝันอีกต่อไปค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.trueplookpanya.com