วิธีทำให้ดูโตขึ้น ดูมีวุฒิภาวะ ให้พ่อแม่เชื่อมั่นใจตัวเรา

เริ่มต้นการเป็นผู้ใหญ่ ไม่อยากโดนบ่นว่าไม่โตแล้ว!
อยากดูโตขึ้น ไม่อยากดูเหมือนเด็กกะโปโล ทำอย่างไรดี ? วันนี้เรามีวิธีมาแนะนำให้ลองทำตามกันดู หลายๆ คนคงเคยโดนคุณพ่อคุณแม่บ่นเรื่องพฤติกรรมต่างๆ อยู่หลายครั้ง แล้วคุณก็จะตอบกลับพวกท่านไปว่า “โตแล้วนะ เลิกบ่นเสียที” แต่แน่ใจหรือเปล่าว่าคุณเข้าใจความหมายของการโตเป็นผู้ใหญ่ถูกต้อง มั่นใจไหมว่าคุณทำตัวเป็นคนที่มีวุฒิภาวะแล้วจริงๆ
คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันนี้ ความเคารพซึ่งกันและกันนั้นเริ่มที่จะจางหายไปจากสังคมทุกที ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แต่การแสดงความเคารพต่อผู้คนที่อยู่รอบตัวนั้นสามารถช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์และเข้าใจกับผู้คนที่อยู่ด้วยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการรู้จักเคารพผู้อื่นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเพราะมันมีผลต่อการกระทำของคุณ เมื่อคุณมีความเคารพนอบน้อมต่อผู้อื่น เป็นคนสุภาพเรียบร้อย และจริงใจในสิ่งที่ตนเองกระทำอยู่ สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ในตัวคุณและทำให้คุณนั้นเป็นที่รักของผู้อื่นมากขึ้นอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่า คุณจะสามารถดูอายุเยอะและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นได้อย่างไร
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การเป็นผู้ใหญ่
ให้เริ่มจริงจังกับความชอบของตัวเอง ลองหาอะไรที่คุณทำแล้วสนุกไปกับมันดู แล้วฝึกฝนพัฒนาจน “รู้จริง” เกี่ยวกับเรื่องนั้น ก็จะทำให้คุณเป็นคนมีประสบการณ์และดูเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น แถมยังทำให้คุณมีหัวข้อไว้พูดคุยกับคนอื่นอีกด้วยนะ ในโลกนี้มีอะไรใหม่ๆ ให้คุณลองทำดูอีกมากมาย! คว้ากล้องไปเรียนถ่ายรูปซะ หรือจะหัดเล่นดนตรี เริ่มต้นเรียนภาษาใหม่ๆ หัดทำเสียงแบบบีทบ็อกซ์ หรือจะรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เล่นละครกันดูก็ได้ ขอแค่ชคุณต้องสนุกกับอะไรก็ตามที่คุณเลือกทำ
ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตดู แล้วไปให้ถึงฝัน ส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ใหญ่ก็คือการรู้จักศักยภาพของตนเอง รู้จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง และตั้งเป้าหมายสำหรับชีวิต การมองเห็นภาพอนาคตที่ชัดเจนอยู่เสมอจะทำให้คุณสามารถเลือกทางเดินในชีวิตได้อย่างถูกต้อง เมื่อคุณตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ขอให้ลงมือทำจนกว่าจะสำเร็จ การตั้งเป้าหมายสักอย่างในชีวิตอาจฟังดูแล้วใหญ่เกินตัว แต่อย่าด่วนเครียดไป! มันแค่ต้องใช้เวลาและการวางแผนนิดหน่อยก็เท่านั้น
และการเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าต้องตีหน้าขรึมจริงจังตลอดเวลา เพราะผู้ใหญ่ คือคนที่รู้จักแยกแยะว่าเวลาอยู่กับคนประเภทไหนและเวลาไหนถึงสมควรจะหยอกล้อ หรือควรที่จะจริงจัง ลองหาเวลาผ่อนคลายทำอะไรไร้สาระดูบ้างในแต่ละวัน และต้องรู้กาลเทศะว่าเป็นเรื่องไม่สมควรจะไปทำตัวไร้สาระในเวลาที่ต้องจริงจัง อย่างไรก็ดี เวลาผ่อนคลายอย่างตอนไปเที่ยวกับเพื่อน หรือโดยเฉพาะตอนอยู่กับครอบครัว ปลดปล่อยตัวตนได้เต็มที่เลย ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี
โลกใบนี้คือสังคมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ถ้าคุณจงใจทำอะไรที่ก่อความรำคาญให้คนอื่น หรือทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง ก็ไม่แปลกถ้าใครจะมองว่าคุณดูไร้เดียงสา การรู้จักสังเกตและจดจำความจำเป็นและความต้องการของคนอื่นๆ รอบตัว จะทำให้คนเหล่านั้นยอมรับและให้เกียรติคุณเช่นกัน แต่การให้เกียรติคนอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำตัวต่ำต้อยนะ แต่มันคือการที่คุณรู้จักรับฟังความคิดความต้องการของคนอื่นเขาบ้าง และปฏิบัติต่อเขาในแบบที่คุณอยากให้เขาปฏิบัติต่อคุณ ถ้ามีใครมาพูดจาทำท่าทางหยาบคาย อย่าได้โต้ตอบเขา จงทำแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน

2. ยกระดับความเป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์
อย่าทำตัวระรานคนอื่น เพราะคนที่ชอบระรานคนอื่น ลึกๆ แล้วมักเป็นเพราะขาดความมั่นใจ ไม่เห็นค่าของตัวเอง เป็นเหมือนหนทางให้เขาได้แสดงอำนาจข่มคนอื่น ทั้งที่จริงๆ แล้ว การกลั่นแกล้งนั้นส่งผลเสียทั้งกับผู้ถูกกระทำและกระทั่งกับคนที่เป็นผู้ลงมือ หากพบว่าคุณเข้าไปพัวพันกับการกลั่นแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำหรือถูกกระทำก็ตาม ขอให้รีบปรึกษากับคนที่คุณไว้ใจ ไม่ว่าจะพ่อแม่ หรือครูอาจารย์ก็ตาม เพื่อหาวิธีหยุดการกระทำนั้นโดยเร็ว แต่ถึงคุณจะไม่ได้เป็นผู้กระทำและถูกกระทำ แต่ก็อย่าได้นิ่งเฉยหากพบเห็นคนที่กำลังถูกรังแก ให้คุณเป็นตัวอย่างที่ดี ด้วยการไม่เกะกะระรานคนอื่น
อย่านินทา หรือว่าร้ายลับหลังคนอื่น เพราะการนินทาว่าร้าย แพร่ข่าวลือที่ไม่มีมูล และการแอบแทงคนอื่นข้างหลังนั้นมันทำให้เขาเจ็บพอๆ กับการที่คุณไปต่อยหน้าเขา การนินทาคนอื่นไม่ได้ทำให้คุณดูเก๋าขึ้นมา มีการวิจัยแล้วว่าการนินทาว่าร้ายนั้นอาจทำให้คุณดูเจ๋ง ถ้าคุณเป็นเด็ก ป.5 น่ะ แต่ถ้าอยู่ ม.3 ที่ควรจะเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ก็รู้ไว้เลยว่าพวกขี้นินทาน่ะไม่ค่อยมีใครชอบขี้หน้า เขาไม่คบคนแบบนี้กันหรอก วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ได้ว่าเรื่องไหนคือเรื่องนินทาหรือข่าวลือ ก็คือต้องถามใจตัวเอง ฉันอยากให้คนอื่นได้ยินหรือรู้เรื่องนี้ของฉันหรือเปล่า? ถ้าคำตอบคือ ไม่ ก็อย่าไปเที่ยวเล่าให้ใครฟัง
ถ้ามีคนมาทำร้ายความรู้สึก ก็ขอให้รับมืออย่างที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน ถ้าปล่อยได้ก็ปล่อยไป แค่คุณเงียบก็เป็นการบอกทางอ้อมแล้วว่าคุณไม่พอใจ แต่ถ้าคุณทนนิ่งเฉยไม่ไหว ก็แค่บอกเขาไปตามตรง ถ้าเขาไม่ยอมขอโทษก็เป็นฝ่ายเดินหนีไปซะ
เปิดใจให้กว้าง เพราะการเป็นผู้ใหญ่ ต้องรู้จักยอมรับและทำความเข้าใจ ถ้าพบเจอคนที่มีความเชื่อหรือนิสัยที่แตกต่างออกไปจากคุณ ขอได้อย่าด่วนตัดสินเขาแต่แรก พยายามฟังให้มากกว่าพูด อย่าเพิ่งมองใครในแง่ร้าย ไม่ว่าต้องเจอเรื่องอะไรก็ขอให้คิดไว้ก่อนว่าทุกคนก็เป็นคนธรรมดาๆ เหมือนกับคุณนั่นแหล่ะ เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจพูดจาโหดร้ายหรือทำร้ายจิตใจคุณก็ได้ หัดยอมรับคนอื่น ก็ถือเป็นอีกก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ได้เหมือนกันนะ
ให้มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ การมุ่งมั่นตั้งใจกับงานอดิเรกและทักษะที่ตัวเองถนัดคือวิธีเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองได้เป็นอย่างดี คุณจะได้รู้ว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้ขอเพียงตั้งใจจริง แถมยังเพิ่มพูนทักษะเจ๋งๆ เอาไว้ให้ได้แบ่งปันพูดคุยกับคนอื่นได้อีกด้วย ระวังจิตใต้สำนึกที่คอยตัดกำลังใจให้ดี ถ้าเริ่มคิดแย่ๆ กับตัวเองเมื่อไหร่ ลองคิดดูว่าจะพูดอะไรแบบนั้นกับเพื่อนของตัวเองหรือเปล่า ถ้าแย่เกินกว่าจะเอาไปพูดกับเพื่อน ก็ไม่ควรเก็บมาบั่นทอนตัวเองเหมือนกัน

3. พูดจาประสาผู้ใหญ่
ใจเย็นเข้าไว้ อย่าเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไรมาใส่ใจ มองการณ์ไกลถึงผลที่จะตามมาเมื่อคุณทำพลาด ถ้าคิดจะพูดอะไรออกไป ขอให้พูดอย่างสงบเยือกเย็น และโต้แย้งอย่างมีเหตุผล คนเป็นผู้ใหญ่ เวลาเขาพูดคุยสื่อสารกัน มักนิยมใช้วิธีและพฤติกรรมแบบเชิงรุก นั่นคือคนที่กล้าแสดงออก บอกความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของตนเองให้ผู้อื่นรับรู้ได้อย่างชัดเจน ในขณะที่รับฟังความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของผู้อื่นเช่นกัน ให้พูดจาสุภาพเสมอ และอย่าขึ้นเสียง คนอื่นเขาไม่ชอบหรอกนะถ้าคุณขึ้นเสียง โดยเฉพาะตอนโกรธ ถึงจะโกรธแค่ไหน ก็ขอให้พูดด้วยเสียงราบเรียบ สงบเข้าไว้
ภาษากายก็สำคัญเช่นกัน ไม่ควรยืนห่อเหี่ยวทำท่าทางเซ็งๆ หรือยืนกอดอก บอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณไม่สนใจรับฟังสิ่งที่เขากำลังพูด หัดสังเกตภาษากายตัวเองไว้ ให้แน่ใจว่ามันกำลังสื่อความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงของคุณ
พูดอะไรก็พูดให้น่าฟังเข้าไว้ ถ้าตอนนั้นหาคำพูดดีๆ มาพูดไม่ได้ DooDiDo แนะนำให้เงียบไว้ก่อนจะดีกว่า อย่าวิพากษ์วิจารณ์ไปซะทุกอย่าง อย่าอ้างว่า “พูดตรงๆ” โดยการพูดทำร้ายคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นขอให้คุณระวังคำพูด และอย่าพูดอะไรที่มันทำร้ายจิตใจคนอื่น
และนี่ก็คือวิธีการเป็นผู้ใหญ่ที่ SA Game ได้นำมาฝาก การที่เปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำตามนี้ รับรองเลยว่า จะไม่มีใครมาว่าคุณได้ว่า “ไม่โตสักที”
แหล่งที่มา : th.wikihow.com, men.kapook.com