สมุนไพรจีนใน“หม่าล่า” รสชาติจัดจ้าน ช่วยบำรุงเลือดและหัวใจได้ดี

“หม่าล่า” กับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ ที่คุณอาจยังไม่รู้!
ถ้าพูดถึงอาหารปิ้งย่างที่กำลังฮอตฮิตในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นเมนู “หม่าล่า” อย่างแน่นอนค่ะ เพราะหม่าล่า เป็นเครื่องเทศที่เอาไว้ใส่ในอาหาร สามารถใส่ได้ทั้งใน อาหารปิ้งย่าง ผัด ทอด หรือต้มก็ได้ หม่าล่านั้นจะมีรสชาติเผ็ด และชาที่ลิ้น ถือเป็นเครื่องปรุงรสที่ช่วยให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยมากขึ้นค่ะ และวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับหม่าล่า ที่ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยค่ะ
หม่าล่า ( MaLa ) หรือ พริกไทยเสฉวน คือ เครื่องเทศรสเผ็ดที่มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีลักษณะคล้ายเม็ดพริกไทยดำ แต่รสชาติแตกต่างกัน พริกชนิดนี้เขียนเป็นภาษาจีนกลางว่า 麻辣 ( má là ) อ่านว่า หม่าล่า หรือที่คนจีนเสฉวนท้องถิ่นเรียกว่า ฮวาเจียว ( 花椒 / huā jiāo ) ถูกจัดอยู่ในหมวดของพริกหอมในวงศ์ Zanthoxylum ปัจจุบันคนไทยรู้จัก “พริกหม่าล่า” กันมากขึ้น และนิยมกินกันมากในหมู่สาวๆ ที่ชอบอาหารรสชาติจัดจ้าน นอกจากความจัดจ้านแล้ว หมาล่ายังมีสรรพคุณต่างๆ ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยค่ะ เรามาทำความรู้จักกับหม่าล่ากันเลยดีกว่าค่ะ

ความหมายของว่า “หม่าล่า”
คำว่า หม่าล่า ในบางที่อาจออกเสียงว่า “หมาร่า” หรือ “มะหล่า” ซึ่งคำนี้มาจากภาษาจีนว่า 麻辣 / (málà) ที่มีความหมายว่า เผ็ดชา นั่นเอง (麻 ( หม่า ) แปลว่า อาการชา ส่วน 辣 ( ล่า ) แปลว่า เผ็ด)

ประโยชน์ของหม่าล่าที่มีต่อสุขภาพ
- ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการอักเสบในลำคอ
- หม่าล่ามีสรรพคุณช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร
- หม่าล่าช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ลดความดันโลหิต
- รสเผ็ดและชาที่ลิ้นของหม่าล่า ช่วยให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น
- หม่าล่ามีฤทธิ์ช่วยขับระดูในสตรี ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
- หม่าล่า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านเชื้อราและเชื้อไวรัสในร่างกาย แก้อักเสบ
- กลิ่นหอมฉุนของหม่าล่า ใช้สูดดมแก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้หวัด คัดจมูก
- ช่วยแก้ไข้ ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แต่ต้องกินในปริมาณที่พอดี
- หม่าล่ามีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แก้โลหิตจาง
- หม่าล่ามีธาตุสังกะสี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่าย

หม่าล่านิยมกินยังไง?
หม่าล่า สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด และปิ้งย่าง

- หม่าล่าทัง ( ซุปหม่าล่า )
เป็นเมนูที่เมืองไทยยังไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก แต่ถ้าคุณเดินทางไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่จะเห็นมีขายตามร้านอาหารทั่วไปแทบทุกร้าน ส่วนใหญ่นิยมทำเป็นซุปปลาหม่าล่า หรือหม้อไฟชาบูที่ใช้น้ำซุปแบบหม่าล่า ทั้งเผ็ดร้อนทั้งชาลิ้น แต่ก็อร่อยกลมกล่อมไม่แพ้ชาบูชนิดอื่นๆ เลย

- ปิ้งย่างหม่าล่า
ปิ้งย่างหม่าล่า เมนูอาหารที่นิยมนำหม่าล่ามาปรุงซึ่งช่วยเพิ่มความอร่อย เผ็ดร้อน ให้กับเมนูปิ้งย่างบาร์บีคิวแบบเดิมๆ ให้อร่อยแซ่บได้มากขึ้น เคล็ดลับคือ ไม่ใช่ใส่แค่พริกหม่าล่าเพียงอย่างเดียว แต่ให้ผสมส่วนผสมสมุนไพรอื่นๆ ลงไปด้วย เช่น พริกแห้ง พริกไทยดำ กระเทียม ยี่หร่า ขิง ผงพะโล้ เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม จะได้ไม่มีแต่รสเผ็ดๆ ชาๆ เพียงอย่างเดียว

- หม่าโฝโต้วฟุ ( เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน )
เป็นเมนูสุดฮิตตามภัตตาคารใหญ่ ๆ ทั้งในเมืองไทย เมืองจีน ฮ่องกง หรือแม้แต่ในสิงคโปร์ ก็ต้องมีเมนูเต้าหู้ผัดพริกเสฉวน ซึ่งความเผ็ดและชาของพริกหม่าล่าเข้ากับเต้าหู้ได้เป็นอย่างดี พร้อมน้ำซุปแบบคลุกคลิก กินกับข้าวสวยร้อนๆ ( แต่ไม่นิยมปรุงรสเผ็ดเกินไป แต่ใส่พริกหม่าล่าเพิ่มความหอมในการชูกลิ่นให้เมนูน่ากินยิ่งขึ้น )
ข้อควรระวังในการทานหมาล่า
ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปหรือเผ็ดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการร้อนใน ท้องผูก หรืออาจจะท้องเสีย
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าเมนูปิ้งย่างอย่าง “หม่าล่า” จะให้ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพของเรามากขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหม่าล่า จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากเพียงใด DooDiDo ขอแนะนำให้ทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ อย่าทานมากเกินไป อาจทำให้กระเพาะของเราเกิดปัญหาได้ค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.pingfai.com/food/1371
https://amprohealth.com/food/ma-la/