หยุด!! พฤติกรรมกินแล้วนอน เสี่ยง 5 โรคร้ายตามมา

กินแล้วนอนทันทีทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากก็คือ การกินแล้วนอนในทันที หลายคนกินอิ่มก็มักจะชอบเอนหลังและนอนลงไปในที่สุด และคิดว่าการนอนในทันทีหลังจากที่กินอิ่มคงไม่ส่งผลอะไรต่อสุขภาพ แต่คุณรู้ไหมคะว่า การกินแล้วนอนมีแต่จะทำให้รู้สึกอึดอัดท้อง ส่งผลให้นอนหลับๆ ตื่นๆ ฝันร้าย หรือนอนหลับไม่ค่อยสนิท ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพอีกด้วยค่ะ
กินแล้วนอน อันตรายต่อสุขภาพที่อาจคาดไม่ถึง กินแล้วนอน เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายมีปัญหาในการจัดการกับอาหารที่เพิ่งจะรับประทานเข้าไป จนอาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น อาการแสบร้อนกลางหน้าอก อาการกรดไหลย้อน รวมถึงโรคหลอดเลือดในสมอง

1. อาหารไม่ย่อย ท้องอืด
พฤติกรรมการกินแล้วนอนทันทีทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากระบบย่อยอาหารจะใช้เวลาในการย่อยอาหารแต่ละประเภทไม่เท่ากัน เมื่ออาหารยังย่อยไม่หมดก็จะเกิดตกค้าง หมักหมมจากนั้นจึงทำปฏิกิริยากันจนเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด เมื่อมีอาการท้องอืดก็จะทำให้เรานอนไม่สบายตัว ซึ่งจะไปรบกวนประสิทธิภาพในการนอนหลับได้
2. กรดไหลย้อน
เมื่อเรากินอาหาร ร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหารที่เราเพิ่งกินเข้าไป ลองคิดภาพตามว่าปกติร่างกายจะย่อยอาหารโดยลำเลียงจากบนลงล่าง แต่ถ้าเรากินเสร็จกลับล้มตัวลงนอน อวัยวะจะอยู่ในแนวราบแทน ดังนั้น น้ำย่อยที่ถูกหลั่งออกมาจึงไหลย้อนกลับขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ในบางรายอาจย้อนกลับขึ้นมาถึงบริเวณลำคอ เกิดอาการระคายเคือง เนื่องจากน้ำย่อยมีฤทธิ์เป็นกรด จนทำให้รู้สึกแสบร้อนกลางอก จุกเสียดแน่นท้อง ขมในลำคอ เรอเหม็นเปรี้ยว ซึ่งกรดไหลย้อยที่ว่านี้หากได้เป็นแล้วล่ะก็ ใช่ว่าจะรักษาได้ง่ายๆ จึงมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แถมยังมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร หรือโรคหลอดเลือดสมองด้วย
3. นอนไม่หลับ
เป็นอาการที่สืบเนื่องมาจากการภาวะท้องอืดหรือโรคกรดไหลย่อย เมื่อเรารู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วน อาหารไม่ย่อย หรือแสบร้อนกลางอก ก็ย่อมทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง ไม่สบายตัว ดังนั้นจึงไปรบกวนการนอนหลับ นอนหลับๆ ตื่นๆ ซึ่งจะทำให้เรานอนหลับไม่เต็มที่หรือมีอาการนอนไม่หลับได้ ส่งผลให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ทุกระบบในร่างกายจะทำงานปั่นป่วนตาม เมื่อนั้นก็จะเกิดอันตรายอื่นๆ จากการนอนน้อยตามมาได้

4. เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือมะเร็งหลอดอาหาร
โรคหลอดเลือดสมอง เป็นภาวะเสี่ยงที่เป็นผลมาจากโรคกรดไหลย้อนเรื้อรังและอาการอาหารไม่ย่อย เนื่องจากกระบวนการย่อยอาหารนั้นมีผลโดยตรงต่อความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร การดูดซึมสารอาหารจะมีปัญหา และส่งผลต่อภาวะความดันโลหิต และการรักษาระดับน้ำตาลกับคอเรสเตอรอล ส่งผลกระทบถึงระบบไหลเวียนโลหิต เมื่อระบบไหลเวียนโลหิตมีปัญหา ทำให้เลือดที่จะลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปทั่วร่างกายส่งไปได้ยากขึ้น อาจเกิดภาวะสมองขาดเลือดหรือขาดออกซิเจน อาการหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง
ส่วนโรคมะเร็งหลอดอาหาร เป็นภาวะเสี่ยงที่เป็นผลมาจากโรคกรดไหลย้อน หากมีอาการเรื้อรังจากการที่น้ำย่อยไหลย้อนกลับมาที่หลอดอาหาร เกิดการระคายเคืองและอักเสบเรื้อรัง หากปล่อยไว้นานๆ จึงมีโอกาสที่จะกลายเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารนั่นเอง
5. โรคอ้วน
อย่างที่เราทราบกันดีว่าโรคอ้วนเกิดจากการที่เรารับพลังงานจากอาหารมากเกินที่ร่างกายต้องใช้ ในขณะเดียวกันก็ขาดการออกกำลังด้วย เมื่อร่างกายไม่ได้ดึงพลังงานที่ได้ไปใช้ พลังงานก็จะสะสมกลายเป็นไขมัน โดยเฉพาะคนที่ชอบกินอาหารที่ให้พลังงานสูง ร่างกายก็จะสะสมไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งการกินแล้วนอนทำให้ร่างกายแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนเลย พลังงานที่กินเข้าไปจึงไม่ได้ถูกใช้ จึงทำให้อ้วนขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนลงพุงด้วย
ใครที่กำลังทำพฤติกรรมกินแล้วนอนอยู่ให้หยุดเลยนะคะ DooDiDo เพราะนอกจากจะส่งผลเสียเกี่ยวกับการย่อยอาหารแล้ว ยังเสี่ยงทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ เพราะระบบร่างกายของเรา ต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารราว 3 ชั่วโมงอย่าเพิ่งรีบเอนตัวลงนอน ควรขยับร่างกายสักนิด หากิจกรรมทำ เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร แล้วค่อยนอนพักนะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://hellokhunmor.com, www.stkc.go.th